เกาะกระแส
00 ฉับพลันที่มีความเคลื่อนไหวปรบครม. ปู5 และมีรายชื่อแพลมออกมา รู้ชื่อรู้ตำแหน่งกันชัวร์ๆแล้ว หลายคนส่งเสียงครางฮือ เสียงที่ว่าไม่ใช่ออกมาในทางชื่นชม แต่ออกมาในทางตรงกันข้ามเพราะหลังจากนั้นเสียงโห่ดังอื้ออึงทั้งจากข้างนอกและพวกเดียวกันเอง เสียงด่าจาข้างนอกแน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติเพราะผิดหวังและไม่ให้ราคารัฐบาล โดยเฉพาะไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำคือ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาตั้งนานแล้ว ไม่เชื่อมั่นว่ามีสติปัญญามากพอที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองที่กำลังรุมเร้าอยู่ในเวลานี้ได้เลย กลายเป็นว่าการปรับครม.เที่ยวนี้เป็นการปรับเพื่อแก้ปัญหาหรือรักษาความมั่นคงของ "ครอบครัวทักษิณ ชินวัตร" และรักษา"หม้อข้าว"ของตัวเองเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นถือว่ารองลงไป
00 แต่ก็นั่นแหละเมื่่อปรับครม.มีเป้าหมายออกมาดังกล่าว นั่นคือยังเป็นการแบ่งเค้กกันเองภายในครอบครัว ตำแหน่งรมต.เกรดเอล้วนอยู่ในมือ เด็กในบ้าน หรือประเภท "ขี้ข้าดั้งเดิม" ที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่ประเภทที่ปากบอกว่าเป็นขี้ข้าแต่พอผิดหวังไม่ได้อย่างใจก็โวยวายป่วนไปทั่ว และแน่นอนว่าโฟกัสคราวนี้มองไปที่การ "ถ่าง"ควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม แม้ว่ามองว่าสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งตำแหน่งสำคัญคุมกองทัพ แต่นาทีนี้รู้กันอยู่แล้วว่ามีเป้าหมายเพื่อเข้าไปเพิ่มเสียงโหวตใน"สภากลาโหม" เพื่อวันหน้าอีกไม่นานจะมีการโหวตเพื่อแต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ และนายทหารระดับนายพลหลักๆที่กำลังจะมีขึ้น นั่นคือฤดูโยกย้ายนายทหารประจำปีในเดือนกันยายน และให้จับตาไปที่ตำแหน่ง ผบ.ทร.คนใหม่แทนคนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุในปีนี้ จากนั้นในปีถัดไป(ถ้าไม่ล่มไปเสียก่อน)ก็มาถึงงานใหญ่นั่นคือ ผบ.ทบ.คนต่อไปสืบแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นแหละ
00 ดังนั้นเมื่อ ส่งยิ่งลักษณ์ เข้ามาคุมกองทัพโดยตรงมันก็ทำให้เวลานี้ "ครอบครัวชินวัตร"ครอบครองทั้งตำรวจทหาร ดีเอสไอและอัยการได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะล่าสุดมีการแต่งตั้งให้ ชัยเกษม นิติสิริ มาเป็น รมว.ยุติธรรม ซึ่งจะว่าไปแล้วกรณีที่เกิดขึ้นยังเป็นการชี้ให้เห็นอีกว่า หากรับใช้กันสุดลิ่มแล้วก็ได้รับบำเหน็จรางวัลแบบนี้แล เพราะนอกจากนี้ล้วยังมีกรณีของ เบญจา หลุยเจริญ และ ยรรยง พวงราช ไงละ
00 อย่างไรก็ดีอีกมุมหนึ่งการปรับครม.เที่ยวนี้ได้เห็นอาการปริแยกเห็นได้ชัดเจนขึ้น ทั้งเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นภายในจากพวกที่ผิดหวัง ทั้งประเภทที่หลุดพ้นวงโคจรไปเลย หรือปรับแบบลดเกรดลงมากลายเป็น "จับกัง" อย่าง รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ล่าสุดเหมือนกับคน"ซดไวน์"เกินขนาดแล้ว "สติแตก" แต่มันก็ดีไปอย่าง เพราะผลจะทำให้ตอกย้ำความจริงขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งว่า "ทักษิณ ชินวัตร"บงการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทุกอย่าง และทำให้รับรู้จากปากของ เหลิม บางบอน ว่าสาเหตุที่ถูกทำโทษให้มาเป็น "จับกัง1" ก็เป็นเพราะถูก "ขี้ข้าอีกพวก"หนึ่งใส่ไฟ และก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า คนระดับ "ทวี สอดส่อง" จะเป็นต้นเหตุให้คนระดับ เฉลิม อยู่บำรุง ต้องพ้นจากเก้าอี้สำคัญไปได้ในชั่วข้ามคืน
00 เป็นที่น่าจับตาว่าอนาคตของ เหลิม จะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะงานนี้ถือว่าเขาได้เปิดหน้าชน "เจ้าของ" เต็มๆ แม้ที่ผ่านมาจะประกาศว่าตัวเองเป็น "ขี้ข้า" แต่อีกมุมหนึ่งนั้นเป็นความ "เขี้ยวลากดิน" เข้ามาหาประโยชน์คในพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนพวก 111 กลับมาแล้วความสำคัญก็เริ่มลดลง ซึ่งหากสังเกตก่อนหน้านี้ไม่นานนัก แม้ว ก็เคยบ่นว่ามีบางคน"หวังดีประสงค์ร้าย"ไม่อยากให้กลับบ้าน แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อใครตรงๆแต่ในวงการย่อมรู้ดีว่าหมายถึงใคร และเชื่อว่าการลดระดับลงมาเป็นรมว.แรงงานก็ยังถือว่าให้เกียรติมากแล้ว ขณะเดียวกันสำหรับเหลิมนาทีนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสสุดท้ายมองไม่เห็นอนาคตจึงรู้ตัวดีว่าจะมีชะตากรรมแบบไหน ถึงได้ฟาดงวงฟาดงาไปไกล ถึงขนาดซัด นายกฯปูว่า"ลอยตัวไม่รับผิดชอบ" พร้อมสำทับทำนองว่า "ขาดฉันแล้วจะรู้สึก" มันก็เหมือนกับคำขู่กลายๆให้สะดุ้ง เพราะบางคนภาพของ"นักแบล็กเมล์"สำหรับบางคนโดยเฉพาะคนในครอบครัวชินวัตรก็ "หนาว"ได้เหมือนกันนะ !!
00 แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วในพรรคเพื่อไทยสมาชิกทุกคนที่ไม่ใช่คนในครอบครวชินวัตรก็เป็นได้แค่ขี้ข้า เพียงแต่แบ่งเกรดไม่เหมือนกัน ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่คราวนี้มีการยกเก้าอี้สำคัญไปให้กับบางคน และอย่าได้แปลกใจหาก นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ถูกโยกมาจากสำนักนายกฯมาคุมเรื่องจำนำข้าวที่กระทรวงพาณิชย์เพราะมีมูลค่ามหาศาล เป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด แต่ขอโทษเป็นเรื่องสำคัญส่วนตัวเท่านั้นนะ ชาวนาไม่เกี่ยว ขณะเดียวกันเที่ยวนี้ยังชี้ให้เห็นว่า "บางปู"ยังแข็งแกร่งไม่เบา ไม่เช่นนั้น กิตติรัตน์ ณ ระนอง คงไม่เหนียวรั้งเก้าอี้รมว.คลังได้ต่อไป และกลายเป็นว่าหากปูยังอยู่โตงก็ต้องอยู่เป็นงั้นไป
00 ส่วนที่น่าสมเพช หมดสภาพแบบไร้ราคาเห็นจะเป็น สุกำพล สุวรรณทัต ที่ต้องพ้นจากเก้าอี้ รมว.กลาโหม แบบน่าอับอาย ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ก็อย่างว่าที่ผ่านมาก็ถือว่าตกรางวัลไปเยอะแล้วทั้ง รมว.คมนาคม จนมาถึงรมว.กลาโหม แต่เมื่อภารกิจเสร็จแล้วนั่นคือเอาชนักปักหลัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยการถอดยศทหารย้อนหลังลงได้เรียบร้อย แม้ว่าคดียังค้างคาในศาล แต่ก็ถือว่าทำได้เข้าเป้า เมื่อเสร็จงาน และตอบแทนกันเสร็จแล้วก็จบกัน ขณะที่ จตุพร พรหมพันธุ์ รายนี้ไม่รู้ว่าหลบไปเลียแผลที่ไหน หรือเตลิดเปิดเปิงที่ไหน เพราะวืดเก้าอี้รมต.ตัวจริงทุกครั้ง หรือวาสนาเป็นได้แค่"รัฐมนตรีในฝัน"เท่านั้นวะ !!