นายกฯ อารมณ์ดี ปรับ ครม.แล้ว ชมศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน อาชีวะมุกดาหาร ฝากผู้นำท้องถิ่นประสานเอกชนช่วยให้ความรู้แก่นักเรียนนำไปต่อยอดเปิดกิจการหรือสร้างบุคลากรป้อนโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนปล่อยคาราวานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แวะด่านพรมแดนด้วย นั่งหัวโต๊ะประชุมวางยุทธศาสตร์จังหวัด
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ จ.มุกดาหาร เมื่อเวลา 08.30 น. ภารกิจการลงพื้นที่ในวันที่ 2 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ในช่วงเช้านายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอย่างด้วยสีหน้าแจ่มใส และอารมณ์ดีถึงเหตุผลการปรับ ครม. พร้อมทักทายประชาชนและข้าราชการที่มาคอยต้อนรับที่โรงแรมริเวอร์ซิตี้ จากนั้นเวลา 09.00น . นายกฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ให้การต้อนรับ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เยี่ยมชมกิจกรรมของนักศึกษาและผลงานการเรียนการสอน อาทิ ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน หรือ Fix It Center การสาธิตนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ของนักเรียนนักศึกษา เป็นต้น
โดยนายกฯ กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นความร่วมมือของครู อาจารย์ นักศึกษา และผู้นำชมชนในการดำเนินการ Fix It Center ทำให้โครงการนี้ มีความก้าวหน้าไปได้ด้วยดี ขณะเดียวกันต้องขอความร่วมมือภาคเอกชนในการให้ความรู้และประสบการณ์แก่นักเรียนนักศึกษา ในการนำไปต่อยอดและอาจจะเป็นเจ้าของกิจการได้ในอนาคต เพราะรัฐบาลมีกองทุนตั้งตัวได้ให้การสนับสนุน รวมถึงเป็นการสร้างบุคลากรป้อนโรงงานอุตสาหกรรมด้วย ทั้งนี้อยากเห็น Fix It Center ก้าวหน้าต่อไป ต้องฝากไปยังผู้นำท้องถิ่นเป็นผู้ประสานงานกับภาคเอกชนต่อไป
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า การที่เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทำให้ต้องการบุคลากรด้านการศึกษา และสายอาชีพเป็นอย่างยิ่ง จึงอยากเห็นการสร้างบุคลากรสายอาชีวะให้มากขึ้น และอยากฝากไปยังนักศึกษาให้เก็บประสบการณ์ให้มากเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและนำไปสู่การสร้างตัวในอนาคต
จากนั้นนายกฯ ได้ปล่อยคาราวานมอเตอร์ไซค์ Fix It Center เพื่อไปช่วยซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ ให้แก่ประชาชนในชุมชุนต่างๆ
ระหว่างที่นายกฯ เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ แนวทางการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดและการจัดทำตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร และยโสธรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ที่โรงแรมริเวอร์ซิตี้ นายกฯได้ ถือโอกาสนี้แวะระหว่างที่ด่านพรมแดนมุกดาหาร เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยด้วย
ต่อมาเวลา 10.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดและการจัดทำตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดยโสธรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ โดยมีผู้ว่าฯ จ.มุกดาหาร ผู้ว่าฯ จ.ยโสธร ปลัดกระทรวง หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า เบื้องต้นได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศ 4 ด้านคือ 1.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการเพิ่มรายได้ให้กับประเทศและจังหวัดอย่างยั่งยืน 2. การลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการทำอย่างไรให้คนไทยพ้นจากความยากจน 3. การที่จะทำอย่างทำอย่างไรให้ชุมชนเติบโตแล้วเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4. โครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 หมื่นล้าน การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน เราจะทำอย่างไรให้มีความแข็งแรง มีการเชื่อมโยงกันเพื่อที่จะพลังสำคัญในการแก้ปัญหา และเป็นกลไกที่จะเชื่อมไปยังภาคเอกชนและประชาชน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้เราจะทำยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด คือการนำยุทธศาสตร์ระดับประเทศทั้ง 4 เรื่องมารวมเป็นแผนปฏิบัติการระดับจังหวัด ซึ่งเราจะบูรณาการแผนจังหวัดและการบูรณาแผนกระทรวงทุกกระทรวงมารวมกัน ซึ่งต้องดูว่าจังหวัดไหนมีเป้าหมายอย่างไร รวมถึงบูรณาการเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยจะวางกฎระเบียบให้ประชาชนอาเซียนทั้ง 10 ประเทศอยู่ด้วยกันด้วยความสันติ จะทำอย่างไรในเรื่องโครงสร้างภาษีที่ยังไม่เท่ากัน ซึ่งเอฟทีเอของกระทรวงพาณิชย์จะเป็นหลักสำคัญ เพราะเมื่อมีการเปิดการค้าเสรี หากเรื่องไหนที่เรามีความเสียเปรียบเมื่อเปิดสู่อาเซียนเราได้เปรียบก็จะดึงในส่วนนั้นมา รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และจะนำงานวิจัยทุกสถาบันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยจะเป็นการบูรณาการงานทั้งหมดในลักษณะแผนงานรวม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาให้มีพื้นฐานข้อมูลเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย 1. แผนที่เดียวกันเราจะใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 และ1 ต่อ4,000 เป็นตัวกำหนด โดยจะนำไปใช้ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 หมื่นล้านที่จะเชื่อมลุ่มน้ำ 16 ลุ่มน้ำ และในโครงสร้างพื้นฐาน 2ล้านล้านที่จะมีการเชื่อมด้านการคมนาคม 2. ข้อมูลทางสถิติที่จะนำมาเป็นชี้วัดการพัฒนาในแต่ละจังหวัด เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ของจังหวัด ซึ่งปีที่ผ่านมารายได้ของประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีด่านชายแดน ทั้งนี้ผู้ว่าฯ จะต้องเขียนแผนปฏิบัติออกมาว่าปีนี้มีอะไรเร่งด่วนที่จะต้องทำ ถ้าเห็นควรที่จะต้องทำ ถ้าปรับได้เราจะปรับให้ในปีนี้ และบางส่วนจะมีการตั้งงบประมาณในปีหน้าด้วย
"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรามาคุยกันในเรื่องยุทธศาสตร์จังหวัด ซึ่งเราพร้อมที่จะพัฒนาไปด้วยกัน ที่สำคัญความเข้าใจในการกำหนดยุทธศาสตร์ของจังหวัด เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้จังหวัดได้พัฒนาไปทิศทางเดียวกัน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
จากนั้นเวลา 16.00 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปยังวัดรอยพระพุทธภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหาร พระพุทธบาทภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างองค์พระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ที่ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 44,767,000 บาท โดยมีประชาชนสวมเสื้อแดงจำนวนมากมารอต้อนรับ
โดยนายกฯ กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า มาครั้งนี้เห็นความสวยงามของแม่น้ำโขง จึงเห็นว่าควรจะพัฒนาในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว และต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตามต้องขออภัยชาวมุกดาหารด้วยที่เมื่อวาน (30 มิ.ย.) ไม่ได้มา เนื่องจากต้องนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อรับตำแหน่ง ตอนนี้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่พร้อมทำงานแล้ว การมาครั้งนี้เพื่อลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนและข้าราชการที่เกี่ยวข้องในปรับยุทธศาสตร์ของจังหวัดให้มีรายได้ดี ส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มุกดาหารเป็นพื้นที่ที่เหมาะในการพัฒนา มีเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อในหลายประเทศ อีกทั้งรัฐบาลจะส่งเสริมการพัฒนาการแปรรูปการเกษตร รวมถึงการจัดโซนนิ่ง และระบบจัดการน้ำ เรารู้ว่าจังหวัดมุกดาหารมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง ซึ่งตรงนี้การบริหารจัดการแม่น้ำโขงเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เราพร้อมส่งเสริมสินค้าโอทอป และส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อรายได้ที่ดีของประชาชน
"อย่างไรก็ตามโซนนิ่งการเกษตรจะเกิดจากความสมัครใจของประชาชนรัฐบาลเป็นเพียงผู้นำเสนอ ให้ประชาชนเลือกเองว่าต้องการอย่างไร อีกทั้งเรายังจะชวนเอกชนมาร่วมลงทุน พร้อมรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้พื้นที่ สุดท้ายขอขอบคุณชาวมุกดาหารที่ให้กำลังใจและมอบความอบอุ่นให้หวังว่าจะได้กลับมาใหม่ในโอกาสต่อไป" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เข้ากราบนมัสการท่านเจ้าคุณพระรัตโนภาสวิมล เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร โดยท่านเจ้าคุณพระรัตโนภาสวิมล ได้ให้พรแก่นายกฯว่า "ขอให้อดขอให้ทน มันเป็นธรรมดา การทำงานย่อมมีการกระทบกระทั่งบ้าง ขึ้นอยู่กับตัวเราต้องอดทนแล้วจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขอให้กำลังใจให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ" พร้อมกันนี้ท่านเจ้าคุณพระรัตโนภาสวิมลได้มอบพระรูปสิงห์สอง ซึ่งเป็นพระสำคัญของจ.มุกดาหาร และพระพุทธรูปหินหยกของสมาชิกสภากาชาด ทั้งนี้นายกฯ ได้ถวายถวายพระพุทธรูปปางเลย์ไลยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้สวมเสื้อผ้าลายแก้วมุกดา ผ้าพื้นเมืองประจำจังหวัดมุกดาหาร พร้อมกับพูดกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า เสื้อที่ตนใส่สวยหรือไม่ และได้ทักทายกับประชาชน ถ่ายรูปก่อนที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่สนามจอด ฮ. ชั่วคราว เดินทางไปยัง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจติดตามงานและวางยุทธศาสตร์จังหวัดซึ่งถือว่าครั้งแรก