“สันติ” ปฏิเสธถูกลดเกรดจากเป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯ มานั่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ อ้างทุกกระทรวง ทุกรัฐมนตรีมีความสำคัญเท่ากัน มีหน้าที่ทำงานรับใช้นโยบายในการพัฒนาประเทศ จึงไม่มีเกรด ภูมิใจทำงานเสริมนายกฯ เชื่อ “ปวีณา” สานงานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ดี
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ก่อนเข้าทำงานอย่างเป็นทางการวันแรกวันนี้ (1 ก.ค.) ว่า วันนี้ได้เข้ามาทำงานเป็นวันแรก ขอเรียนว่างานประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการทำงานเพื่อสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ตามความสำคัญและความเหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน และเหมาะสมกับรัฐมนตรีแต่ละท่าน ซึ่งเรื่องการทำงานนั้นตนได้ทำงานร่วมกันกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คนเก่ามาตลอด มีการประสานการทำงานทุกขั้นตอนตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องของนโยบายรัฐบาลที่เราทุกคนรับทราบและนำมาปฏิบัติในการพัฒนาประเทศ
ส่วนที่มีการมองกันว่าถูกลดเกรดจาก รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯนั้น นายสันติกล่าวว่า คงไม่ใช่การลดเกรด เพราะการทำงานในภาคสังคม เช่น พม.จะเป็นงานดูแลเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ แต่ส่วนงานของสำนักนายกฯ ก็มีงานสำคัญมาก เป็นงานภาคบริหารภายใต้การบัญชาของนายกฯ และทุกงานของรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกกรมกองมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ต้องเรียนว่ารัฐมนตรีทุกท่านมีหน้าที่มาทำงานรับใช้นโยบายพัฒนาประเทศ ไม่มีเกรด
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาเวลานี้มีหลายเรื่องที่ถูกมองว่าเป็นระเบิดเวลา เมื่อมีการปรับ ครม.จะเป็นการยืดระยะเวลาให้รัฐบาลบริหารงานได้นานขึ้นหรือไม่ รมต.ประจำสำนักนายฯ กล่าวว่า นายกฯ ทุ่มเททำงานเพื่อบ้านเมืองในทุกภาคส่วน ตนเองมีความภูมิใจที่ได้มาอยู่ตรงนี้ เพื่อช่วยเป็นอีกกำลังหนึ่งให้นายกฯ ทำงานบรรลุนโยบายที่ท่านมุ่งหวังไว้ในการพัฒนาประเทศ เมื่อถามว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่หรือจะไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยใด นายสันติกล่าวว่า อยู่ที่ความตั้งใจในการทำงานของคณะรัฐบาลทุกคน ที่จะมองเห็นถึงประโยชน์ของประชาชน ความมั่นคงทั้งภาครัฐและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความทุ่มเทในการทำงานที่ตั้งใจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรถึงนางปวีณา หงสกุล รมว.พม.คนใหม่หรือไม่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นางปวีณาทำงานสังคมมามาก ถือเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในงานสังคม คงมีแต่ข้าราชการของกระทรวงที่ต้องทำงานทุ่มเทมากขึ้นหลายเท่าเพื่อผลักดันนโยบายของนางปวีณาด้วยความร่วมมือกันทุกคน