xs
xsm
sm
md
lg

ปรับครม.เปลี่ยน"ขี้ข้า" แบ่งเค้กกันเฉพาะครอบครัวชินวัตร !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เชื่อว่ารายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะออกมาตรงกับโผรายชื่อที่สื่อนำออกมาเผยแพร่ก่อนมีการประกาศ หรือหากเปลี่ยนแปลงก็คงไม่ได้ผิดเพี้ยนไปไกลมากนัก ซึ่งหากออกมาอย่างที่เห็นก็จะได้เป็นการตอกย้ำให้สังคมได้"ตาสว่าง"กันอีกครั้งว่า เวลานี้บ้านเมืองกำลังถูกครอบครองโดยครอบครัว "ชินวัตร" อย่างเบ็ดเสร็จ และการเปลี่ยนแปลงหรือการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดที่กำลังเกิดขึ้นก็มีลักษณะไม่ต่างจากการเปลี่ยนตัว "ขี้ข้า"บางคนออกไป หลังจากทำผลงานไม่ดี กลายเป็นจุดอ่อนเป็นภาระ ก็ต้องปรับเปลี่ยนออกไปก่อน หรือโยกไปนั่งเก้าอี้อื่นชั่วคราวก่อน

แม้ว่านาทีนี้ยังเป็นแค่ความเคลื่อนไหว บรรยากาศยังเหมือนกับว่าอยู่ในอาการลุ้นว่าใครจะไปใครจะมา แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะเจ้าของพรรคเพื่อไทยและเป็นเจ้าของรัฐบาลได้เคาะรายชื่อแล้วส่งให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากมองว่ามีการต่อรองหารือกันก็เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนแบ่งเค้กกันภายในครอบครัวของเขาเท่านั้น

เพราะตามรายงานยังระบุว่าในช่วงของการส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่และมีการกรอกประวัติกันที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ยังมีคนในครอบครัวชินวัตร บางคนวิ่งเข้าวิ่งออก เพื่อส่งรายชื่อรัฐมนตรีในโควตาของตัวเอง และหนึ่งในนั้นมีการยืนยันว่า พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย ทักษิณ ชินวัตร ยังเข้าไปหารือด้วย แบบนี้จะให้คิดอย่างไร

สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีที่อยู่โคณะรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์ 5" ทั้งหน้าเก่าที่โยกสับเปลี่ยนตำแหน่ง อย่างเช่น นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นี่ก็ถือว่าไม่ต่างจากเด็กในบ้านมานมนานเมื่อครั้งสมัยที่อยู่ในเครือบริษัท "ชินคอร์ป" รับใช้กันมาต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อมีการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อหกเดือนก่อนก็ถูกส่งเข้ามาจับงานใหญ่ นั่นคือ "ประธานคณะกรรมการประสานงานโครงการทวาย"ติดตาม"ติดตามความคืบหน้าการลงทุนโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษในทวายของพม่าทั้งที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งนาทีนี้ไม่ต้องมาสาธยายกันแล้วว่า มี ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่

สำหรับในส่วนของกระทรวงการคลัง ได้เห็นความเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่ตามข่าวระบุว่าเป็น เบญจา หลุยเจริญ ที่เพิ่งลาออกจากอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีดังกล่าว หากเป็นจริงก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะนี่คือการตอบแทนรางวัลให้กับข้าราชการที่ทำตัวรับใช้อย่างซื่อสัตย์ เนื่องจากหาย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เธอรับราชการที่กรมสรรพากรก็เอื้อประโยชน์ในเรื่องภาษีในกรณีขายหุ้นชินคอร์ปมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งยังอาจ "จงใจ"ทำให้เป็นตัวอย่างสำหรับคนอื่นได้เห็นหาก "รับใช้ทักษิณ"อย่างซื่อสัตย์แล้วในวันหน้าก็จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ดังนั้นอย่ามัวลังเลหรือรีรอเป็นอันขาด

ยังมีอีกหลายตำแหน่ง หลายเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ออกมาในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ว่าเมื่อยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ก็ต้องอดใจรออีกระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ดีความเคลื่อนไหวที่ออกมาเป็นความพยายามในการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนตัวบุคคลในจุดที่มปัญหา และล้มเหลวจนทำให้รัฐบาลเกิดอาการ "เสียศูนย์" จนเร่งภาวะ "ขาลง"ให้ดิ่งเหวเร็วขึ้น เพราะหากโฟกัสเข้าไปก็จะเห็นถึงการเปลี่ยนตัวบุคคลในกระทรวงสำคัญ เริ่มตั้งแต่กระทรวงกลาโหมที่ข่าวสะพัดว่านายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมานั่งควบ แล้วดึง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จากเดิมที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและล่าสุดเป็นที่ปรึกษานายกฯถูกดึงกลับมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หรือแม้แต่ให้กลับมานั่งเก้าอี้รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงเพื่อช่วยดูแลขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เละเทะอยู่ในเวลานี้ ขณะเดียวกันในฐานะนายกฯที่ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนอกจากเป็นเกียรติประวัติที่เป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งตำแหน่งนี้แล้ว ยังสามารถ"ปรับจูน"ความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยเฉพาะการพิจารณางบประมาณในการจัดซื้ออาวุธ

ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นคลัง พาณิชย์ คมนาคม มหาดไทย ยุติธรรม ซึ่งมีทั้งคนเก่าและเปลี่ยนคนใหม่ แต่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนใกล้ชิด ไม่ต่างเด็กในบ้าน หากพูดกันแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมก็ต้องเรียกว่า "ขี้ข้า"นั่นแหละ เพราะคนพวกนี้ถูกส่งเข้ามาคุม "หม้อข้าว" เข้ามารักษาประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่เกิดขึ้นก็เป็นเพียงการแบ่งเค้กกันเองในหมู่ครอบครัวชินวัตรของทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น เพียงแต่ว่านาทีนี้อาจมีต้องมีการเพิ่มโควตากันแบบยิบย่อยออกไปเพิ่มเติมอีกมากกว่าเดิม จากอดีตที่อาจเพิ่มก๊วนของ ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯก็ต้อง "สร้างบาง"ให้กับตัวเองบ้าง แต่ล่าสุด ต้องเพิ่ม "กลุ่มโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร เขาไปอีก มันถึงได้บอกว่าสำหรับรัฐบาลชุดนี้กำลังบริหารประเทศไม่ต่างจาก"บริษัทชินวัตร" ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน

เพราะสภาพที่เป็นอยู่แม้แต่ขี้ข้าของ "ครอบครัวชิน"ก็ยังมีการแบ่งเกรดแบ่งอันดับว่าอยูในระดับใด ก็สามารถพิจารณาได้จากการได้คุมกระทรวงเกรดไหน รวมไปถึงคนที่ยังเหนียวหนึบปรับคณะรัฐมนตรีกี่ครั้งก็ยังอยู่ทน ทั้งที่ที่ผ่านมาแทบไม่รู้จัก หรือไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ลักษณะอย่างที่เห็นเป็นแบบนี้จริงๆ สวนรัฐมนตรีในกระทรวงอื่น ทั้งว่าการหรืวยว่าการ ก็เป็นเพียงการสับเปลียนหรือเกลี่ยกันไปให้ทั่วทุกกลุ่มก๊วน เพื่อรักษาฐานการสนับสนุนเอาไว้ต่อไปเท่านั้นเอง ไม่ว่าหน้าใหม่และหน้าเก่าล้วนแล้วแต่ไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องการแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน หรือเป็นความหวังได้เลย แต่หากมองอีกมุมหนึ่งมันก็ดีเหมือนกัน หากมองว่านี่คือการประจานระบอบทักษิณ ว่ามันเห็นแก่ตัวอย่างไร !!

กำลังโหลดความคิดเห็น