ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายเผากล้องวงจรปิดใน 6 อำเภอจ.นราธิวาส เสียหาย 20 ตัว เขียนป้ายผ้า "ขับไล่ทหารออกจากพื้นที่" ด้านความคืบหน้าลอบบึมทหารพลีชีพ 8 นาย พบเบาะแสคนร้ายกว่า 15 คนนัดวางแผนก่อน ที่จ.ปัตตานี มีพิธีส่งศพขึ้นเครื่องซี 130 กลับภูมิลำเนา "ยิ่งลักษณ์" ปิดปากเจอถามเกี่ยวควบกลาโหมหรือไม่ "ชวนนท์" อัด "ปู" ไม่มีแม้คำว่า "เสียใจ"ต่อทหารที่เสียชีวิต แต่กลับควบกระทรวงแก้ปัญหาใต้ เพราะหวังล้วงลูกโยกย้ายนายทหาร
เมื่อเวลา 04.00 น. วานนี้ (30 มิ.ย.) คนร้ายแยกย้ายกันใช้ยางรถจักรยานยนต์เป็นเชื้อเพลิงเผากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าใน 6 อำเภอ ของจ.นราธิวาส 12 จุด ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 20 ตัว แยกเป็นอ.เจาะไอร้อง 6 ตัว อ.จะแนะ 3 ตัว อ.เมือง 5 ตัว อ.บาเจาะ 6 ตัว นอกจากนี้คนร้ายได้นำป้ายผ้าเขียนข้อความภาษาไทย "ขับไล่เจ้าหน้าที่ทหารออกจากพื้นที่" ไปแขวนไว้ที่กิ่งไม้ริมถนนอ.ระแงะ บริเวณแยกต.มะรือโบ ทางเข้าหมู่บ้านสาเมาะ ต.มะรือโบตก พร้อมทั้งตระเวนใช้สีสเปรย์พ่นตามพื้นถนน และป้ายบอกทาง
เวลา 08.00 น. พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น และสั่งให้ทั้ง 5 สภ. ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เผื่อมีบางตัวใกล้จุดเกิดเหตุ บันทึกพฤติกรรมคนร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่าต้องการสร้างความปั่นป่วน
จากเหตุระเบิดบนถนนบ้านตรือปา-บ้านปาหวัง หมู่ 2 ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ทหารร้อย ร.4021 ชุดเฉพาะกิจ เสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เชื่อว่าจะเป็นของกลุ่มคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์ได้เก็บมาตรวจหาดีเอ็นเอ
นอกจากนั้นมีรายงานว่าก่อนะก่อเหตุลอบวางระเบิด มีกลุ่มคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 15 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ นำโดยนายอาบัส เจ๊ะอาลี และนายอุบัยดีละห์ รอมลี แกนนำจากอ.ยะหา จ.ยะลา นัดพบแนวร่วมในอ.กรงปินัง อ.บันนังสตา และอ.ยะหา ประชุมวางแผนบริเวณเทือกเขา รอยต่อห้วยต.กระทิง อ.กรงปินัง กับ ต.ปะแต อ.ยะหา จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป
เวลา 11.00 น. ที่สนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต.กิตติ อินทรสร รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีส่งศพทหาร 8 นาย สังกัดร้อย ร.4021 ซึ่งจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ มีนายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู นักเรียนในต.ห้วยกระทิง มาร่วมส่งศพจำนวนมาก โดยนายทหาร 80 นาย ร่วมกันแบกหีบศพเดินผ่านกองเกียรติยศที่ยืนให้ความเคารพ เพื่อขึ้นเครื่องบิน ซี 130 กองทัพอากาศ เดินทางไปยังกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ และจะสวดอภิธรรมศพร่วมกันที่วัดหลวง จ.นครสวรรค์ 1 คืน ก่อนจะแยกย้ายส่งศพ ไปบำเพ็ญกุศลยังบ้านเกิดต่อไป
โดยศพจ.ส.อ.วิโรจน์ คำเรือง จะบำเพ็ญกุศลที่วัดนครสวรรค์ ส.ท.คมกริช เพตะกร ที่วัดม่วงสุม จ.น่าน ส.ท.อานนท์ บางศิริ ที่วัดนิยมธรรมมาราม จ.ราชบุรี พลฯธีรพงษ์ ดวงสุวรรณ์ ที่วัดอุดมวัฒนา จ.นครสวรรค์ พลฯจีรพัฒนห์ บรรณสาร ที่วัดบ่อสามแสน จ.กำแพงเพชร พลฯพิษณุเดช หอยสังข์ ที่วัดคลองลึก จ.กำแพงเพชร พลฯศักดา วงษ์คำ ที่วัดป่านาหล่ม จ.กำแพงเพชร และพลฯสว่าง นามไพร ที่วัดโปร่งขาม จ.กำแพงเพชร
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อเดินทางต่อไปยังจ.ยโสธร โดยผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเหตุระเบิดที่จ.ยะลา จนมีทหารเสียชีวิต 8 ศพ ว่าจะมีความเกี่ยวโยงกับกระแสข่าวการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหม ของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ตอบคำถามใดๆ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียทหาร 8 นาย และเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสูญเสียทหารไม่เว้นแต่ละวัน ขณะที่ผู้มีอำนาจพยายามจะบอกว่าสถานการณ์ดีขึ้นจากการการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น และการสลับตัวบุคคลที่จะมาดูแลรับผิดชอบในขณะนี้ แสดงว่ารัฐบาลไม่มีทิศทางชัดเจนในการดูแลปัญหาภาคใต้ ละทิ้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ประชาชนในภาคใต้แล้วใช่หรือไม่ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ และไม่มีแม้กระทั่งคำว่าเสียใจต่อทหารที่เสียชีวิต
"นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ต้องทบทวนว่าชีวิตทหารและประชาชน คือ คนไทยภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่ใส่ใจที่จะเข้าไปดูแลแก้ไข เรื่องนี้โยงถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ที่อ้างว่าปรับเพื่อความเหมาะสม จึงต้องถามว่าเป็นความเหมาะสมของอะไร เพราะไม่ได้บอกว่าเป็นความลงตัวของประชาชนหรือพวกท่าน เป็นความเหมาะสมเพื่อประชาชน หรือเหมาะสมกับการแก้ปัญหาทางการเมืองของรัฐบาล"
นายชวนนท์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีไปนั่งควบตำแหน่งรนั้น พวกตนไม่มีปัญหา ถ้าอยากเข้าไปดูแลความมั่นคง และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ความจริงการเป็นหัวหน้ารัฐบาล สามารถแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว และ 2 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเอาใจใส่ในเรื่องนี้ ดังนั้นความเหมาะสมที่อ้าง จึงเป็นการลงตัวที่จะเพิ่มตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเพิ่มอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ หรือนายทหารระดับสูง ช่หรือไม่ เพราะตนมองเหตุผลอื่นไม่ออก เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีความใส่ใจในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงมาก่อน แสดงให้เห็นว่าละทิ้งปัญหาประชาชน ปล่อยให้ทหาร และประชาชน ต้องสังเวยชีวิตกับความไม่สงบรายวัน
นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสมัด ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้าครัฐมีความตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องเดือนรอมฎอนกันอย่างมาก โดยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) และพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)มีการเชิญผู้นำชุมชุน ผู้นำศาสนา ผู้นำองค์กรภาคประชาชนเกือบ 300 คน มาประชุมหารือถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงรอมฎอน โดยกำหนดกรอบกว้างๆถึงกิจกรรม รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยถึงประเด็นการถอนทหารออกจากพื้นที่ ซึ่งคนในพื้นที่เสนอให้เริ่มด้วยการลดโทนกฎหมายในบางพื้นที่ จากพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นพ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อนำร่องไปสู่การถอนทหารบางส่วนออกจากพื้นที่ช่วงเดือนรอมฎอนนี้.
เมื่อเวลา 04.00 น. วานนี้ (30 มิ.ย.) คนร้ายแยกย้ายกันใช้ยางรถจักรยานยนต์เป็นเชื้อเพลิงเผากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าใน 6 อำเภอ ของจ.นราธิวาส 12 จุด ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 20 ตัว แยกเป็นอ.เจาะไอร้อง 6 ตัว อ.จะแนะ 3 ตัว อ.เมือง 5 ตัว อ.บาเจาะ 6 ตัว นอกจากนี้คนร้ายได้นำป้ายผ้าเขียนข้อความภาษาไทย "ขับไล่เจ้าหน้าที่ทหารออกจากพื้นที่" ไปแขวนไว้ที่กิ่งไม้ริมถนนอ.ระแงะ บริเวณแยกต.มะรือโบ ทางเข้าหมู่บ้านสาเมาะ ต.มะรือโบตก พร้อมทั้งตระเวนใช้สีสเปรย์พ่นตามพื้นถนน และป้ายบอกทาง
เวลา 08.00 น. พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น และสั่งให้ทั้ง 5 สภ. ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เผื่อมีบางตัวใกล้จุดเกิดเหตุ บันทึกพฤติกรรมคนร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่าต้องการสร้างความปั่นป่วน
จากเหตุระเบิดบนถนนบ้านตรือปา-บ้านปาหวัง หมู่ 2 ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ทหารร้อย ร.4021 ชุดเฉพาะกิจ เสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เชื่อว่าจะเป็นของกลุ่มคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์ได้เก็บมาตรวจหาดีเอ็นเอ
นอกจากนั้นมีรายงานว่าก่อนะก่อเหตุลอบวางระเบิด มีกลุ่มคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 15 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ นำโดยนายอาบัส เจ๊ะอาลี และนายอุบัยดีละห์ รอมลี แกนนำจากอ.ยะหา จ.ยะลา นัดพบแนวร่วมในอ.กรงปินัง อ.บันนังสตา และอ.ยะหา ประชุมวางแผนบริเวณเทือกเขา รอยต่อห้วยต.กระทิง อ.กรงปินัง กับ ต.ปะแต อ.ยะหา จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป
เวลา 11.00 น. ที่สนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต.กิตติ อินทรสร รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีส่งศพทหาร 8 นาย สังกัดร้อย ร.4021 ซึ่งจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ มีนายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู นักเรียนในต.ห้วยกระทิง มาร่วมส่งศพจำนวนมาก โดยนายทหาร 80 นาย ร่วมกันแบกหีบศพเดินผ่านกองเกียรติยศที่ยืนให้ความเคารพ เพื่อขึ้นเครื่องบิน ซี 130 กองทัพอากาศ เดินทางไปยังกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ และจะสวดอภิธรรมศพร่วมกันที่วัดหลวง จ.นครสวรรค์ 1 คืน ก่อนจะแยกย้ายส่งศพ ไปบำเพ็ญกุศลยังบ้านเกิดต่อไป
โดยศพจ.ส.อ.วิโรจน์ คำเรือง จะบำเพ็ญกุศลที่วัดนครสวรรค์ ส.ท.คมกริช เพตะกร ที่วัดม่วงสุม จ.น่าน ส.ท.อานนท์ บางศิริ ที่วัดนิยมธรรมมาราม จ.ราชบุรี พลฯธีรพงษ์ ดวงสุวรรณ์ ที่วัดอุดมวัฒนา จ.นครสวรรค์ พลฯจีรพัฒนห์ บรรณสาร ที่วัดบ่อสามแสน จ.กำแพงเพชร พลฯพิษณุเดช หอยสังข์ ที่วัดคลองลึก จ.กำแพงเพชร พลฯศักดา วงษ์คำ ที่วัดป่านาหล่ม จ.กำแพงเพชร และพลฯสว่าง นามไพร ที่วัดโปร่งขาม จ.กำแพงเพชร
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อเดินทางต่อไปยังจ.ยโสธร โดยผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเหตุระเบิดที่จ.ยะลา จนมีทหารเสียชีวิต 8 ศพ ว่าจะมีความเกี่ยวโยงกับกระแสข่าวการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหม ของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ตอบคำถามใดๆ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียทหาร 8 นาย และเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสูญเสียทหารไม่เว้นแต่ละวัน ขณะที่ผู้มีอำนาจพยายามจะบอกว่าสถานการณ์ดีขึ้นจากการการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น และการสลับตัวบุคคลที่จะมาดูแลรับผิดชอบในขณะนี้ แสดงว่ารัฐบาลไม่มีทิศทางชัดเจนในการดูแลปัญหาภาคใต้ ละทิ้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ประชาชนในภาคใต้แล้วใช่หรือไม่ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ และไม่มีแม้กระทั่งคำว่าเสียใจต่อทหารที่เสียชีวิต
"นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ต้องทบทวนว่าชีวิตทหารและประชาชน คือ คนไทยภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่ใส่ใจที่จะเข้าไปดูแลแก้ไข เรื่องนี้โยงถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ที่อ้างว่าปรับเพื่อความเหมาะสม จึงต้องถามว่าเป็นความเหมาะสมของอะไร เพราะไม่ได้บอกว่าเป็นความลงตัวของประชาชนหรือพวกท่าน เป็นความเหมาะสมเพื่อประชาชน หรือเหมาะสมกับการแก้ปัญหาทางการเมืองของรัฐบาล"
นายชวนนท์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีไปนั่งควบตำแหน่งรนั้น พวกตนไม่มีปัญหา ถ้าอยากเข้าไปดูแลความมั่นคง และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ความจริงการเป็นหัวหน้ารัฐบาล สามารถแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว และ 2 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเอาใจใส่ในเรื่องนี้ ดังนั้นความเหมาะสมที่อ้าง จึงเป็นการลงตัวที่จะเพิ่มตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเพิ่มอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ หรือนายทหารระดับสูง ช่หรือไม่ เพราะตนมองเหตุผลอื่นไม่ออก เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีความใส่ใจในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงมาก่อน แสดงให้เห็นว่าละทิ้งปัญหาประชาชน ปล่อยให้ทหาร และประชาชน ต้องสังเวยชีวิตกับความไม่สงบรายวัน
นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสมัด ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้าครัฐมีความตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องเดือนรอมฎอนกันอย่างมาก โดยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) และพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)มีการเชิญผู้นำชุมชุน ผู้นำศาสนา ผู้นำองค์กรภาคประชาชนเกือบ 300 คน มาประชุมหารือถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงรอมฎอน โดยกำหนดกรอบกว้างๆถึงกิจกรรม รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยถึงประเด็นการถอนทหารออกจากพื้นที่ ซึ่งคนในพื้นที่เสนอให้เริ่มด้วยการลดโทนกฎหมายในบางพื้นที่ จากพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นพ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อนำร่องไปสู่การถอนทหารบางส่วนออกจากพื้นที่ช่วงเดือนรอมฎอนนี้.
