“องอาจ” ระบุ “นายกฯยิ่งลักษณ์” รีบปรับ ครม.เหตุเจอโครงการจำนำข้าวพ่นพิษ เคลียร์ไม่ออก ทำเจ้าหน้าที่ป่วนวางตัว รมต.ร่วมคณะทัวร์นกขมิ้นมุกดาหาร ยโสธร สุดสัปดาห์นี้ และการเยือนโปแลนด์ ตุรกี ต้นสัปดาห์หน้าได้ ชี้การปรับ ครม.แค่เปลี่ยนหน้าเค้ก เพราะคนชักใยเหมือนเดิม มุ่งแต่จะแก้ปัญหาการเมือง ไม่ได้แก้ปัญหาประชาชน
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า เชื่อว่าจะเสร็จเรียบร้อยไม่เกินอาทิตย์นี้ เพราะรัฐมนตรีที่มีข่าวจะถูกปรับออกหรือคนใหม่ที่จะเข้ามา มีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน รมต.ที่จะถูกปรับออกเริ่มเก็บข้าวของเคลียร์งานแล้ว และวันที่ 30 มิ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี มีภารกิจทัวร์นกขมิ้นที่มุกดาหาร และยโสธร ขณะนี้ที่สำนักงานเลขาธิการนายกฯที่มีหน้าที่จัดภารกิจนายกฯยังไม่สามารถระบุรัฐมนตรีที่จะร่วมเดินทางไปกับคณะนายกฯได้ ทั้งที่วันอาทิตย์จะต้องเดินทางไปแล้ว ในทางปฏิบัติต้องเรียบร้อยหมดแล้ว เนื่องจากต้องเตรียมการหลายอย่างในการจัดการเกี่ยวกับการเดินทางของนายกฯและคณะ
นอกจากนี้ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ นายกฯจะไปประเทศโปแลนด์ และตุรกี ในขณะนี้ก็ยังไม่สามารถกำหนดรายชื่อ รมต.ที่จะร่วมเดินทางได้ ทั้งที่การเดินทางไปต่างประเทศต้องแจ้งรายชื่อคณะล่วงหน้าเพื่อให้มีการต้อนรับตามระเบียบพิธีการทูตที่เหมาะสม แต่เนื่องจากจะมีการปรับ ครม.จึงยังดำเนินการไม่ได้ ทั้งที่สองประเทศเร่งขอรายชื่อมาโดยตลอด
“สาเหตุที่จำเป็นต้องปรับ ครม.เกิดจากโครงการจำนำข้าวที่พ่นพิษใส่รัฐบาลโดยตรง เนื่องจากเป็นโครงการที่ประชาชน นักวิชาการ ภาคเอกชน นักธุรกิจ รวมทั้งการสำรวจความเชื่อถือของต่างประเทศก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือเป็นโครงการที่มีปัญหาหลายด้าน ทั้งการทุจริต การบริหารจัดการ ปัญหาด้านการแก้ไขสิ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตข้าวในประเทศไทย เพราะฉะนั้นการปรับ ครม.ครั้งนี้ต้องถือว่าปรับเพราะความล้มเหลว ผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ ทุจริตจากจำนำข้าว แม้รัฐบาลจะพยายามยื้อเวลามาหลายเดือนแต่ก็ไม่สามารถยื้อต่อไปได้เพราะความเสียหายเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสังคม”
ส่วนรายชื่อ ครม.ชุดใหม่นั้น นายองอาจ มองว่า เหมือนการเปลี่ยนครีมหน้าเค้กมากกว่าการเปลี่ยนเนื้อเค้ก คือการสลับคน เปลี่ยนหน้าที่แต่คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังยังเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นสังคมไทยคงไม่สามารถหวังผลได้ว่าการปรับ ครม.จะช่วยทำให้การแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการทุจริตจากโครงการจำนำข้าวและการทุจริตอื่น ไม่ว่าจะเป็นการส่อทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท รวมทั้งไม่สามารถทำให้ประสิทธิภาพในการบริหารดีขึ้น เนื่องจากผู้กำหนดแนวทางบริหารงานยังเหมือนเดิม การปรับ ครม.จึงเป็นแค่การแก้ปัญหาของรัฐบาลมากกว่าแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง
“หวังว่ายังมีเวลาก่อนที่ ครม.ใหม่จะคลอดออกมา นายกฯมีเวลาที่จะทำให้การปรับ ครม.ปู 5 สร้างความหวัง ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่ารัฐบาลจะสามารถฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคแก้ปัญหาประชาชนและประเทศชาติอย่างจริงจัง อยู่ที่นายกฯจะแสดงภาวะผู้นำ ความเป็นนายกฯเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองหรือไม่ หากทำได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบริหารประเทศต่อไปอีก 2 ปีข้างหน้า”