ผู้อำนวยการช่อง 5 แจง ตัดกลางอากาศสกู๊ป เค วอเตอร์ โบ้ยหน้าที่บรรณาธิการ อ้างเนื้อหาไม่ชัดสถานีไม่เสี่ยง หวั่นถูกฟ้อง รับรู้เรื่องที่หลัง ยัน 100% ไร้เบื้องหลัง เรียกผู้แลสอบแล้ว ย้ำเป็นบทเรียน ต้องรอบคอบ เผย ผบ.ทบ.สั่งข่าวข้อมูลต้องชัวร์ อย่าทำแบบนี้
วันนี้ (27 มิ.ย.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่มีการสั่งระงับการออกอากาศรายการ “ฮาร์ดคอร์ข่าว” ขณะที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของบริษัท เค วอเตอร์ ที่ชนะการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของรัฐบาล โดยตัดเข้าโฆษณามาแทรกกะทันหันว่า เรื่องนี้บรรณาธิการข่าวเป็นผู้ดูแล เมื่อข่าวที่นำเสนอเกิดความผิดพลาด โดยเฉพาะเนื้อหาที่ยังไม่ชัดเจนสถานีนี้จะไม่ออกอากาศ ดังนั้นจึงต้องระงับการเผยแพร่ทันที เพราะหาก ททบ. 5 นำเสนอไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอาจถูกฟ้องร้องได้ ถือเป็นการป้องกันไว้ก่อน โดยทางบรรณาธิการได้ตัดสินใจระงับการออกอากาศ ซึ่งตนทราบเรื่องเวลา 20.00 น.ของวันเดียวกัน โดยผู้ที่รับผิดชอบรายงานให้รับทราบและอธิบายถึงสาเหตุว่า สกู๊ปดังกล่าวยังไม่ชัดเจน เกรงว่าจะถูกฟ้องร้องได้ ยืนยันว่า การตัดสินใจการระงับการออกอากาศไม่มีใครสั่งการ เป็นการตัดสินใจของบรรณาธิการ
“ผมยืนยัน 100% ว่า ไม่มีใครเข้ามาแทรกแซงหรือสั่งการใดๆ ทั้งสิ้น ผมได้เรียกบรรณาธิการที่รับผิดชอบรายการดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งทางบรรณาธิการยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพราะตัดสินใจด่วนที่นำสกู๊ปดังกล่าวมาเผยแพร่ ทั้งที่ควรตรวจสอบมากกว่านี้ก่อน ผมได้กำชับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นให้ถือเป็นบทเรียน ต้องไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีก การเสนอข่าว ททบ.5 ต้องมีความรอบคอบ เป็นไปตามนโยบายให้ถูกต้องชัดเจนและเชื่อถือได้ อย่าทำงานรีบร้อนต้องตรวจสอบให้ละเอียด ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งกำชับภายหลังทราบข่าวว่า การทำงานด้านข่าวต้องเชื่อถือได้ ไม่ใช่ทำแบบนี้ แต่ถือว่ายังโชคดีที่ระงับการออกอากาศทัน” ผอ.ททบ.5 ระบุ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของบริษัท เค วอเตอร์ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีถือหุ้นร้อยละ 99 นั้น นายยัม ฮคองเชิล ผู้อำนวยการสหพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ (Korean Federation Environmental Movement : KFEM ) เป็นผู้นำมาเปิดเผยเองในเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการจัดการน้ำระหว่างเครือข่ายภาคประชาชนไทย และเครือข่ายสิ่งแวดล้อมประเทศเกาหลีใต้ ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย นายยัม กล่าวว่า เค วอเตอร์ มีประวัติที่ไม่ดีนัก โดยแต่เดิมบริษัทแห่งนี้ดำเนินการในการพัฒนาระบบน้ำ แต่ต่อมาได้หันมารับงานก่อสร้างอื่นๆ จากปี 2008-2011 เค วอเตอร์ ได้ดำเนินโครงการสร้างเขื่อนใน 4 แม่น้ำและคลองกังงิน รวมระยะทางทั้งหมด 600 กม.โดยใช้งบประมาณสูงถึง 5,945,000 ล้านบาท ทำให้ก่อหนี้สินสูงขึ้นถึง 758% ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ประสบความล้มเหลวของเค วอเตอร์ มากที่สุด ทำให้คนเกาหลีใต้เกือบ 80% ต่อต้านโครงการสร้างเขื่อนดังกล่าว ขณะที่ความไม่โปร่งใสเรื่องการเงินนั้นอยู่ในช่วงการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของเกาหลีใต้ และสำนักงานตรวจสอบการทุจริต เพราะเข้าข่ายทำผิดกฎหมายการเงิน