เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- ประธานาธิบดีซาเคียจิน เอลเบกดอร์จ เจ้าของฉายา “โธมัส เจฟเฟอร์สันแห่งมองโกเลีย” เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำมองโกเลียตามคาด ส่งผลให้เขาจะได้ครองอำนาจต่อเป็นสมัยที่ 2
คณะกรรมการการเลือกตั้งมองโกเลียเผยว่าประธานาธิบดี เอลเบกดอร์จจากพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 50.2 หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่งของคะแนนเสียงทั้งหมดทำให้จะได้ครองอำนาจต่ออีก 4 ปี หลังจากที่ผู้นำวัย 50 ปีรายนี้ก้าวขึ้นครองอำนาจมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2009
รายงานข่าวระบุ อดีตนักหนังสือพิมพ์อย่างเอลเบกดอร์จ ซึ่งถูกมองเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีนโยบายเป็นมิตรกับนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด เป็นฝ่ายที่ได้คะแนนทิ้งห่างคู่แข่งอีก 2 รายในการชิงชัยครั้งนี้โดยนายบาดมานยัมบู บัต เออร์เดน อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคแกนนำฝ่ายค้านคือพรรคประชาชนมองโกเลียได้คะแนนเสียงตามมาที่ร้อยละ 41 ขณะที่นางนัตซาจิน อุดวาล อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์มองโกเลียที่ประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้คะแนนน้อยกว่าร้อยละ 10
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการการเลือกตั้งมองโกเลียระบุว่า จะยังคงไม่มีการยืนยันผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จนกว่าการตรวจสอบผลคะแนนซ้ำเป็นรอบที่ 2ที่จะมีขึ้นในกรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของประเทศจะเสร็จสิ้น
ผลการเลือกตั้งที่ออกมาสอดคล้องกับมุมมองของบรรดาผู้สังเกตการณ์ และผู้เชี่ยวชาญการเมืองมองโกเลียที่ต่างให้ความเห็นว่าประธานาธิบดี เอลเบกดอร์จ น่าจะเป็นผู้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ไม่ยากเย็นนัก
ทั้งนี้ ซาเคียจิน เอลเบกดอร์จ ซึ่งได้รับฉายาว่า “โธมัส เจฟเฟอร์สันแห่งมองโกเลีย” ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกันเขายังได้รับการยกย่องจากประชาชนจำนวนไม่น้อย จากผลงานในการปฏิรูปเศรษฐกิจตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยในปีที่แล้ว เศรษฐกิจมองโกเลียมีการเติบโตสูงถึง 12 เปอร์เซ็นต์ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะผลจากการลงทุนจากต่างชาติในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของประเทศ