ผู้บริหารเค วอเตอร์ หนีบทูตเกาหลีในไทย แถลงโต้เอ็นจีโอสิ่งแวดล้อม ยันหนี้สินไม่สูงถึง 700% ตามที่เป็นข่าว อีกทั้งไร้ปัญหามลพิษโครงการแม่น้ำ 4 สาย เตรียมฟ้องเอ็นจีโอทั้งศาลไทยและเกาหลี ยันจริงใจรับงานรัฐบาลไทยแก้น้ำท่วม รู้ดีว่าจะถูกต้านแต่ก็น้อมรับคำวิจารณ์
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่อาคารไซเบอร์เวิลด์ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง บริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ เค วอเตอร์ รัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งชนะการประมูลการบริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ของรัฐบาลไทย 2 โครงการ คือ คือ โมดูล เอ 3 และโมดูล เอ 5 ซึ่งเป็นโครงการแก้มลิงและฟลัดเวย์ ภายใต้วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ได้แถลงข่าวหลังจากที่ที่นายยัม ฮยอง โชว ผู้อำนวยการสหพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึงบริษัทดังกล่าวว่ามีสถานะการเงินย่ำแย่ มีหนี้สินเพิ่มขึ้นถึง 758 เปอร์เซ็นต์ จนมีหนี้สินสูงกว่าทุน รวมทั้งโครงการที่เค วอเตอร์เคยดำเนินการมีปัญหาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ การแถลงข่าวดังกล่าวถูกเลื่อนออกไป จากเวลา 14.00 น.เป็น 15.00 น.โดยมีนายมณฑล ภานุโภคิน กรรมการผู้จัดการเค วอเตอร์ พร้อมผู้บริหารชาวเกาหลี ได้แก่ นายยุน บยอง ฮุน รองประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ และอำนวยการทั่วไปของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งมีเอกอัครราชทูตสาธารณเกาหลีประจำประเทศไทย โดยได้ชี้แจงเพื่อแสดงจุดยืนตอบโต้นักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมที่ออกมาให้ข่าว ทำให้รัฐบาลและเค วอเตอร์ สร้างความเข้าใจผิดต่อรัฐบาลไทย โดยเฉพาะสถานะการเงินของบริษัทที่มีหนี้สินสูงถึง 700 เปอร์เซ็นต์นั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งบริษัทฯ น้อมรับคำวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ และมีความจริงใจที่จะร่วมกับรัฐบาลไทยเดินหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ
นายยุน บยอง ฮุน รองประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ เค วอเตอร์ กล่าวว่า จากข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงซึ่งขยายวงกว้าง และหวั่นจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บริษัทตั้งใจเข้าร่วมประมูลสุดความสามารถโดยไม่หวังผลกำไร เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยให้กับประเทศไทย โดยเข้าใจดีว่าโครงการลักษณะนี้จะต้องถูกต่อต้าน แม้จะมีประโยชน์ต่อส่วนรวม เค วอเตอร์ พร้อมน้อมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ แต่ไม่สนับสนุนข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง รัฐบาลเกาหลีและบริษัทไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศไทยในอนาคต และทำลายความเชื่อของคนไทย ซึ่งหวังว่าได้รับความเป็นธรรมเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ กระบวนการคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้าร่วมโครงการน้ำของรัฐบาลไทยมีกระบวนการที่เคร่งครัด และโปร่งใส หากเค วอเตอร์ ได้เป็นคู่สัญญา จะดำเนินการตามที่กฎหมายไทยทุกประการ และอยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องร้องเอ็นจีโอตามกฏหมายเกาหลี และกฎหมายไทย เนื่องจากหลายข้อมูลที่เปิดเผยออกมา ไม่เป็นความจริง ในปี 2555 เค วอเตอร์ มีทรัพย์สิน 6.76 แสนล้านบาท รายได้ 9.9 หมื่นล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 122.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับอัตราส่วนหนี้สินเฉลี่ยของรัฐวิสาหกิจเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ที่ 195 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์เงินของเค-วอเตอร์ จึงมีเสถียรภาพมากกว่ารัฐวิสาหกิจรายอื่น ผลการจัดอันดับของสถาบันการเงินชั้นนำของโลก สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ ความหน้าเชื่อถือของบริษัท โดยมูดีส์ อยู่ในอันดับ A1 และเอสแอนด์พี ในอันดับ A+
นอกจากนี้ โครงการฟื้นฟูแม่น้ำ 4 สายที่ทำให้เกิดมลพิษในประเทศเกาหลีนั้นไม่เป็นความจริง เค วอเตอร์ ได้ดำเนินโครงการตามขั้นตอนทางกฎหมายทุกฉบับอย่างถูกต้อง ในการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูแม่น้ำ 4 สายหลักจนประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.การเงินแห่งชาติ พ.ร.บ.แม่น้ำ พ.ร.บ.การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และกฎหมายอื่นๆ รวมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายผ่านคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ สร้างความเข้าใจกับสาธารณชนและทำประชาพิจารณ์ เค-วอเตอร์ ในฐานะผู้ถูกยื่นฟ้อง ชนะในทุกคดีที่องค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมาย ส่วนกรณีที่ศาลปกครองไทยตัดสินให้โครงการน้ำต้องประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อนนั้น บริษัทพร้อมที่จะดำเนินการกฎหมายไทย แต่ต้องขอดูในรายละเอียด โดยพร้อมทำตามข้อตกลงของรัฐบาลไทย