“มาร์ค” ชี้ธุรกิจการเมืองปัญหา ปชต.ยุคนี้ ซัดพวกละเมิดสิทธิทำทุกอย่างเพื่ออำนาจ

หน.ปชป.จ้อโอกาสครบ 81 ปี ปชต.ไทย เผยแต่ละยุคเจอปัญหาต่างกัน เผด็จการสังคมโลกต้าน สมัยนี้มีธุรกิจการเมืองกับพวกใจไม่เป็น ปชต. อาศัยเงินอำนาจ เผด็จการ รับมีกลุ่มตื่นตัวเรื่องสิทธิ แต่ไม่สนคนอื่น ย้อนไร้ความคิด ปชต.ทำทุกอย่างแค่ให้พวกมีอำนาจ เป็นอันธพาลการเมือง ชี้ชาติอยู่บนทาง 3 แพร่ง ทั้งเรื่อง กม.ล้างผิด ประชานิยมเหลาพ่นพิษ แนะให้สังคมตั้งหลักเรียนรู้พัฒนา ปชต. รับยากแต่ยังหวัง

วันนี้ (24 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 81 ปี เหตุการณ์อภิวัฒน์ประชาธิปไตยไทย ว่าถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2475 ถึงวันนี้เป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร ซึ่งหลายเรื่องก็มีความเปลี่ยนแปลงมีการพัฒนาไปทางที่ดีขึ้น สอดคล้องกับความเป็นประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ตลอดระยะที่ผ่านมาความท้าทาย หรือภัยคุกคามหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบอบประชาธิปไตยก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละยุค แต่ละสมัย แต่ระยะหลังจะเจอกับปัญหาธุรกิจการเมือง และรูปแบบของปัญหาระบอบประชาธิปไตยที่ต้องเจอกับคนในระบอบที่จิตวิญญาณไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เลยมีการพยายามที่จะใช้วิธีการที่แยบยลขึ้น ไม่เหมือนเผด็จการสมัยก่อน อาจจะใช้อิทธิพลทางการเงิน อิทธิพลอำนาจรัฐ ทำให้บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยเท่าที่ควร ซึ่งก็จะสะท้อนจากภาพการทำงานของหลายภาคส่วนในสังคม

“เวลานี้เรายังอยู่บนทางสามแพร่ง เราจะไปติดกับดักในเรื่องของความขัดแย้งเดิมๆ ซึ่งเป็นปัญหาของเรามาหลายปีแล้ว มาถึงวันนี้ผ่านไปอีก 1 ปีก็ยังคุกรุ่นอยู่ โดยทางเส้นที่ 1 คือ เรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรม ทางที่ 2 ก็อาจจะสะดุดหยุดลงเพราะปัญหาประชานิยม แล้วก็ลุกลามไปเป็นปัญหาการเมือง เพราะ 1 ปีที่ผ่านมาก็มาเจอกับเรื่องจำนำข้าว ซึ่งกำลังพ่นพิษ และมีความพยายามปลุกระดมให้เกิดความขัดแย้งกัน ส่วนทางที่ 3 ถ้าเกิดสังคมสามารถที่จะตั้งหลักได้ เอากระบวนการของการเรียนรู้ของสังคมมาพัฒนาประชาธิปไตยให้มันสอดคล้องกับเจตนารมณ์เราก็จะเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งผมหวังว่าประเทศจะเดินไปในทางที่ 3 แม้ต้องยอมรับว่านับวันก็ยากที่จะคาดหวังจากผู้มีอำนาจในปัจจุบัน แต่ผมก็หวังว่าปรากฎการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในทางการเมืองหลายเรื่องจะทำให้ นายกฯ กับคนที่อยู่ในอำนาจในรัฐบาลคิดได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า ตลอดทาง 81 ปี ประชาธิปไตยไทยก็มีเว้นวรรคเป็นช่วงๆ ตั้งแต่เผด็จการทหารมาสู่ธุรกิจการเมือง ยุคใดสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ สังคมประชาธิปไตยมากน้อยกว่ากันอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นการสร้างความเสียหายในลักษณะที่ต่างกัน เพราะถ้าเป็นเผด็จการรูปแบบเดิมประเทศไทยก็ต้องก็ต้องเผชิญกับปัญหาการต่อต้านจากประชาคมโลก และจะมีอุปสรรคมากมาย ในการที่จะพยายามผลักดันประเทศให้เดินไปข้างหน้า แต่ในรูปแบบปัจจุบันที่บอกว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีปัญหาอยู่นี้อย่างน้อยที่สุดเราก็ยังดำรงอยู่ แล้วก็อยู่ในสังคมประชาคมโลก เพียงแต่ว่าความยากของคนที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่มาอาศัยเปลือกตรงนี้ และทำหลายสิ่งหลายอย่างจนเกิดปัญหาซึ่งในที่สุดเราต้องจัดการกับปัญหานี้ เพราะนับวันคนก็ห่วงใยมากขึ้น ส่วนจิตวิญญาณประชาธิปไตยนั้น ตนคิดว่าวันนี้ทุกคนมีความตื่นตัวในเรื่องสิทธิกัน แต่ปัญหาคือการตื่นตัวในเรื่องสิทธิของบางกลุ่มนั้นมองข้ามสิทธิของคนอื่น ซึ่งกลุ่มคนที่แสดงออกอย่างนั้น โดยเนื้อแท้แล้วเขาไม่มีความคิดในเรื่องประชาธิปไตยแต่มีความคิดในเรื่องอำนาจเป็นหลักถ้าฝ่ายตัวเองไม่มีอำนาจ ทำอะไรก็ได้ ช่วงชิงอำนาจนั้นคืนมา ไม่ว่าจะเป็นเผาบ้านเผาเมือง เอาคนติดอาวุธมา และพอมีอำนาจก็คิดว่าคนอื่นไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยว ซึ่งเป็นการทำตัวเป็นอันธพาลทางการเมือง