xs
xsm
sm
md
lg

หน.ปชป.เย้ยปรับ ครม.ไม่ช่วยอะไรถ้าคนเดิมยังบงการ หยันเช็กสต๊อกข้าวแค่ลดกระแส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เย้ยเปลี่ยนคนนั่ง รมต.ไม่สำคัญเท่ากล้าเผยข้อมูลโกงหรือไม่ เชื่อคนเดิมบงการก็ไม่ช่วยอะไร จี้ “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกฯ ตัวจริงเสียก่อน ซัดเช็กสต๊อกข้าวแค่วันเดียวได้คำตอบเป็นไปไม่ได้ หยันแค่ลดกระแสแต่หนีความจริงไม่พ้น แนะยอมรับก่อนว่ามีปัญหา

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับ ครม.ของรัฐบาลว่า ตัวบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไม่มีความสำคัญเท่ากับคนมาใหม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เช่น กระทรวงพาณิชย์ จะมีการเปิดเผยข้อมูลให้มีความโปร่งใสหรือไม่ สะสางการทุจริตไหม สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่าชื่อรัฐมนตรี เช่นเดียวกับปัญหาภาคใต้คือจะสะสางเรื่องการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นอย่างไร ไม่ให้ความรุนแรงในพื้นที่เพิ่มขึ้น เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีแต่คนบงการยังเหมือนเดิมก็ไม่ช่วยอะไรกับการบริหารประเทศ ความสำคัญจึงอยู่ที่ว่าคนเข้ามาทำงานจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือไม่ ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ปรับรัฐมนตรีไปก็เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่ากับตอนนี้การปรับ ครม.และการบริหารประเทศอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญที่ได้รับการโปรดเกล้าฯมีความรับผิดชอบตามรัฐธรรมนูญ ต้องสำนึกว่าตำแหน่งที่ได้มามีความรับผิดชอบอะไร ไม่ควรให้ใครมาบงการ อย่างไรก็ตามตลอดการบริหารของรัฐบาลยังไม่มีอะไรนอกจากวนไปเวียนมาไม่แก้ปัญหาประเทศ ปัญหาประชาชน จ้องผลักดันวาระที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวของพรรคพวกมากกว่า ส่วนที่รัฐบาลหวังว่าการปรับ ครม.จะช่วยยืดอายุรัฐบาลออกไปได้นั้น

“ผมเห็นว่ารัฐบาลนี้อยู่ได้ครบเทอม หากตั้งใจทำงานและรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม แต่ถ้าทำเรื่องยุ่งๆ จะปรับยังไงก็อยู่ยาก ปรับยังไงก็มีปัญหาทำให้อยู่ลำบาก ซึ่งเริ่มต้นนายกฯต้องทำตัวเป็นนายกฯตัวจริงเสียก่อน หากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้การบริหารก็ไม่เดิน มีความตึงเครียดตลอดเวลา อยากให้บ้านเมืองหลุดพ้นจากสภาพแบบนี้ จึงอยากให้รัฐบาลเดินหน้าทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำงานอย่างจริงจัง ปลดล็อกความขัดแย้งทางการเมืองก็หมดเรื่อง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการตรวจโรงสีทั่วประเทศภายในวันเดียวของรัฐบาลว่า ข้อมูลหลายอย่างขอมาเป็นปี รัฐบาลก็ยังไม่สามารถตอบได้ ดังนั้นการบอกว่าตรวจวันเดียวแล้วจะได้คำตอบนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ก็อยากรอดูว่าหลังตรวจสอบแล้วจะมีผลสรุปออกมาอย่างไร เพราะแม้จะตรวจสอบแบบรวดเร็วให้จบวันเดียวแต่กลับมีการบอกให้รู้ตัวล่วงหน้า ซึ่งตนเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำเพียงแค่ลดกระแสเท่านั้น ดีไม่ดีรัฐมนตรีอาจหายก่อนข้าว แต่รัฐบาลไม่สามารถหนีความจริงได้พ้น เพราะความเสียหายจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง ข้าวที่อยู่ในสต๊อกจะเป็นปัญหาต่อไปในการบริหาร สุดท้ายปัญหาก็จะย้อนกลับมาอีก

ส่วนกรณีที่รัฐบาลใช้ตำรวจกว่า 2 หมื่นนายไปตรวจสอบนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้ที่จะทำงานเรื่องนี้ต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องข้าว สามารถตรวจสอบได้ทั้งปริมาณและคุณภาพว่าตรงกับที่เอาเข้าไปในครั้งแรกหรือไม่ ซึ่งจะต้องใช้เซอเวเยอร์ และก่อนหน้านี้ ครม.ก็เคยอนุมัตงบประมาณ 157 ล้านให้ตำรวจไปเฝ้าโรงสีเพื่อป้องกันการทุจริต แต่ก็ไม่ได้ผล จึงคิดว่าการมอบหมายงานเป็นไปตามกระแส เช่น เคยบอกว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลปัญหานี้ แต่ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าถ้าปรับ ครม.จริงจะมีการเปลี่ยนคนรับผิดชอบทั้งหมดหรือไม่ ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาจริงสิ่งแรกที่ควรทำคือการยอมรับว่ามีปัญหา พูดความจริงกับประชาชนด้วยการเอาตัวเลขพื้นฐานออกมาเปิดเผยให้มีความโปร่งใส ยอมรับความเสี่ยงในทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการทุจริต แก้ไขอย่างจริงจัง

นายอภิสิทธิ์ ยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงเหตุผลที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้ตำรวจไปตรวจข้าวว่าเป็นการสะท้อนถึงสภาพรัฐตำรวจหรือไม่ โดยขอให้ไปถามรัฐบาลว่าเหตุใดจึงชอบใช้งานตำรวจให้ทำในเกือบทุกเรื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น