“พิภพ” มั่นใจประชาธิปไตยไทยใกล้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะประชาชนมีการตื่นตัวสูงมาก เชื่อความขัดแย้งจะทำให้เกิดทางออกใหม่ๆ ด้าน “ประพันธ์” ชี้ “พรรคการเมืองนายทุน” เป็นศัตรูตัวร้ายกาจที่สุดของประชาธิปไตย พร้อมลั่นกำจัดระบอบพรรคนายทุนจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของประชาชน
วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 20.30 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถึงประเด็น “81 ปี ประชาธิปไตยไทย”
โดยนายพิภพกล่าวว่า ถึงวันนี้ประชาชนมีความตื่นตัวสูงมากกว่าในอดีต และแม้ว่าสื่อหลักจะถูกครอบงำโดยรัฐ แต่มันไม่มีประสิทธิภาพแแล้ว เพราะมีสื่อกระแสทางเลือกมากมาย แม้กระทั่งโซเชียลมีเดียที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ได้สูงมาก ฉะนั้น ความกังวลว่าประชาธิปไตยไทย 81 ปีที่ผ่านมาช้าเหลือเกิน แต่วันนี้เป็นต้นไปมันจะเร็วขึ้น เพราะประชาชนทุกสีตื่นตัวสูงขึ้นมาก รวมถึงคนที่ไม่เคยออกแสดงจุดยืนในที่สาธารณะมาก็ออกมากันแล้ว เห็นได้จากปรากฎการณ์หน้ากากขาวก็ชัดเจนว่าสูงมาก มองไปอนาคตไม่ต้องกังวลเพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้น เพราะความตระหนัก ความมีจิตสำนึก ของคนชั้นกลางสูงกว่าสมัยก่อน
เมื่อถามว่าในอดีตประชาชนมีศัตรูคนเดียวกันคือเผด็จการทหาร แต่ปัจจุบันประชาชนเป็นศัตรูกันเอง สิ่งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยหรือไม่ นายพิภพกล่าวว่า สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ความขัดแย้งจะนำไปสู่มิติใหม่ๆ แต่เราต้องทำอย่างไรไม่ให้ความขัดแย้งนำไปสู่การเสียเลือดเนื้อที่มากเกินไป ต้องดูแลตรงนี้ให้่ได้ แล้วเมื่อความขัดแย้งดำเนินต่อไปมันจะเกิดทางออกใหม่ๆ
ด้านนายประพันธ์กล่าวว่า ประชาธิปไตยไทยยังมีหวัง ประเทศอเมริกามีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 226 ปี เยอรมนี 66 ปี ฝรั่งเศส 55 ปี ถ้าจะให้พูดว่าศัตรูที่ขัดขวางระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงขณะนี้คือ กลุ่มทุนทางการเมือง ที่ครอบงำระบอบการเมือง ทั้ง สภา ส.ส. และกลไกรัฐทั้งหมด นายทุนพรรคการเมืองนั้นถือว่าเป็นศัตรูตัวสุดท้ายของระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่อดีตเราสู้กับเผด็จการทหาร จนคณะทหารถูกประชาชนต่อสู้จนหมดอำนาจไปแล้ว เวลานี้ถอยไปเป็นทหารในระบอบประชาธิปไตย โอกาสที่จะยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อนไม่มีแล้ว
พรรคการเมืองนายทุน หรือระบอบทักษิณ หรือกลุ่มอื่นที่ยังเหลืออยู่ขณะนี้ ถือว่าเป็นศัตรูตัวสุดท้ายที่จะถูกประชาชนกำจัด เพราะถ้าพ้นจากพรรคการเมืองนายทุนกลุ่มพวกนี้แล้ว ก็ไม่น่าจะมีกลุ่มอำนาจมืดอิทธิพลเถื่อนกลุ่มไหน ที่จะเข้ามายิ่งใหญ่ในระบอบการเมืองได้อีก เพราะเป็นยุคสมัยที่ประชาชนลุกขึ้นมาทวงอำนาจประชาธิปไตยที่แท้จริงของตัวเอง
ฉะนั้น การเดินทางประชาธิปไตยของทุกประเทศผ่านเส้นทางการต่อสู้แบบนี้ทั้งสิ้น คือต่อสู้กับกลุ่มที่ปล้นเอาอำนาจระหว่างทางของประชาชนไป เหลือกลุ่มสุดท้ายที่เป็นศัตรูตัวร้ายกาจที่สุดของระบอบประชาธิปไตย เพราะพวกนี้พยายามทำตัวเป็นประชาธิปไตยแต่จริงๆ แล้วเป็นเผด็จการอย่างชัดแจ้ง วันนี้กลุ่มต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรฯ หน้ากากขาว ฯลฯ เป็นพัฒนาการการต่อสู้ของประชาชน
“การต่อสู้ที่น่าจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายเพื่อประชาธิปไตยของประชาชน คือ ล้างการเมืองระบอบพรรคนายทุนที่ครอบงำระบอบสภา และพยายามครอบงำรัฐธรรมนูญ และใช้อำนาจเพื่อโกงกินทุจริต นี่คือศัตรูของระชาธิปไตยตัวสุดท้ายที่จะถูกประชาชนกำจัด แล้วผมก็เชื่อว่าพลังของประชาชนที่สนับสนุนและหนุนเนื่องขึ้นมาทุกวันนี้ จะเป็นตัวกำจัดสิ่งเหล่านี้ไปด้วยพลังของประชาชน” นายประพันธ์กล่าว
