โสภณ - แล้วรู้ได้ยังไงก่อนไปบ้านไม่มีคนอยู่ในบ้าน
สนธิ - ถูกต้อง รู้ได้อย่างไร เสร็จเรียบร้อยแล้ว เช็กที่เขียนรู้ได้ยังไงว่าเช็กจะผ่าน คือจุดพิรุธ จุดบกพร่อง จุดโหว่มันมหาศาล มันมากมาย ผมเชื่อว่าปัญหาใหญ่ที่สุด นอกจากแนวสืบสวนสอบสวนของตำรวจแล้ว ที่มีปัญหายิ่งใหญ่ที่สุดคือ กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เหมือนกับช่วยกลบเกลื่อนบางเรื่องออกมา
เพราะฉะนั้นแล้วเขาไม่ได้แสดงออก ไม่ได้พิสูจน์ให้ชัด ว่าตาย ตายตั้งแต่ คนเราตาย กองพิสูจน์หลักฐานดีเอสไอ เขาดูได้ว่าตายประมาณเท่าไหร่ ไม่บอก สังเกตไหม ไม่พูดเลยว่าตายเมื่อไหร่ เพราะว่าตายเมื่อไหร่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มัดเขา เขาก็ไม่กล้าจะโกหก ไอ้คนที่เรียนทางวิทยาศาสตร์จะไม่กล้าโกหก ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือไม่พูดเลยดีกว่า แต่ถ้าเวลาตายมีตายตัวมันสิบกันได้แล้ว โยงได้หมดเลย
โสภณ - ดูหญ้าที่หลุมฝังศพสิครับ มันแห้งเร็ว ทั้งที่บอก 4 วัน ฝนตกหนัก หญ้าไม่ควรจะแห้งเร็วขนาดนั้น ใช่ไหมครับ หญ้าปกติมันจะกว่าจะแห้งต้องใช้เวลานานนะ ที่เราเห็นว่าคลุมหลุมศพ มันเหมือนกับหญ้าที่ขุดไว้แล้วตั้ง 7-8 วันหรือเป็น 10 วัน นี่คือความพิสดารของสภาวะแวดล้อม เหตุการณ์แวดล้อมหลายๆอย่าง เขาก็พาไปบ้านโดยที่ไม่รู้ว่าในบ้านจะมีคนอยู่หรือเปล่า และคนในบ้านเขาจะออกมาดูไหมว่าตกลงคุณมาหาแล้วคุณเอกยุทธอยู่ไหนล่ะ ก็ต้องถามนายบอล ว่านายอยู่ไหน มันต้องรู้ไง
สนธิ - แสดงว่าไอ้กล้องวงจรปิดที่มันถอดออกไป มันคงมีภาพอะไรหลายภาพ ถ้ามันไม่ถอดออกไปที่ให้เห็นก็ต้องมีคนมากกว่าในบ่อน
จินดารัตน์ - ใช้เป็นหลักฐานได้
สนธิ - แล้วก็ด้วยเหตุผล เอกยุทธนี่ตัวสูงกว่าคุณใช่ไหม
โสภณ - ตัวไล่เลี่ยกัน
สนธิ - ขนาดคุณใช่ไหม
โสภณ - แต่น้ำหนักตอนหลังเขาอ้วนกว่าหน่อยหนึ่ง เมื่อก่อนน้ำหนักไล่เลี่ยกัน
สนธิ - ถ้ามันมีแค่ในเบิ้ม กับนายบอล ไม่มีทางเอาเอกยุทธได้อยู่หรอก ปั้ดโธ่เอ้ย คนเราเวลามันรู้ว่าจะต้องตายมันดิ้นสู้สุดฤทธิ์สุดเดชเลย
โสภณ - แล้วบอกว่าปีนจากเก้าอี้คนขับ ทะลุมาข้างหลังมันไม่ใช่ง่ายๆ มันมีขอบสูงอยู่ และนายบอลก็ตัวยาวเหมือนกันไม่ใช่เข้ามาแล้วมันต้องขลุกขลักอยู่ช่วงหนึ่งใช่ไหม
สนธิ - เอาเป็นว่าเป็นบทที่ห่วยแตกมากเลยใช่ไหม
โสภณ - คือตำรวจด้วยกันหัวเราะเอางี้ดีกว่า หัวเราะบอกว่า โอ้ย อย่างนี้นะ ถ้าคุณไม่ได้ปิดนะ คุณก็ต้องสงสัยแบบนี้ตลอดเวลา
สนธิ - และทำไมเขาถึงไม่ให้กองปราบเข้าร่วมสอบ
จินดารัตน์ - เพราะจริงๆ ทนายนิติธรบอกว่า คดีนี้ต้องเป็นของกองปราบ
สนธิ - เขาก็ไปร้องกองปราบ
จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ
โสภณ - ประเด็นที่น่าสนใจคือว่า วันที่นายบอลขับรถไปให้โดนจับ ทำไมตำรวจ ดส. พ.ต.อ.เลี่ยม
จินดารัตน์ - ชัดชัย ชื่อเดิมชัดชัย
โสภณ - ถึงไปรอที่นู้น
สนธิ - ที่สมุทรสาคร รู้กันอยู่แล้วรึเปล่า
โสภณ - ทำไมถึงไปรอที่นู้น อ้างว่าตามจีพีเอส ในเมื่อจีพีเอสตามไปถึงพัทลุงแล้วทำไมถึงไม่ตามไปตรงนู้น ทำไมมาที่สมุทรสาคร รอให้ฝังศพก่อน ทั้งๆ ที่เขาแจ้งความไว้แล้ว พิรุธทุกขั้นตอน เพียงแต่ว่าการที่เขาจัดฉากอย่างนี้ นอกจากเขาจะ เขากล้ามากที่จะแสดงบทนี้ให้เห็น เขากล้าจะท้าทายผู้ที่เขารู้ร่องรอยการประกอบอาชญากรรม ทั้งตำรวจฟังดูแล้ว แบบนี้เท่านั้นที่ตำรวจจะคิดได้ แต่ทำไม่เนียน เพราะรูปแบบแต่ละขั้นตอนเปลี่ยนไปตลอดเวลา ต้องปรับตามสถานการณ์ความเป็นจริงตัวจิ๊กซอว์ถึงไม่ลงร่อง ต้องโยกย้ายตลอดเวลา ทำให้เกิดพิรุธอย่างที่เห็น
สนธิ - ผมว่า นายเบิ้ม เพิ่งมามอบตัววันนี้ มีพิรุธ 2-3 ประการ ประการแรก จู่ๆนายเบิ้มมามอบตัวโดยที่ตำรวจไม่ตามล่า จริงๆถ้าตำรวจตามล่านายเบิ้ม ถ้าเป็นแฟร์เกมต้องจับได้แล้ว แต่ที่เงียบหายไปตั้งแต่นายบอลถูกจับ เพราะจะดูว่านายบอลให้การอย่างไร เผอิญเห็นช่องโหว่ ก็เลยเอานายเบิ้มมาอุดไว้ ด้วยการเตี้ยมไว้ก่อน แล้วให้มามอบตัววันนี้ เพื่อให้การตามที่เตี้ยมไว้ให้สอดคล้องกับสิ่งซึ่งมันเป็นช่องโหว่ ให้ปิดช่องโหว่
วันนี้ผมทดสอบอย่างน่าสนใจมาก ผมโทรศัพท์ไปถามคนที่ผมรู้จัก โทรไปคุยประมาณ 20 คน มีตำรวจระดับนายพล 2-3 คน ประชาชนซึ่งเป็นรุ่นน้อง ผมถามคำถามเดียวว่า งานนี้คุณคิดว่าจัดฉากรึเปล่า ทุกคนพูด 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งตำรวจทั้งไม่ใช่ตำรวจ บอกว่าไม่เชื่อที่ตำรวจพูดจัดฉากหมด ที่เรากำลังกังวลคือว่า ที่โสภณพูดถูก มีกระบวนการอาชญากรรมกำลังปกปิดอาชญากรรมอันนี้ คำถามมีว่า ตำรวจเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนในเรื่องของกระบวนการอาชญากรรมที่ปกปิด เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ประชาชนต้องสงสัยตำรวจ ว่าตำรวจรู้เห็นเป็นใจกับการตายของเอกยุทธ อัญชันบุตร หรือเปล่า ทำไมจู่ๆ ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ถึงออกมาแล้วตัดตอนตลอดเวลา บอกว่าเป็นเรื่องชิงทรัพย์ นายตำรวจคนหนึ่งหัวเราะ บอกผมว่า พี่ผมเกิดมาเพิ่งเจอคนชิงทรัพย์ที่บังคับให้เขียนเช็กไปเบิกที่ธนาคารแล้วนั่งรอ มันเป็นไปไม่ได้ คนเราถ้าจะชิงทรัพย์ สมมุติว่าทั้งนายเบิ้ม นายบอลจะชิงทรัพย์เอกยุทธ เอาปืนจี้เอกยุทธ บอลขับรถไปบ้านเอกยุทธ เข้าไปเสร็จเรียบร้อย เอกยุทธต้องมีเซฟในบ้าน ก็เอาปืนจี้เอกยุทธให้เปิดเซฟ เสร็จเรียบร้อยกลัวเรื่องแตกก็ยิงเอกยุทธที่บ้าน ทำไมต้องเอาออกมาข้างนอก แล้วที่โสพูด คนจับเอกยุทธแล้วร่อนไปร่อนมาในกรุงเทพฯ บ้ารึเปล่า
จินดารัตน์ - แถมไปสุวรรณภูมิด้วย
สนธิ - แล้วก็ไม่มีนะ ไม่มีกล้องวงจรปิดที่ไหนเห็น ไปเห็นที่สุราษฎร์ฯ เหมือนกับที่ผมถูกยิง กล้องวงจรปิดตั้งแต่ราชดำเนิน ถนนหน้าแบงก์ชาติ เสือกตายหมด ไม่มี แต่ที่อื่นใช้ได้ เหมือนกันที่นี่ก็ไม่ได้ แล้วใครคุมกล้องวงจรปิดถ้าไม่ใช่ตำรวจ จบ
โสภณ - เรื่องนี้ถึงแม้เขาจะพยายามกลบให้มิด ขึ้นอยู่กับญาติที่เขาต้องการแสวงหาความยุติธรรม ไม่ว่าจะช่วงนี้หรือภายหลัง เพราะคดีนี้อายุความ 20 ปี เขาอาจจะเห็นว่าช่วงนี้บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย ที่จริงเขาควรไปร้องกองปราบ และกองบัญชาการสอบสวนกลาง
สนธิ - ขอให้รื้อคดีนี้ขึ้นมาใหม่
โสภณ - แต่ บช.ก.จะเข้ามาได้ก็ต่อเมื่อ ผบ.ตร.เป็นคนสั่ง หรือญาติเอกยุทธไปร้องทั้ง 2 แห่ง ขอให้ ผบ.ตร.สั่งให้ บช.ก.ซึ่งตนเองไปร้องเรียนแล้ว สั่งให้สอบสวน เพราะเพื่อความกระจ่าง และชื่อเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเกียรติภูมิของตำรวจที่ดี ซึ่งเขาต้องทนกับความอดสู่ตอนนี้ สีกากีเหมือนกันทำไมทำแบบนี้ ปล่อยให้คดีสุกเอาเผากินแบบนี้หรือ
จินดารัตน์ - คดีดูเหมือนทุกอย่างเร่งรีบ คนขับรู้จังหวะเหมาะ ออกไปโทรศัพท์หน้าร้านครัวกระแต ลุกลี้ลุกรน เหมือนกับนัดหมาย โดยด่วนว่าจังหวะเหมาะแล้วอยู่กับคุณเอกยุทธ 2 คน มันก็เลยดูไม่เนียนใช่ไหมค่ะ
โสภณ - ไม่ แล้วตอนนี้ 2 ยังตกลงกันไม่ได้ว่าตกลงใครรัดคอนะ
จินดารัตน์ - คือ นายเบิ้มก็บอกว่านายบอลบีบคอเอกยุทธตอนที่วิ่งหนีลงจากรถ และก็ให้ลากศพขึ้นมาแล้วบอกให้เอาเชือกรองเท้าผูกคออีกชั้นหนึ่ง แต่ตอนนั้นคุณเอกยุทธตายแล้ว นายเบิ้มว่าอย่างนั้น
โสภณ - 2 คนนั้นไม่มีทางหามคุณเอกยุทธขึ้นรถได้
สนธิ - ไม่มีทาง
โสภณ - น้ำหนักเอกยุทธผมไม่แน่ใจเท่าไร 60 65 70 อ่ะ
สนธิ - เอางี้อ่ะ โสเท่าไร
โสภณ - ผม 70
สนธิ - ผมว่าเอกยุทธน่า 75-80 ประมาณนั้น 80 โลยกได้ไงไม่มีทาง เห็นไหมไอ้บอลตัวเล็กนิดเดียวนะ
จินดารัตน์ - และนายเบิ้มก็ตัวเล็ก
สนธิ - นายเบิ้มก็ตัวเล็กเป็นไปไม่ได้ อย่าว่าแต่อุ้มเลยจะไปฆ่าจะฆ่าได้ไง ถ้าไม่มีคนที่ 3 คนที่ 4 คนที่ 5 ช่วย
จินดารัตน์ - และเขาบอกว่าพอขึ้นมาให้ดันศพไปด้านหลังอีกยิ่งไม่มีทางใหญ่เลยนะคะ
โสภณ - การที่นายบอลอ้างว่าจะไปกดคอเอกยุทธ เอกยุทธไม่ได้หมดสตินะ ตัวก็ใหญ่มันต้องดิ้นรนกันเต็มที่ถึงแม้จะถูกกุญแจมือก็ตามเท้ายังอิสระอยู่ เท้าต้องแตะทีบ ต้องเข่าดันทุกอย่างใช่ไหม คนเดียวปล้ำไม่อยู่หรอก ไม่มีทาง ก็ถึงบอกว่าต่อให้ปืนจี้หัวคนเมื่อรู้ถึงจุดนั้นแล้วนะ ถ้าเอ็งยิงข้าเอ็งยิงตั้งแต่ตอนแรกแล้ว เพราะตอนนั้นเอ็งยังไม่ได้เงินก็ต้องสู้เต็มที่
สนธิ - ผมกำลังสงสัยอย่างนี้นะโส คนที่ฆ่าเอกยุทธต้องเป็นมือฆ่ามืออาชีพ แล้วผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นคนที่เก่งในเรื่องคอมแบทมือปราบ กองพิสูจน์หลักฐานไม่ได้พูดว่าคอเอกยุทธหักหรือเปล่า เข้าใจไหมโส พูดแต่ว่ามีรอยช้ำ ผมถึงบอกว่าปัญหาเราเคยดูหนังบ่อย จับคอหมุนอย่างนี้ ถูกไม่ถูก ไม่ได้พูดถึงตรงนี้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นถ้าเอกยุทธนั่งปั๊ปไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างหลัง 2 คนหรือ 3 คนก็ตามมันจับเอกยุทธปุ๊ปมันหมุนคอทันทีก็เรียกร้อย
โสภณ - แต่ถ้าหากคอหักแล้วลิ้นจะไม่จุกปากตาจะไม่และตาถลน หักปุ๊ปก็คอพับ
สนธิ - คอพับเลย
โสภณ - จะไม่มีลิ้นจุกปาก
สนธิ - แต่ถ้ารัดคอลิ้นจะจุกปาก
โสภณ - ใช่ๆ ลิ้นจุกปากและตาถลน
สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย เอกยุทธน่าจะโดนหักคอโดยมืออาชีพ เป็นนักฆ่ามืออาชีพมากกว่า ซึ่งนักฆ่ามืออาชีพนี่ใครละ ต้องเป็นคนที่เคยอยู่ในเครื่องแบบมาก่อน อาจเป็นอดีตทหารซึ่งเคยรบมาก่อนแล้วไม่ได้เกษียณอายุนะ ลาออกหรือว่าโดยไล่ออกจากราชการ คือ ในวงการมันจะมีคนรับจ้างฆ่าคน เขาจะมีสายเขาเลย ฆ่าด้วยมีด ฆ่าด้วยมือ ฆ่าด้วยปืน ไอ้พวกนี้จะถูกฝึกมาหมด เพราะฉะนั้นพวกนี้อาจเป็นทหารนอกราชการที่ออกมาแล้ว และอยู่ในวงการ แล้วก็พร้อมจะฆ่าได้ทุกเมื่อโส ถ้าให้เงินเขา คนพวกนี้พร้อมจะฆ่า เขาไม่สนใจใคร จ่ายเงินมา กูจะหักคอนายป๊อก
โสภณ - คือในบรรดาคนที่อยู่ในวงการใต้ดิน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยหนี้เงินกู้ พนันบอล พนันต่างๆนานา และซุ้มมือปืนทั้งหลาย เขาจะรู้จักกันหมดในโลกของเขาเอง เท่าที่เขาพูดกัน บอกว่าเงินมาจากทางเหนือ มาให้ทางสีกากี ผู้ที่มีเครือข่ายจัดการหาทีมมา และก็หามาได้ 3 คน ให้เก็บและมีคนกวาด คือมีหน้าที่หาคนเก็บและกวาดด้วย นี่เป็นเสียงร่ำลือในวงการบรรดาผู้ที่อยู่ในยุทธจักรทั้งหลายแหล่ พวกนี้เขารู้กันหมด ทุกวันนี้เขาก็รู้ว่าใครเป็นคนสั่งการ ใครเป็นคนรับงานมา และทีมนี่มาจากไหน ไอ้ที่ เสธ.ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวเลย เสธ.ไอซ์ ไม่ใช่ เสธ.อะไรไม่ใช่ งานนี้นักการเมืองกับสีกากี ส่วนพวกนี้เป็นทีมท้องถิ่นทั้งนั้น ไอ้นายบอลกับพัทลุงทั้งหลาย เป็นทีมท้องถิ่นเป็นตัวประกอบ เพื่อให้ดูกันว่าเป็นการชิงทรัพย์ แต่ตัวจริงๆ แล้วเป็นมือระดับพระกาฬ ปกติทีมนี้ทำงานแล้ว โน้น เข้าเตาเผาที่แถวปากช่องทางไปโคราชโน้น ไม่มาทิ้งอย่างนี้ ที่มาทิ้งอย่างนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เห็นว่าเป็นการปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ธรรมดา แล้วก็ปิดคดีเร็ว ตำรวจบางคนก็เชื่ออย่างนี้
จินดารัตน์ - เขาบอกว่าถ้าคดีนี้อยู่ในมือกองปราบผลจะออกมาในอีกแบบหนึ่ง แต่คนส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าตำรวจก็คงคล้ายๆกันทำไมผลจึงออกมาอีกแบบ
สนธิ - แต่ผมมีความมั่นใจในกองปราบนะครับ ในกองบัญชาการสอบสวนกลางพอสมควร จากกรณีที่เขาจับกำนันเป๊าะ ผมมั่นใจว่า คนที่อยู่กองปราบปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บัญชาการสอบสวนกลาง เขาเป็นตำรวจมืออาชีพที่เขาไม่ยอมก้มหัวอยู่ภายใต้กฎนักการเมือง แต่เขาจะเข้าไปต่อเมื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นคนสั่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่สั่ง ซึ่งผิดปกติมาก ทำไมถึงไม่สั่ง
โสภณ - เพราะมีคนสั่งไม่ให้สั่งหรือเปล่า
สนธิ - ก็น่าจะเป็นทำนองนั้น เดี๋ยวให้ดูไพ่หน่อยเป็นเรื่องประกอบ วันนี้ผมนั่งทำงานอยู่ และมีคนมาเยี่ยมผม คนๆนี้อย่าเพิ่งไปรู้ชื่อเลย เป็นคนที่ดูไพ่ทาโร่ได้แม่นมาก แม่นจริงๆ ก็นั่งคุยกันแกบอก พี่สนธิ พี่ทำใจให้ว่างได้ไหม บอกได้ พี่ตั้งจิตอธิษฐานเลย พี่เอาไพ่จับแล้วพี่สับเอาผ้าปู บอกพี่ลองนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพี่ตั้งจิตอธิษฐานถึงเอกยุทธ อัญชันบุตร เดี๋ยวจะเปิดไพ่ให้พี่ดูว่า เป็นอย่างไร ผมก็ตั้งจิตอธิษฐาน ผมก็ภาวนา ผมเป็นคนซึ่งชอบสวดภาวนาอยู่แล้ว ผมก็ขอหมดทุกอย่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผมก็ขอให้ถ้าวิญญาณเอกยุทธอยู่ให้มาบอกหน่อยว่า ใครเป็นคนสั่งฆ่าคุณ เขาหงายไพ่มาทั้งชุดเลย เดี๋ยวเปิดไพ่ดูในทีวี น่าสนใจมาก ไพ่ตรงกลางที่ทับกันนะครับ ไพ่ข้างล่างหมายเลข 13 เขาเรียกไพ่ dead เป็นรูปโครงกระดูก ที่ทับอยู่นี่คือตึกทาวเวอร์ ที่เป็นอาคารที่เป็นหอคอย โสที่มันหักพังและโดนไฟไหม้ เขาบอกว่า ไพ่ทาวเวอร์ เมื่อทับบนไพ่ dead ก็คือ ตายโหง เปิดออกมาเลยนะว่า ไพ่ตายโหง และเห็นไหมไพ่ที่ผูกแข้งผูกขาไว้
จินดารัตน์ - ด้านซ้ายมือ
สนธิ - ด้านซ้ายมือเห็นไหมโส เขาบอกคนที่ตายโหงเพราะว่า ถูกมัดด้วย ถูกรัด เหมือนคล้ายๆ มัดตราสังข์อย่างนี้ และที่สำคัญคือว่า ขวามือกับข้างล่าง ข้างขวามือเหมือนกับเป็นรูปนางพญา หรือเป็นคนนั่ง ไพ่ตัวนี้เป็นตัวแทนตำรวจ และข้างล่างคือ The devil ตำรวจกับ devil อยู่ด้วยกัน คือผลประโยชน์สินบน เพราะฉะนั้นไพ่นี้บอกว่า ตำรวจเป็นคนทำ น่าสนใจโส ไพ่ชุดสุดท้ายทางขวาดูดีๆ
จินดารัตน์ - 4 ใบ
สนธิ - 4 ใบดูดีๆ ไพ่ใบที่ 2 จากข้างล่างเห็นไหม ที่เป็นรูปคนแก่ เขาบอกเป็นคนมีอายุ บนสุดนั้นก็คือ ไพ่ที่เป็นหนองน้ำแปลว่า อะไรรู้ไหม คนสูงอายุที่อยู่ดินแดนไกล สั่งมาที่ The sun ก็คือ เมืองไทย เมืองไทยคือหน้าร้อนไง พระอาทิตย์ไง โอ้โหไพ่อันนี้ คนสูงอายุที่อยู่แดนไกลสั่งมาที่เมืองไทยให้จัดการ ให้เกิดการตายโหงขึ้นมาเห็นไหม ตายโหงด้วยวิธีไหนทางซ้ายคือ มัดแข้งมัดขา รัดคงรัดคอหักคอแล้วแต่ โดยใครโดยไพ่ซึ่งเป็นตัวแทนตำรวจ และก็มีไอ้ The devil อยู่ ขนลุกเลย ไพ่ออกมาอย่างนี้จริงๆ
จินดารัตน์ - วันนี้ใช่ไหมคะ
สนธิ - วันนี้เลยก่อนออกรายการสักประมาณ 4-5 ชั่วโมง สักประมาณบ่าย 3 โมงได้ ที่ออฟฟิตผมแวะมาเยี่ยมผม เขามีชื่อมากคนนี้ แต่ไม่มีคนรู้ และผมพูดเรื่องเอกยุทธบอก พี่เอาอย่างนี้ไหม เขาพูดอย่างนี้ พี่เอาอย่างนี้ไหมลองดู และเป็นอย่างนี้จริงๆ
จินดารัตน์ - คุณสนธิทีนี้มาพูดถึงมูลเหตุจูงใจ
สนธิ - ผมว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า โสภณรู้จักเอกยุทธใช่ไหม
โสภณ - รู้จัก
สนธิ - เอกยุทธเป็นคนประมาท คุณยอมรับไหม
โสภณ - คือเขาเป็นคนสปอร์ต ใจกว้าง เพื่อนเยอะแต่ว่า บางครั้งเขาจะ
สนธิ - โฉ่งฉ่าง ใจร้อน
โสภณ - ใจร้อนแล้วก็
สนธิ - ขี้ยั๊วะ
โสภณ - และใครท้าทายไม่ได้
สนธิ - ใช่
โสภณ - และใครมาลูบคมไม่ได้ ตายเป็นตายพร้อมจะแลก ถ้ามีโอกาสได้แลกนะ แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสได้แลกเพราะโดนมัดเสียก่อน โดนล็อกไว้เสียก่อน เอาผ้าปู บอกพี่ลองนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพี่ตั้งจิตอธิษฐานถึงเอกยุทธ อัญชันบุตร เดี๋ยวจะเปิดไพ่ให้พี่ดูว่า เป็นอย่างไร ผมก็ตั้งจิตอธิษฐาน ผมก็ภาวนา ผมเป็นคนซึ่งชอบสวดภาวนาอยู่แล้ว ผมก็ขอหมดทุกอย่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผมก็ขอให้ถ้าวิญญาณเอกยุทธอยู่ให้มาบอกหน่อยว่า ใครเป็นคนสั่งฆ่าคุณ เขาหงายไพ่มาทั้งชุดเลย เดี๋ยวเปิดไพ่ดูในทีวี น่าสนใจมาก ไพ่ตรงกลางที่ทับกันนะครับ ไพ่ข้างล่างหมายเลข 13 เขาเรียกไพ่ dead เป็นรูปโครงกระดูก ที่ทับอยู่นี่คือตึกทาวเวอร์ ที่เป็นอาคารที่เป็นหอคอย โสที่มันหักพังและโดนไฟไหม้ เขาบอกว่า ไพ่ทาวเวอร์ เมื่อทับบนไพ่ dead ก็คือ ตายโหง เปิดออกมาเลยนะว่า ไพ่ตายโหง และเห็นไหมไพ่ที่ผูกแข้งผูกขาไว้
จินดารัตน์ - ด้านซ้ายมือ
สนธิ - ด้านซ้ายมือเห็นไหมโส เขาบอกคนที่ตายโหงเพราะว่า ถูกมัดด้วย ถูกรัด เหมือนคล้ายๆ มัดตราสังข์อย่างนี้ และที่สำคัญคือว่า ขวามือกับข้างล่าง ข้างขวามือเหมือนกับเป็นรูปนางพญา หรือเป็นคนนั่ง ไพ่ตัวนี้เป็นตัวแทนตำรวจ และข้างล่างคือ The devil ตำรวจกับ devil อยู่ด้วยกัน คือผลประโยชน์สินบน เพราะฉะนั้นไพ่นี้บอกว่า ตำรวจเป็นคนทำ น่าสนใจโส ไพ่ชุดสุดท้ายทางขวาดูดีๆ
จินดารัตน์ - 4 ใบ
สนธิ - 4 ใบดูดีๆ ไพ่ใบที่ 2 จากข้างล่างเห็นไหม ที่เป็นรูปคนแก่ เขาบอกเป็นคนมีอายุ บนสุดนั้นก็คือ ไพ่ที่เป็นหนองน้ำแปลว่า อะไรรู้ไหม คนสูงอายุที่อยู่ดินแดนไกล สั่งมาที่ The sun ก็คือ เมืองไทย เมืองไทยคือหน้าร้อนไง พระอาทิตย์ไง โอ้โหไพ่อันนี้ คนสูงอายุที่อยู่แดนไกลสั่งมาที่เมืองไทยให้จัดการ ให้เกิดการตายโหงขึ้นมาเห็นไหม ตายโหงด้วยวิธีไหนทางซ้ายคือ มัดแข้งมัดขา รัดคงรัดคอหักคอแล้วแต่ โดยใครโดยไพ่ซึ่งเป็นตัวแทนตำรวจ และก็มีไอ้ The devil อยู่ ขนลุกเลย ไพ่ออกมาอย่างนี้จริงๆ
จินดารัตน์ - วันนี้ใช่ไหมคะ
สนธิ - วันนี้เลยก่อนออกรายการสักประมาณ 4-5 ชั่วโมง สักประมาณบ่าย 3 โมงได้ ที่ออฟฟิตผมแวะมาเยี่ยมผม เขามีชื่อมากคนนี้ แต่ไม่มีคนรู้ และผมพูดเรื่องเอกยุทธบอก พี่เอาอย่างนี้ไหม เขาพูดอย่างนี้ พี่เอาอย่างนี้ไหมลองดู และเป็นอย่างนี้จริงๆ
จินดารัตน์ - คุณสนธิทีนี้มาพูดถึงมูลเหตุจูงใจ
สนธิ - ผมว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า โสภณรู้จักเอกยุทธใช่ไหม
โสภณ - รู้จัก
สนธิ - เอกยุทธเป็นคนประมาท คุณยอมรับไหม
โสภณ - คือเขาเป็นคนสปอร์ต ใจกว้าง เพื่อนเยอะแต่ว่า บางครั้งเขาจะ
สนธิ - โฉ่งฉ่าง ใจร้อน
โสภณ - ใจร้อนแล้วก็
สนธิ - ขี้ยั๊วะ
โสภณ - และใครท้าทายไม่ได้
สนธิ - ใช่
โสภณ - และใครมาลูบคมไม่ได้ ตายเป็นตายพร้อมจะแลก ถ้ามีโอกาสได้แลกนะ แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสได้แลกเพราะโดนมัดเสียก่อน โดนล็อกไว้เสียก่อน คือเป็นนักเลง กล้าได้กล้าเสีย
สนธิ - ที่ผมบอกเขาประมาท คือโดยพื้นฐานเขาเป็นศัตรูกับรัฐบาลชุดนี้ พูดตรงๆเขาไม่ชอบคุณทักษิณ แสดงออกมาตั้งแต่ปี 2547 ก่อนผมประท้วงด้วยนะ ผมประท้วงปลายปี 48 สมัยนั้นเขาเกี่ยวข้องที่มีการชุมนุมที่สนามหลวง ก่อนหน้าที่พวกเราจะออกไป เอกยุทธอยู่เบื้องหลัง เอกยุทธกลับมาจากอังกฤษ จำได้ไหมเขาเสนอให้เงินพรรคประชาธิปัตย์พันล้าน เพื่อให้ประชาธิปัตย์สู้กับทักษิณ
ตำนานเรื่องมีอยู่ว่า เขากับทักษิณรู้จักกันดีมาก คงจะทำธุรกิจอะไรกันแล้วมีอะไรไม่พอใจซึ่งกันและกัน ความที่เขาเป็นนักเลง มีเงินพอสมควร เขาเลยไม่แคร์ทักษิณ มีความรู้สึกว่ามึงแน่จากไหน กูก็แน่เหมือนกัน จากวันนั้นมาถึงวันนี้เลยเป็นศัตรูกับทักษิณมาตลอด ด้วยประเด็นตรงนี้ เวลาทักษิณมีอำนาจเขาก็ชนทักษิณตรง เพราะเขาถือว่าเขามีคอนเน็กชั่น เขามีสายสัมพันธ์ เขามีเครือข่าย เขามี รปภ. แต่ความที่เขาเป็นคนเพื่อนเยอะ ชอบเที่ยว ชอบร้องคาราโอเกะ ชอบตีกอล์ฟ เขารู้สึกว่าไม่กลัวใคร ใครมาเขาก็พร้อมแลก ต่างกับผม ผมระวังตัวตลอดเวลา ผมบ้าน ที่ทำงาน ที่ทำงาน บ้าน โสไม่เคยเห็นผมไป เอกยุทธชอบไปนั่งที่โฟร์ซีซั่น ข้างนอก ชอบไปนั่ง เขาจะไม่สงวนที่ท่าว่าเขาไม่ชอบทักษิณ เขาจะพูด จะด่า พูดแรงมาก ในขณะซึ่งผมไปไหนมาไหนระวังตัว นี่คือราคาที่ผมต้องจ่าย แต่ผมรู้ว่านี่คือสิ่งที่ผมต้อง ขนาดผมระวังตัวผมยังโดน 200 นัดแต่กรณี 200 นัดเป็นกรณีพิเศษ ถ้าจะอุ้มผมไม่ง่าย ผมไปไหนมาไหนมีคนไปด้วย 10 คน ถ้าคุณมีคนล้อม 10 คน จะมาอุ้มต้องใช้คนกี่คน
โสภณ - ประมาณ 50
สนธิ - ผมไม่ไปกลางคืน กลางวันรถติดจะอุ้มไปไหน บุกเข้ามาในบ้านก็เจอคนอีก 20 คน บ้านหลังนี้มีคน 20 คน อาวุธพร้อม เข้ามารับรองเหมือนเทกซัส ผมระวังตัว แต่เอกยุทธ เขามีความมั่นใจว่าไม่มีใครกล้าทำอะไร
โสภณ - ปกติเอกยุทธมีบอดี้การ์ด 4-5 คน เวลานัดเจอเขาจะไปร้านอาหารที่เขารู้จัก บอดี้การ์ดจะไปล่วงหน้าเขาตามมาทีหลัง เวลาเข้า-ออกร้าน ถ้าผมนัดกับเขา คุณมาถึงก่อนหรือเขามาถึงก่อน เวลาออกคนใดคนหนึ่งจะไม่ออกพร้อมกัน ถ้านั่งแล้วมีอีกโต๊ะมองก็จะย้ายโต๊ะ หรือบอกที่ร้านว่า บล็อกนี้ขอเขานั่งคุยกับแขกของเขาเอง ปกติจะนั่งที่ล็อบบี้โรงแรมโฟร์ซีซั่นเล่นหุ้น 6โมงเย็นไปนั่งดื่มไวน์ที่ข้างนอกเพราะเขาสูบซิก้า ดื่มไวน์สูบซิก้าเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง เขาถือว่าอยู่ที่นั่นไม่มีใครทำอะไรได้เพราะมีกล้อง มีระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรม ยกเว้นวิ่งเร็ว วิ่งไปไหน ต้องมีรถมารับแล้วรถติดด้วย เขาถึงว่าโฟร์ซีซั่นเป็นที่ทำงานที่กิน ขี้เกียจกลับบ้านก็เปิดห้องนอน เหมือนกับบ้านที่สอง ที่โฟร์ซีซั่น การที่เขาอยู่ที่นั่นถือเป็นเรื่องปกติมาก พนักงานรู้จัก เอากุญแจขึ้นไปนอนก็เคลียร์บิลเป็นรายเดือน นี่คือชีวิตของเขา เงินเยอะ
สนธิ - ทำไมเขาถึงไปวันนั้นโดยไม่มีบอดี้การ์ด
โสภณ - ไม่มีคำตอบ ทำไมบอดี้การ์ด 4-5 คนหายไปไหนหมด ปกติจะไป 2 คน มีรถ 2-3 คันแวดล้อม หรือเขาคิดว่าไปที่ร้านรู้จัก เพื่อนเขาเอง แต่กระนั้นก็ตาม เขาไว้ใจได้อย่างไรว่า ระหว่างทางจะเกิดอะไรขึ้น
สนธิ - ผมว่าอันนี้เป็นเรื่องที่ครอบครัวเขาต้องค้นหาคำตอบเอง เพราะตำรวจไม่ค้นหาคำตอบให้ เพราะว่าอาจจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็ได้ เพราะถ้าวันนั้นเขามีบอดี้การ์ดไป 2-3 คนก็อุ้มไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วอันนี้อันหนึ่ง อันที่สอง ในการก่ออาชญากรรม เวลาคนมายิงผมหรือยิงเอกยุทธ หรือยิงโส ต้องดูโมทีฟ ยิ่งเรื่องอะไร วันนี้คุณกับผมเห็นพ้องต้องกัน 150 เปอร์เซ็นต์ว่า เรื่องชิงทรัพย์เป็นเรื่องจัดฉาก งั้นตัดเรื่องชิงทรัพย์ เรามาดูว่าศัตรูเขาอยู่ที่ไหน
ถ้าอย่างนั้นพูดได้เลยโดยไม่ต้องปิด เขาไม่ถูกกับทักษิณ100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเขาต่อสู้ทักษิณตลอดเวลา ต่อสู้ชนิดเอาเป็นเอาตาย สอง เขาเล่นงานน้องสาวทักษิณ เรื่อง ว.5โฟร์ซีซั่น งานนี้เห็นชัดเจน คำถามมีอยู่ว่า ยิ่งลักษณ์อาจจะเป็นผู้หญิงไม่กล้าพูด แต่คนรอบตัวยิ่งลักษณ์อาจจะโกรธเอกยุทธ ร้อนตัวแทน และผมเชื่อว่าทักษิณโกรธแน่ที่เอกยุทธว่าน้องสาวของเขา ด้วยความเคารพในตัวเอกยุทธ และด้วยความเคารพในความรู้สึกที่คุณเป็นเพื่อนเขา การสู้ของเขากับผมไม่เหมือนกัน ผมสู้ในหลักการ ผมเปิดหน้าชก เรื่องส่วนตัวยิ่งลักษณ์ผมไม่ยุ่ง เขาจะน้ำแตกที่ไหนเรื่องของเขา เขาจะแตกกับใครเรื่องของเขาผมไม่ยุ่ง
โสภณ - อันนี้ยุ่งแล้วพูดประโยคนี้
สนธิ - ผมยกตัวอย่างให้ฟัง ในลักษณะเอกยุทธมันเลยทำให้ความแค้นของคนที่ต้องการจะแก้แค้นแทนยิ่งลักษณ์มีมากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามองโมทีฟอย่างนี้เห็นชัดเจนว่า โอกาสในการพิจารณาว่าฝีมือนี้จะต้องมาจากฝ่ายรัฐบาลแน่นอนแต่เราไม่รู้ว่าใคร
โสภณ - จะต้องมองว่า ไม่ใช่เฉพาะคุณยิ่งลักษณ์ คุณเยาวภาก็มีปัญหาเรื่องรถอะไรต่างๆ นานาที่คุณเอกยุทธนำไปเปิดโปง อันนั้นเป็นเรื่องที่
สนธิ - เรื่องรถลัมโบกินี สีขาว
โสภณ - ไม่ใช่ลัมโบกินีอย่างเดียว ทั้งเครือข่าย ธุรกิจรถเถื่อน ซึ่งเขานำมาเปิดโปงแล้วกระเทือนหลายกลุ่ม กระเทือนทั้งกลุ่มบางบอน กระเทือนทั้งกลุ่มต่างจังหวัด หลายซุ้มหลายก๊วน แต่ละก๊วนแย่งชิงโควตา มีความขัดแย้งกันอยู่ และมีความพยายามทำลายรถ 6 คันนั้น เพื่อดึงดูดความสนใจตำรวจให้ไปสืบสวน แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่อง 6 คันนั้น
สนธิ - ว่าใครจ้างรถเทรลเลอร์ขน
โสภณ - สุดท้ายเงียบไม่เคยสอบถามว่าเจ้าของรถ 6 คันเป็นใคร แล้วสืบสาวจากนั่นมา ทั้งที่นั่นเป็นประกายไฟจุดขึ้น เพื่อให้หยุดขบวนการนี้ อาจจะเกิดเพราะความอิจฉาริษยาได้โควตาน้อยลง แต่เอกยุทธเปิดโปงกระบวนการนี้ทำให้กลุ่มคุณเยาวภา ซึ่งถูกมองว่าซื้อรถให้ลูกเขยแล้วไฟไหม้ แล้วปัญหาโควตาลอตเตอรี่
จินดารัตน์ - ฟอกเงินที่อังกฤษ
โสภณ - หลายอย่าง เอกยุทธเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลชินวัตร สายทักษิณ เขาก็ไม่ถูกกับคุณคำรณวิทย์ด้วย ซึ่งมีปัญหาฟ้องร้องกันอยู่ โดยปกติคุณคำรณวิทย์ต้องไม่มีโอกาสทำงานสอบสวนนี้ เพราะเป็นคู่กรณีโดยตรงกับผู้เสียชีวิต
สนธิ - งานนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์ เพราะคุณสุวัตรโทรศัพท์มาหาผม ถามผมว่า เอกยุทธอยากจะจ้างเขาว่าความกรณีเรื่องคาราโอเกะ และเรื่องหมิ่นประมาทผมก็บอกว่า ก็ในเมื่อทางคุณสุวัตรเป็นทนายความ แล้วกรณีนี้คุณสุวัตรมองว่าเป็นอย่างไร แกก็บอกว่าดูรูปคดีแล้ว คุณเอกยุทธโดนแกล้ง คุณสุวัตรรักความเป็นธรรมอยู่แล้ว และคุณเอกยุทธก็เป็นคนสู้กับทักษิณไม่ใช่เหรอ ก็ตามสบายคุณสุวัตร ผมก็พูดไป แกก็ไปว่าให้ ทีนี้ช่วงนี้แกเงียบ แกก็เล่าให้ฟังเหตุผล แกก็สู้ให้เต็มที่นะ ออกมาอธิบาย แกไม่ยอมรับข้อหาที่ตำรวจตั้ง ไอ้บอลว่าอย่างโน้นอย่างนี้มันไม่ได้ทำคนเดียวมันต้องอย่างนี้ ตั้งแต่มันบอกว่าเอกยุทธลงจากรถแล้วจะไปพม่า แกก็ซัดจนมันยอมรับว่ามันฆ่า แล้วตอนหลังแกหยุดไปเหตุผลเพราะว่า ครอบครัวเอกยุทธบอกว่าเขาไม่ติดใจ เขาไม่ต้องการให้ออกมาทำอะไรอีกแล้ว ครอบครัวเขากลัว แกเป็นทนายความในเมื่อญาติพี่น้องลูกความ ซึ่งลูกความเสียชีวิตไปแล้วบอกว่า ให้หยุดหลังจากนี้ เหมือนกับว่าไม่จ้างแกแล้ว แกก็หมดหน้าที่ไป
โสภณ - คือที่จริงกรมตำรวจ ผบ.ตร.ควรจะแต่งตั้งให้ บชก.สอบสวนกลาง สอบสวนคดีนี้ เพราะว่าจะให้คุณคำรณวิทย์ซึ่งเป็นคู่กรณีโดยตรง สอบสวนซึ่งไม่มีหรอกที่จะให้ความเป็นธรรม เพราะตัวเองเป็นคู่กรณีกันอยู่ หรือคุณคำรณวิทย์ควรจะประกาศว่า ผมเป็นคู่กรณีกับเขา ฉะนั้นผมขอให้นายตำรวจคนอื่นมารับผิดชอบคดีนี้ โดยอาจจะเป็นใครก็ได้ที่มียศตำแหน่งเท่ากับเขา แต่ไม่ใช่ตั้งรอง ผบช.น.ขึ้นไป ไม่ได้ คุณต้องเอาอีกหน่วยเลย จะเป็นสันติบาล หรือจะเอากองปราบ หรืออะไรก็แล้วแต่เพื่อความแฟร์ และชื่อเสียงของกรมตำรวจ
สนธิ - จริงๆ ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังที่เป็นตำรวจแล้ววางแผนอันนี้ เขาได้ทำลายความน่าเชื่อถือของตำรวจซึ่งไม่มีอยู่แล้วทุกวันนี้ ให้แย่ลงไปอีก เหมือนพวกเรา โสภณรถถูกทุบกระจกแจ้งความเปล่า
โสภณ - ไม่เเจ้ง
สนธิ - เดี๋ยวนี้พวกเราโดนอะไรเราก็ไม่แจ้ง เหมือนกับรถเอเอสทีวีถูกยิง ก็คุณคำรณวิทย์ไม่ใช่เหรอที่ออกมายืนยันบอกต้องหาคนร้ายให้ได้ วันนี้ก็เงียบไปหมด มีคุณเฉลิมอยู่คนเดียวที่เวลามีเรื่องปัญหากฎหมาย ก็บอวก่าหมจบด็อกเตอร์ทางกฎหมาย ใครจะรู้ดีกว่าผม พอมีเรื่องนี้ก็บอก ผมอดีตตำรวจกองปราบ แต่เวลาลูกมีเรื่องไม่เคยพูดบอก ผมเป็นพ่อ ไม่มีพูด เพราะฉะนั้นแล้วตำรวจในขณะนี้ วันนี้ตำรวจธรรมดาชื่อเสียงก็เสียอยู่แล้ว ยิ่งมาโดนแบบนี้ วันนี้ประชาชนเขาตั้งข้อสงสัยหมดเลย ว่าฝีมือการตายของเอกยุทธตำรวจเกี่ยวข้องแน่นอน และพยายามช่วยเหลือปกปิดซึ่งกัน และกันตรงนี้เป็นอันตรายต่อสังคมไทยมาก ทุกวันนี้เราพึ่งตำรวจไม่ได้อยู่แล้ว เพราะตำรวจเขาบอก บ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป มีแต่ไอ้คนใช้ขื่อใช้แปมันใช้ขื่อใช้แปมากระทืบประชาชนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมัน
โสภณ - ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนก็เชียงใหม่วันนี้ไง
สนธิ - เชียงใหม่ ใช่
โสภณ - ที่กลุ่มหน้ากากขาวเขาจะไปชุมนุมที่โรงยิมของ ม.เชียงใหม่ มช.และถูกเสื้อแดงประมาณ 60-70 คน ไปไล่รังควาน เขาก็หนีมาตามถนนนิมมานเหมินทร์ พวกนี้ก็ตามไล่ออกมา และเขาก็หนีอยู่ในคอนโด อยู่ร้านเซเว่น ถามว่ามีตำรวจไหม มีประมาณ 3-4 คน แต่ไม่ทำอะไรเลย
จินดารัตน์ - ยืนดูเฉยๆ
โสภณ - เรียกร้องให้ช่วยเหลือก็ไม่ทำ ปล่อยให้ไอ้พวกนั้นเอาขวด เอาก้อนหิน เอาหนังสติ๊กยิงตลอดเวลา ตำรวจไม่ทำอะไรเลยจริง ฉะนั้นเขาถึงบอกว่า เออแล้วต่อไปหน้ากากขาวจะออกมาหลายๆ แห่ง เดี๋ยววันอาทิตย์นี้หน้ากากขาวจะไปชุมนุมที่ หน้าพ่อขุนเม็งราย ที่เชียงราย บ่ายโมงเขาจะไปกัน คนเสื้อแดงคงจะไปลุยเขาอีกเหมือนกันแหละ
สนธิ - เพราะว่าเสื้อแดงมันทำให้เห็นแล้วที่เชียงใหม่ และตำรวจเชียงใหม่มันช่วยเสื้อแดง เพราะฉะนั้นที่เชียงรายตำรวจเชียงรายมันก็ต้องช่วยเสื้อแดง ให้เสื้อแดงมากระทืบพวกหน้ากากขาว
โสภณ - ที่เชียงใหม่ยกพวกไปที่เชียงราย เพราะมันใกล้กันนั่งรถแค่ 2 ชั่วโมงกว่า เพราะมันหัวเชื้อเดียวกันก็ยกพวกไปช่วยกัน ขนาดโกตี๋อยู่ปทุมฯ ยังไปถึงไหนต่อไหน
สนธิ - ลำพูน
โสภณ - ทั่วราชอาณาจักรไทยเลย ไปก่อกวนประชาธิปัตย์
จินดารัตน์ - เขาบอกว่า ภาพที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ การอุ้มฆ่าง่ายๆ กันแบบนี้ มันยิ่งก่อให้เกิดความรู้สึกกดดันเก็บกด กับคนที่ต่อต้านระบอบทักษิณมากขึ้นหรือเปล่า
โสภณ - ผมเชื่อว่าวันอาทิตย์นี้นะ ที่เขาจะไปชุมนุมกันที่สี่แยกราชประสงค์ ผมว่าคนน่าจะเกินหมื่น คราวที่แล้วหมื่นหรือไม่หมื่นยังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ แต่คราวนี้
จินดารัตน์ - จะมากขึ้น
โสภณ - ผมว่าจะมากขึ้น ถ้าฝนไม่ตกหนักจนเกินไปนะครับ น่าจะเกินหมื่น หมื่นกว่า ถ้าอาทิตย์นี้หมื่นกว่าต่อไปอาจจะสองหมื่นกว่า และถ้าต่อไปมันมีจังหวะ แรงเหนี่ยวนำแล้ว จะเรียกเป็นการจุติไหม ผมว่าน่าจะใช่ถึงระดับหนึ่ง
สนธิ - ต้องถึงเวลาที่คุณโสภณต้องออกแล้วแหละ คุณอย่าพูดนะคุณเป็นสื่อ ผมก็เป็นสื่อเหมือนกันนะ
โสภณ - คือไม่ใช่ คืออย่างนี้ เราต้องอย่าไปดูถูกเขา คือเขาออกมาด้วยตัวเขาเอง หน้ากากขาว เป็นคนละรุ่นกับพันธมิตรฯ นะ เป็นคนละ Generation เป็นคนละรูปแบบ พวกนี้เขามีความเป็นอิสระเสรีสูง แต่เขาเหมือนอย่างเดียวคือ จิตใจ วิญญาณความรักชาติเหมือนกัน
สนธิ - ยังมีอยู่
โสภณ - ต่างวัยและต่างเพศ ต่างวัยด้วยนะ วัยนี้เขาจะมีน้อยกว่ารุ่นที่เป็นพันธมิตรฯ ที่ไปชุมนุมกันนาน พ่อยกแม่ยก รุ่น 14 ตุลา รุ่นที่ยังมีจิตสำนึกของรุ่น 14 ตุลาอยู่ ที่ออกไปเจอห่ากระสุน เจอเฮลิคอปเตอร์ เจออะไรสารพัดอย่าง นั้นคือรุ่นเดิมที่เขาห่วงว่า ลูกหลานในอนาคตปัจจุบันนี้ ไม่ใส่ใจอะไรเลย
สนธิ - คือพวกผมนั่นแหละ
โสภณ - รุ่นเบบี้บูม
จินดารัตน์ - แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนส่วนหนึ่งของหน้ากากขาวคือ พันธมิตรฯ แหละ
โสภณ - ก็ส่วนหนึ่งใช่ ผมถามว่าดูวัยของคนที่ไปนะ มันมีความหลากหลาย
จินดารัตน์ - มีคนรุ่นใหม่มากขึ้น
โสภณ - คนพวกนี้มีอิสระเสรีภาพสูง มาแล้วก็ไปไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาทำอย่างนี้ขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งจะเหมือนตุรกี แล้วรัฐบาลก็จัดทีมมาต่อต้าน ตอนนี้เหมือนตุรกีหน้ากากขาวมาปุ้บ พวกนั้นก็ออกมาเหมือนกัน ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งก่อนหน้าก็เหมือนอียิปต์ คราวนี้เหมือนตุรกีมากขึ้น ตุรกีเพียงแค่จะเอาสวนสาธารณะไปทำศูนย์การค้าแค่นั้นเอง ก็เป็นจุดเดือดปะทะกันเพราะโดนกดดันมานานแล้ว
จินดารัตน์ - ถ้าสมมติว่ากระแสทางฟากฝั่งของทักษิณแผ่วๆลงบ้าง คือลดแรงต้านทานลงบ้าง ไฟมันจะค่อยๆมอดลงไปไหมพี่โส หลายคนบอก เขาก็มากันแป้บเดียว
โสภณ - ผมว่าไม่นะ
สนธิ - ผมคิดว่าทีมที่เขาประท้วงกัน เขาประท้วงความไม่โปร่งใสและการขี้โกงของรัฐบาลชุดนี้ เริ่มตรงนี้ เหตุการณ์ของการตายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประชาชนเชื่อกัน 100% ว่าเป็นฝีมือของคนในรัฐบาล ต้องถือว่าตำรวจอยู่ภายใต้อาณัติรัฐบาล ตรงนี้มันเท่ากับว่าเป็นเชื้อเพลิง เชื้อไฟมากขึ้น การที่พวกเสื้อแดงออกมารังแกพวกหน้ากากขาวที่เชียงใหม่ ถึงกับใช้ความรุนแรงทั้งๆที่เขาเข้าไปแสดงออกถึงการต่อต้านด้วยสันติวิธี มันก็ยิ่งทำให้คนมีความรู้สึกว่า รัฐบาลชุดนี้และพวกเสื้อแดงเป็นคนที่นิยมความรุนแรง แต่เขามีวิธีเดียวที่จะต่อสู้ความรุนแรงพวกนี้ได้คือเขาก็จะออกมาเยอะขึ้นๆ อุปมาอุปมัยเหมือนสมัยที่เราพันธมิตรฯชุมนุมอยู่ เมื่อใดก็ตามที่ตำรวจออกมาตั้งด่าน หรือตำรวจออกมาคล้ายๆกับปิดล้อมพวกเรา ก็จะมีคนออกมาช่วยกันเต็มเลย แล้วก็ไม่ได้ออกมาด้วยไม้ด้วยปืนด้วยมีด ออกมาด้วยกำลังคนเพื่อให้ปริมาณคนมันเยอะ เหมือนกับที่เราไปปิดล้อมตำรวจ ตำรวจปิดล้อมพวกเราข้างใน พวกเราอีกส่วนก็ออกมาปิดล้อมตำรวจอีกที ก็จะเป็นลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ
จินดารัตน์ - แต่ต้องถามว่า ความลุแก่อำนาจของรัฐบาล มองว่ามันไปไกลถึงขนาด
โสภณ - ผมว่าความอหังการในอำนาจความผยองลำพองในอำนาจครั้งนี้ ยุคนี้มากกว่ายุคคุณทักษิณ โอเคยุคคุณทักษิณอาจจะเป็นการตัดตอน
สนธิ - คุณรู้ไหมทำไมมากกว่า เพราะว่าทุกคนต้องการที่จะวางบิลทักษิณ แสดงโชว์ออฟให้ทักษิณ เพราะว่าทุกคน 1 อยากเป็นรัฐมนตรี 2 อยากเป็นรองนายกรัฐมนตรี 3 อยากได้มีตำแหน่ง หรือ 4 เป็นรองนายกรัฐมนตรีแล้วไม่มีอำนาจมีแต่ตำแหน่งรองนายกฯ แต่ไม่มีอำนาจจริงๆในการบริหารกระทรวง แต่ละคนกลัวจะถูกปรับออก เพราะฉะนั้นแต่ละคนไม่ว่าเป็นคุณปลอดประสพ เฉลิม อยู่บำรุง ต้องแสดงอาการออกให้หมด ยิ่งเล่นแรงเท่าไหร่ต้องการให้เข้าตานาย เพราะตัวเองยอมรับเป็นขี้ข้าทักษิณแล้วนี่ แล้วทักษิณไม่ให้เป็นรัฐมนตรี ไม่ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีเนี้ยไม่ได้ เสีย ฉะนั้นต้องเล่นแรง หลายคนถึงกับบินไปหาทักษิณ เมียน้อยตัวเองต้องบินไปหาทักษิณที่ดีซี เมืองนอก เพื่อไปแก้ตัวให้สามีตัวเอง แล้วก็พร้อมที่จะรับนโยบายกลับมาทำ ใช่ไหม ผมกลับคิดว่าถ้าทักษิณอยู่ในเมืองไทย ถ้าทักษิณเป็นนายกฯ ทักษิณจะไม่กล้าเล่นแรงขนาดนี้ แต่ความที่เขาอยู่ข้างนอกและเขาใช้ลาภยศมาล่อให้พวกบ้านี่ ไอ้พวกคนที่ไม่รู้ว่านรกมันมีจริง ไอ้คนที่มันอยู่กับปัจจุบัน มันเคยคิอถึงเหรอว่าพรุ่งนี้มันจะลงนรกเมื่อไหร่ คนพวกนี้เป็นคนซึ่งน่าสงสารที่สุดเพราะเป็นคนซึ่งมีความเชื่อมั่นว่าชีวิตของแม่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มันจะใหญ่ตลอดชีวิต ทักษิณจะใหญ่ตลอดชีวิต ทักษิณจะอมตะนิรันดร แต่มันไม่รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นอนิจจัง แล้วมันไม่รู้ว่าเวลาทักษิณตกหรือเวลาเขาตก เหมือนลงนรก เหมือนคนที่วางแผนฆ่าเอกยุทธ อัญชันบุตร อุ้มเอกยุทธ อัญชันบุตร ไม่รู้หรอกพวกนี้พอเกษียณอายุไปแล้ว กลายเป็นคนแก่ กลายเป็นคนที่ไม่มีความหมายในชีวิตและจะกลายเป็นคนที่ขมขื่นทุกข์ทรมาณใจในเวรกรรมที่ตัวเองทำ
โสภณ - ก็ดูคุณสล้าง บุนนาค ตอนนี้นั่งรถเข็น เป็นอัมพฤกษ์ หรืออะไรสักอย่าง นั่งรถเข็นแล้ว
สนธิ - เวรกรรม
โสภณ - ก็ไม่รู้นะ โจ ด่านช้าง คืออย่างนี้ ถ้าทักษิณเป็นนายกฯ เขาจะไม่กล้าแรงอย่างนี เพราะรู้ว่าแรงมาปุ้บคนอื่นจะแรงตอบ แต่กรณีที่คุณปูเขาไม่ทำอะไรเลย เขาใช้ความสงบ หรือความอะไรก็แล้วแต่ ความนิ่ง เหมือนกับว่า ต้นไม้ กระแสลมพัดพายุมาก็เฉย ลมเฉื่อยมาก็เฉย อากาศร้อนมาก็เฉย ฝนตกก็เฉย เธอไม่ไปวีนแตก หรือเธอไปต้านอะไร ยิ้มสู้ตลอด
สนธิ - แต่แปลกนะ เอกยุทธ ไม่มีนักข่าวคนไหนถามเลย ว่าคุณเอกยุทธเสียชีวิตไป คุณยิ่งลักษณ์เสียใจไหม คิดอย่างไร ไม่มี
โสภณ - ปกติต้องมีนะ หรือไม่งั้นจะต้องออกสเตทเมนต์ออกมาพูดออกมา
สนธิ - ต้องบอกว่าเสียใจ หรืออีกทีก็จะต้องบอกว่าได้กำชับให้ตำรวจหาคนร้ายให้เร็วที่สุด ไม่มีพูดเลย เหมือนกับว่าข่าวชิ้นนี้ไม่รับทราบ
จินดารัตน์ - ไม่ได้เกิดขึ้นในหัวสมอง
โสภณ - อาจจะเปิดแชมเปญฉลองยังไม่เลิกก็ได้ พยายามจะบอกว่า เฮ้ย ที่ผ่านมามันกลบไม่เนียนนะ จากนี้ไปก็ยังมีร่องรอย พยายามทำให้มันเนียนหน่อย
สนธิ - หาผู้อำนวยการสร้างหนังให้มันดีกว่านี้
โสภณ - ไปหาเรื่องอ่านมากลบให้มันดีกว่านี้หน่อย
จินดารัตน์ - งั้นกรณีการอุ้มฆ่าคุณเอกยุทธนั้นคงจะไม่ต่างไปจากหลายๆกรณีที่เป็นฝีมือของ
สนธิ - สมชาย นีละไพจิตร ก็ชัดเจน
จินดารัตน์ - 9 ปีมาแล้ว
สนธิ - และก็การฆ่าตัดตอนยาเสพติด 250 ศพก็เช่นกัน ชิ้ปปิ้งหมูอีก เท่าที่ทราบตายที่เชียงราย
โสภณ - บนดอยโดนยิง หลังที่ไปเจอคนผมขาวที่เป็นอดีตรัฐมนตรีเครือข่ายของคุณทักษิณ ที่ตึกชินบนถนนพหลโยธิน กลับไปไม่กี่วันก็เสียชีวิต หลังจากเอาหลักฐานเรื่องการทุจริตสำแดงภาษีของชิน คือประเทศนี้เต็มไปด้วยอาญชากรรม ซึ่งน่ากลัวมาก มันเลวร้ายยิ่งกว่าปาแลร์โม ในซิซิลีอีกนะ ปาแลร์โม อัยการตุลาการ ตำรวจพยายามต่อสู้กับมาเฟีย มาเฟียก็พยายามจะยิงถล่มศาลตุลาการ ฆ่าตุลาการ ฆ่าอัยการ ฆ่าตำรวจ แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็พยายามใช้อำนาจตามกฎหมายกำราบจนกระทั่งต้องจบในซิซิลี
สนธิ - มันไม่เหมือนกันโส เพราะว่าตำรวจ อัยการ ศาล ที่ปาแลร์โม ที่ซิซิลี อิตาลี เป็นคนซึ่งต้องการจะรักษากฎหมาย ต้องการยุติธรรม มันตรงกันข้ามกับตำรวจ อัยการ และศาลบางคนในประเทศไทย ซึ่งยืนอยู่ข้างอาชญากรรม ยืนอยู่ข้างอาชญากรทางการเมือง ตรงข้ามกันหมดเลย เป็นผู้ช่วยอาชญากร เพราะฉะนั้นแล้วในทางตรงกันข้าม ตำรวจ อัยการ และผู้พิพากษาบางคน ก็คือมาเฟียในพาราโมนั่นเอง แต่ในขณะเดียวกันปาแลร์โม มีมาเฟีย มีตำรวจ ผู้พิพากษา อัยการ ที่ต้องการรักษากฎหมาย แต่เมืองไทยมันไม่มี
โสภณ - ฉะนั้นคนที่บอกว่า ผมอ่านกฎหมายรู้ เป็นนะ ผมก็คิดในใจดังๆ นะ บอกว่าผมอ่านกฎหมายไม่ค่อยรู้หรอก ดูกฎหมายก็ไม่เป็นหรอก แต่รู้ว่านักกฎหมายคนไหนเป็นโจร คือโจรที่เป็นทนายก็มี ทนายที่เป็นโจรก็มีนะ มี 2 อย่างนะ
สนธิ - อันหนึ่งซึ่งผมเห็นข้อแตกต่างโสภณ สมัยก่อนประเทศชาติเลวร้ายยังไงก็ตามทหารต้องเป็นที่พึ่ง มันจะมีผู้ใหญ่ในวงการทหารจะเป็นผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการทหารเรือหรือผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะยืนอย่างมั่นคงแล้วจะพูดจาให้กำลังใจประชาชน ถ้าวันนี้เรามีผู้นำทางทหารที่มีจิตใจรักความเป็นธรรมอาจพูดออกมาแล้วบอกว่าผมอยากให้การสืบเสาะคดีของคุณเอกยุทธเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา อย่างโปร่งใส เพราะว่าความยุติธรรมในเมืองไทยจะต้องมีอยู่ หรือเสื้อแดงไปล้อมศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีผู้นำกองทัพออกมาพูดให้ชัดเจน บอกว่าการไปข่มขู่ศาลเช่นนี้ ซึ่งศาลทำในนามพระปรมาภิไธยเป็นเหตุการณ์ซึ่งไม่ควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง เท่ากับไปหมิ่นองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมขอให้หยุด ไม่มี
โสภณ - การที่ทำเช่นนี้ เท่ากับกองทัพ ผู้นำกองทัพยอมรับสภาพของการไร้กฎหมาย
สนธิ - ก็นี่ไง
โสภณ - และวันนี้ ผบ.ทบ.ออกมาบอกว่าสื่ออย่าออกมาชี้นำใช่ไหม บอกสื่อไม่ได้ชี้นำคดี สื่อทำหน้าที่ขุดคุ้ยหาความจริง เพื่อมารายงานต่อประชาชน ผบ.ทบ. ผบ.ตร.ควรจะรู้ว่า investigative journalism คืออะไร การทำข่าวเจาะ แล้วก็สืบสวน พบว่าอาชญกรรมหลายๆ ครั้ง สื่อเป็นผูัเปิดเผยอย่างเช่น คดีวอเตอร์เกต ใช่ไหมละ ก็เหมือนกันคดีแชร์ทักษิณซุกหุ้น ก็สื่อเปิดเผย เขาไม่ได้ชี้นำคดี เขาเพียงแต่ซักถามว่าไอ้นั่นมันมี
สนธิ - เขาได้ทำหน้าที่ของเขาที่เขาควรจะทำ
โสภณ - ใช่
สนธิ - อย่างถูกต้อง
โสภณ - ทุุกอย่างมันไม่ลงอยู่กับรองกับรอยเขาต้องถามว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ มันใช่หรือเปล่า ไม่ใช่ชี้นำคดี ฉะนั้นผมคิดว่าท่าน ผบ.ทบ.ไปอยู่อเมริการ 10 วัน ท่านจะอ่านวอชิงตันโพสต์ นิวยอร์กไทมส์ บอสตันโกลบบางก็นาจะรู้ว่าเขาทำหน้าที่ยังไง อย่างเช่นกรณีของเอ็นเอสเอ ซึ่งเราจะพูดทีหลัง
สนธิ - เราพูดตอนนี้เลย เราผสมๆ กันไป
โสภณ - ใช่ และเขาชัดเจนเลยบอกว่าเอ็นเอสเอเขามี
สนธิ - เดี๋ยวก่อน อธิบายให้ผู้ฟังก่อน คุณโสภณคุณอย่าตั้งข้อสมมุติฐานว่าคุณรู้ คนชมเขาไม่รู้ เอ็นเอสเอภาษาอังกฤษ คือ อินเตอร์เนชั่นแนล
โสภณ - ผมออกครั้งแรก ผมตื่นเต้น
สนธิ - คืองี้ครับท่านผู้ชม คุณโสภณเขาหมายถึงหน่วยงานของสหรัฐฯ ก็คือหน่วยงานความมั่นคง คือ เอ็นเอสเอ (National Security Agency) เขาเรียกว่า เอ็นเอสเอ มันลักษณะคล้ายซีไอเอ แต่ว่ามันมีอำนาจเหนือซีไอเอ ตรงที่มันระดับชาติหมดเลย นายสโนว์เดนคนนี้ ที่คุณโสภณจะพูดเขาเป็นลูกจ้างของบริษัทบูซอัลเลนไปรับจ้างเอ็นเอสเอ ในการหาข้อมูล ในการเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ เอาเชิญต่อ
โสภณ - และจู่ๆ วันหนึ่งเขาก็ออกมา
สนธิ - เขาทนไม่ไหว
โสภณ - เขามาเปิดปมบอกว่า เอ็นเอสเอไปดักฟังทุกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะอเมริกานะ
สนธิ - นอกอเมริกา
โสภณ - คุณสนธิโทรศัพท์ถึงใคร ถ้าบอก เหมือนในหนังเลย Enemy of the State เป๊ะเลย ไอ้พระเอกตอนนั้นชื่อ เอ็ดเวิร์ด ไลน์ อันนี้ชื่อ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เห็นไหม ชื่อเหมือนกันนะ ชื่อมันคล้องจองกันเป๊ะ และทำงานด้าน communication สื่อสารเหมือนกันเลย และออกมาพบ เขาเปิดเผยบอกว่า ไอ้เอ็นเอสเอ ซึ่งเดิมอยู่ภายใต้ของ จอห์น เนโกรปอนเต ซึ่งตั้งมาเป็น national security agency หลังจากที่กรณีของ 9 11 และตั้งหน่วยงานขึ้นมาเป็น home security ขึ้นมา และนั่งเป็น national security agency คือหน่วยข่าวกรอง ซึ่งดูแลทั้งซีไอเอ ดูแลทั้งเอ็นเอสเอ จอห์น เนโกรปอนเต เป็นคนแรกที่ตั้งขึ้นมา ตอนนี้เปลี่ยนไปหลายคนและ หลังโอบามาก็เปลี่ยนไป และเอ็นเอสเอมีลูกจ้าง 40,000 คน อยู่ที่ฟอร์ตสมิท แมรีแลนด์ มีหน้าที่ดูอีเมล์ เขามีหมายสารลับ สั่งบริษัทกูเกิ้ล ทวิตเตอร์ ไมโครซอฟท์ ทั้งหมดบริษัทที่ทำ Router ทั้งหมด ส่งมอบข้อมูลทั้งหมด เขาไม่ต้องการเช็กทั้งหมดนะ เขาเช็กเฉพาะจากต้นตอบริษัท
สนธิ - และเขาใช้วิธี random เขาจะมีเรียก profiling ว่า ถ้าอีเมล์ลักษณะนี้ คนแบบนี้ สัญชาติอย่างนี้ มันน่าจะเข้าข่ายของไอ้ผู้ก่อการร้าย
โสภณ - ถ้าเอ่ยมาบอกว่า บินลาดินส่งเงินมาให้แล้วอย่างนี้นะ เขารู้ทันที เพราะเขาฟังหมดทั่วโลก พนักงานเขามีทั้ง เขาเรียกอะไร Outsource ใช่ไหม ที่รับจ้างภายนอก บูซอัลเลนเขารับจ้างทั่วไป ที่นี่นายนี้เหมือนกับแอสซานจ์ของวิกิลีกส์ ทำอย่างนี้เหมือนกัน
สนธิ - ทีนี้นาย ผมต่อให้คุณโสภณ นายสโนว์เดนเลยเอาข้อมูลอันนี้มาเปิดเผย อันนี้เขาเรียกว่าโปรแกรมปริซึม ข้อมูลนี้เขาบินจากฮาวายบ้านเขา บินเข้ามาที่ฮ่องกง เขาเปิดตูมเลย พอเปิดตูมมันก็ช็อกหมดเลย อเมริกา แม้กระทั่งโอบามา นักการเมืองไม่ว่าจะเป็นสัญชาติไหนก็ตาม พอเรื่องเข้าตัวแล้วปัดสวะหมด จะบอกว่า โอบามาบอกไม่จริง ที่นายสโนว์เดนพูดไม่จริง รัฐบาลอเมริกาไม่มีวันที่จะทำอย่างนี้ แต่นายสโนว์เดนล่าสุดบอกว่า มันมอนิเตอร์แม้กระทั่งประเทศจีน ประเทศจีนถูกมอนิเตอร์
โสภณ - สี จิ้น ผิงอยู่นั้นด้วย
สนธิ - สี จิ้น ผิง ยังอยู่ที่อเมริกา กำลังนั่งประชุมกับบารัก โอบามาเข้าใจไหม
โสภณ - เขาบอก 61,000 ครั้ง แฮกเข้าไปในเครือข่ายของจีนและฮ่องกง และสี จิ้น ผิงจะทำหน้าอย่างไร เวลาคุยกันใช่ไหม
จินดารัตน์ - และที่ช็อกคือเขาบอกคนอเมริกันเองได้ฟังข่าว เขาบอกเฮ้ยนี่พลเมืองอเมริกันแท้ๆ ยังโดนดักฟัง ยังโดนดูอีเมล์ ดูข้อมูลทุกอย่าง
สนธิ - หมดจากสโนว์เดน ย้อนกลับมาเมืองไทยนิดนึง ไหนๆ วันนี้เราจะพูดกันแล้วในเบรกนี้ รู้ไหมว่าเมื่อเร็วๆ นี้ มีอดีต พล.ต.อ.คนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งจะเกษียณอายุไป สั่งซื้อเครื่องดักฟังโทรศัพท์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกเข้ามาในเมืองไทย 20 เครื่อง
จินดารัตน์ - เมื่อเร็วๆ นี้หรอคะ
สนธิ - เข้ามาแล้ว และกำลังจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนหน้า หลังจากติดตั้งหมด
จินดารัตน์ - มันทันสมัยอย่างไรคะคุณสนธิ
สนธิ - ทันสมัยในลักษณะที่เรียกว่า มันยิ่งกว่าสแกน พอปิกอัพสัญญาณดังปั๊บ ลักษณะโปรแกรมที่มันเขียนเอาไว้ ถ้ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องปั๊บ มันจะดึงออกมาทันทีเลย เข้าใจเปล่า สมมุติว่า โสกำลังพูดโทรศัพท์อยู่ เฮ้ยไอ้รัฐบาลชุดนี้ พอไอ้คำว่า รัฐบาลปังปั๊บมันอยู่ในโปรแกรมไง มันจะดึงออกมาทันทีเลยว่า มันไล่เลยว่า อันนี้เบอร์ใคร และมันก็มอนิเตอร์ทันที อ้าวตายห่าเป็นโสภณโทรศัพท์ด่ารัฐบาลให้ชัชวาลย์ฟัง มันเลยบอกว่า งั้นไม่น่าสนใจ เข้าใจหรือเปล่า แต่โสภณพูดเรื่องนี้กับสนธิ เฮ้ยสนธิ ลิ้มทองกุล ฉิบหายต้องดักและ หรือโสภณพูดอย่างนี้กับหมอนวด สมมุติไปนวดเข้าใจเปล่า ไม่เป็นไร ตัดทิ้งไป นี่คือความทันสมัยของมัน
โสจำได้ไหมมีครั้งนึงที่เกาะไหหลำ ที่เครื่องบินสอดแนมด้วยกันตก จำได้เปล่า ที่จอดอยู่ในเกาะไหหลำไง ที่จีนไม่คืน และจีนมันรื้อออกมา ปรากฏว่าจีนมันไปค้นพบเครื่องดักฟังโทรศัพท์ที่สังเกตไหม ที่ไอ้จีนมันเคยโวยวายว่า อเมริกาบินเข้ามาภายในระยะ ไมล์ทะเล 15 ไมล์ทะเลของมัน จีนมันประท้วงบอกไม่ให้เข้านะ ถ้าเข้ามันจะยิง เพราะทำไมรู้ไหม ไอ้เครื่องนี้บินภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ไมล์ที่ห่างจากชายฝั่ง มันมอนิเตอร์ภาษาจีนได้หมดเลย โทรศัพท์ทุกอันเลย และมันมีโปรแกรมเขียนเสร็จเรียบร้อยเลย พอมีเสียงปุ๊บปั๊บ ถ้ามันอยู่ใน Profile ซึ่งมันเซ็ทเอาไว้ มันจะ automatic fully เหมือนกับโส ผมไปอเมริกา คุณไปอเมริกา แอนไปอเมริกา พอบอกชื่อไปปังปั๊บชื่อของคนไทยเผอิญมันคงไปใกล้ชิด Profile ของผู้ก่อการร้ายแค่ชื่อนะ พอชื่อปังปั๊บมันจะส่งสัญญาณทันที พอส่งสัญญาณปังปั๊บทั้ง ตม. immigration และ custom มันจะตรวจอย่างละเอียดเลย เฉพาะคนๆ นี้ ถึงแม้จะมาจากเมืองไทยก็ตาม ฉันใดฉันนั้น
หญิงไทยสมัยก่อน มีแอร์การบินไทยไปอินเดีย ปรากฏว่า เสือกชื่อรัศมี คนอินเดีย custom อินเดียเขาบอก รัศมีชื่ออินเดียนี่หว่า เลยจับแอร์การบินไทยตรวจพิเศษอยู่คนเดียว เขาเรียก โพรไฟล์ลิง แบบเดียวกันเป๊ะ
จินดารัตน์ - จะเริ่มใช้เร็วๆนี้หรอคะ
สนธิ - เมืองไทยหรอ ใช่เดือนหน้า ผมรู้
โสภณ - ก็ใช้วอด้าโฟนของอังกฤษก็ได้
จินดารัตน์ - ตกลงนายสโนว์เดนยังปลอดภัยดี
สนธิ - ปลอดภัย ยังอยู่ฮ่องกง สโนว์เดนฉลาด ไปฮ่องกง
จินดารัตน์ - อายุยังน้อย
สนธิ - ที่สำคัญคือ อเมริกามันตลก งวดนี้ต้องกดดันจีนให้ส่งสโนว์เดน
โสภณ - จีนบอกดักฟังตั้ง 61,000 ครั้ง เรื่องอะไร
จินดารัตน์ - จะส่งให้
สนธิ - สมัยก่อนอเมริกากดดันจีนให้ปล่อยนักโทษจีน
โสภณ - 60 กว่ารายที่ปล่อย อเมริกาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกง
สนธิ - แต่จะกดดันบอกว่า จีนจับนายหลิว ซึ่งได้รางวัลโนเบิลไพรซ์ ไม่มีเหตุผลต้องปล่อย ขอร้องให้ปล่อย งวดนี้จะพูดอย่างไรกับจีน จะอ้างว่าสโนว์เดนเป็นพลเมือง จีนก็บอกทีพลเมืองกูมึงมาเสือกทำไม
จินดารัตน์ - ตอนนี้ขอลี้ภัยไปไอซ์แลนด์
สนธิ - ไม่รู้
โสภณ - เขาอาจจะใช้หมายแดง ที่เราควรจะออกให้ทักษิณ ปกติหมายแดงจะขึ้นที่ ตม.ทั่วโลก
สนธิ - ผมสงสัยตลอดเวลา ทูตไทยที่อยู่ดูไบ อังกฤษ ฮ่องกง หรือวอชิงตัน ดี.ซี. เวลาทักษิณไป ไปบริการให้ทักษิณ อ้างว่า รัฐบาลสั่ง และรัฐบาลบอกว่าทักษิณเป็นที่ปรึกษา สามารถตั้งเป็นที่ปรึกษาได้ คำถามมีว่า พวกที่สั่งถ้าไม่ได้ทำเป็นจดหมายยืนยันให้ทำตามแบบนี้ ถ้าสั่งด้วยปาก ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทูตต้องติดตาราง
โสภณ - เขาบอกตอนไปรับใช้ไม่เห็น
สนธิ - มีคนยืนยัน กินข้าวด้วยกัน ไปรับมา
โสภณ - อยู่ในวัดไทย
สนธิ - บริการทุกอย่าง แม้กระทั่งไปรับที่สนามบิน พวกขี้ทูดต้องระวังตัว เพราะรัฐมนตรี เช่น สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล คงสั่งด้วยวาจา เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ ทูตพวกนี้ติดคุกเป็นแถว ถูกปลดออกจากราชการ นอกเสียจากมีเอกสารยืนยัน แต่ส่วนใหญ่ ผมเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยไม่มี
โสภณ - บางคนอาจจะเต็มใจไปโดยไม่ต้องสั่ง เพราะการไปเป็นทูตคุณต้องพร้อมรับใช้ทักษิณอยู่แล้วคุณถึงได้ไปเป็น
สนธิ - ก็ทูตวอชิงตันดี.ซี.คนปัจจุบันไงเล่า เขาเอามาโดยเฉพาะ แล้วเตะพี่ชายโต้ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่เคยเป็นทูตไทยประจำเวียดนาม ที่ออกมาด่ารัฐบาลชุดสมัคร เตะกระเด็นไปอยู่ที่อื่น รู้สึกจะไปอยู่โซล ทูตไทยประจำวอชิงตันดี.ซี.ทุกวันนี้ไม่ทำอะไร เดินสายในมหาวิทยาลัยในอเมริกาไปพูดกับนักเรียนไทย บอกทักษิณไม่ผิด ทักษิณถูกกลั่นแกล้ง นี่มันหน้าที่ทูตหรอ
โสภณ - ชัยยงค์ สัจจิพานนท์ ใช่ไหม
จินดารัตน์ - ที่อังกฤษก็ด้วย
โสภณ - เมื่อก่อนสมัยทูตวิกรม ที่อังกฤษ
สนธิ - ทูตวิกรมเขามีอะไรเอี่ยวกันมานานแล้ว
จินดารัตน์ - ปูพรมแดงให้เดินเลย พักก่อน จากสถานการณ์บ้านเมือง รู้สึกเหมือนหลานนั่งฟังอา2คนคุยกัน
โสภณ - อายุต่างกันขนาดนั้น
จินดารัตน์ - พักกันก่อน ช่วงหน้าต้องย้อนกลับไปเรื่องใหญ่อีกเรื่อง ไม่รู้ว่าจะฉิบหายวันไหน เรื่องสนามบินสุวรรณภูมิ
ช่วงที่ 3
จินดารัตน์ - กลับมาช่วงสุดท้าย รายการคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ คุณโสภณ ขอคุยด้วย สนับสนุนโดยแคร์ สบู่อะไรนะพี่โส
โสภณ - 1 คน 1 ก้อน 1 เดือน 2 ก้อนก็ได้ไม่เป็นไร
จินดารัตน์ - แล้วแต่ศรัทธา
โสภณ - ควรจะทำอย่างยิ่ง ข้าวยากหมากแพงเช่นนี้
จินดารัตน์ - หรือว่าจะเป็นทุนเก็บไว้เพื่อที่จะประกอบกระจกใหม่บ้าง ลี้ภัย
โสภณ - ไม่ใช่หรอก ผมเชื่อว่าคนดีต้องอยู่ได้
สนธิ - อันนี้จริง เมื่อสักครู่นี้ก่อนออกรายการ แอนก็อ่านโอวาท
จินดารัตน์ - ร้อยคำสอนของสมเด็จพระสังฆราชฯ
สนธิ - ที่ท่านบอกว่า คนทำดีกับคนทำชั่วต้องได้ดีได้ชั่ว มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ปัญญาคิด ผมคิดว่าสังคมไทยในเวลานี้ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือคนที่มีอำนาจถือกฎหมาย และคนที่ถูกประชาชนเลือกหรือว่าได้เป็นตัวแทนในการที่จะถือกฎหมายนี้ไม่เคยคิดที่จะทำความดี ทำแต่ความชั่ว แล้วเห็นลาภยศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลาภกับยศ เป็นเรื่องใหญ่ หลายคนเหมือนกับคนที่ผมรู้จัก เป็นน้องเป็นนุ่งโส เป็นตำรวจ แต่ก่อนก็เข้านอกออกในบ้านผมเป็นประจำ พองวดนี้ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยกลับมา สมัยก่อนถ้าไม่ใช่รัฐบาลที่เป็นมิตรกับผม เขาก็ยังสมัยสมัครเขาก็ยังแวะมาบ้าง ไม่แวะมาตรงก็ให้เมียมา เอาอาหารการกินมาให้ บางทีบางคนก็ส่งให้ลุกน้องส่งก๋วยจั๊บมาให้ ส่งโน้นส่งนี้ มางวดนี้ความที่เขากลัวว่าข่าวจะถึงว่าติดต่อผมอยู่หายไปเลย หายอย่างเดียวไม่พอ คนบางคนไปกินตำแหน่งอยู่ที่เชียงใหม่ ถึงกับด่าผม ด่าเลยนะ บอกเฮ้ยผมไม่ยุ่งมานานแล้ว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันทั้งสิ้น คือเราไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แต่เราเป็นคนที่รู้มานานแล้วเรื่องสัจธรรมแบบนี้ แต่เรามองไม่เข้าใจ และเราไม่เคยทำความเดือดร้อนเขานะ พอเรารู้ว่าเขาต้องการตำแหน่ง เขาไม่มาเราไม่ว่า เพราะเราเห็นใจ บางครั้งผมจะไปจังหวัดหนึ่งไปธุระ เขาเป็นตำรวจใหญ่อยู่จังหวัดนั้น สมัยก่อนลูกสาวเคยเรียน มศว ผมช่วยเขา รักเหมือนลูก เรารู้ว่าเขาจำเป็นต้องเอาตำแหน่งอยู่ที่นั่น เขาต้องเอาใจเพื่อไทย และมีเพื่อนฝูงเป็นพรรคเพื่อไทย ผมไปจังหวัดนั้นผมไม่บอกเขาเลย ธรรมดาก็กินข้าวด้วยกัน เราไม่กล้าพูด เพราะเราไม่ต้องการให้คนเห็นว่าเขามานั่งกับเราจะเป็นอันตรายกับเขา ถึงขั้นด่าต่อหน้าลูกน้อง บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับผม ตัดขาด ทำให้ผมรู้ว่า เดี๋ยวนี้ลาภกับยศ ยศเปลี่ยนคนทุกอย่าง ทำให้เราเห็นสัจธรรม ซึ้งมากกว่าเก่า ซึ่งเราเห็นมานานแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว เดี๋ยวนี้เมืองไทยเป็นอย่างนี้เรียบร้อยหมดแล้ว
โสภณ - คนเหล่านี้มีความจงรักภักดี มีไว้เพื่อขายให้พวกที่ประมูลได้สูงสุด
สนธิ - ความจงรักภักดีซื้อขายได้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเกิดมีรัฐบาลเป็นมิตรกับผม
โสภณ - เขาก็พร้อมกลับมาหา
สนธิ - เขาจะตั้งแคมป์อยู่หน้าบ้าน พี่ต้องเข้าใจผมนะ คราวที่แล้วผมอย่างโน้นอย่างนี้ พี่ต้องให้อภัยผม อย่างไรผมยังเป็นน้องพี่ คำนี้ชอบพูดตลอดเวลา ผมน้องพี่ ผมไม่เคยลืมพี่
โสภณ - ขอย้ำสุภาษิตจีนอีกรอบ เกิดเป็นคนถ้าไม่เห็นแก่ตัวฟ้าดินลงโทษ สอง มีเงินใช้จ้างผีโม่แป้งก็ได้ สาม ทุกคนมีราคาขึ้นอยู่ว่าจะมากหรือน้อง คนบางคนบอกว่า คนอย่างผมเงินซื้อไม่ได้ถ้าไม่มากพอ สี่ข้อเป็นหลักใหญ่ที่มนุษย์ยุคนี้ถือไว้ ฟ้าดินลงโทษ ขนาดตัวเองยังไม่เห็นแก่ตัวเลยนะ ฟ้าดินต้องลงโทษแล้ว มันเป็นไอรอนนี่ของสิ่งที่เกิดขึ้น
จินดารัตน์ - มิน่าถึงคบกันอยู่แค่นี้พวกเรา
สนธิ - มีไม่มาก แต่มันมีความสุขมากกว่า
โสภณ - บางครั้งเราไม่รับโทรศัพท์จากใครก็ถือเป็นความสงบของชีวิตเหมือนกัน ความสุขสันโดษ ถ้าไม่เปิดทีวีดูบางช่วงก็เป็นความสุขของชีวิตเหมือนกัน อยู่คนเดียวมีโอกาสได้คิด เป็นชีวิตที่น่าสนุกมาก สมัยที่ผมดื่ม 5-6 ปีก่อน ผมมีเพื่อน 2 อย่าง คือ เครื่องดื่มกับหนังสือพิมพ์ จะดื่มคนเดียว ไปร้านประจำ ปลากะพงเผา 1 ตัว กับแกล้ม 1 อย่าง เบียร์ 2 ขวด หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัล อ่านจบก็กลับ เป็นชีวิตสันโดษ สงบสุข ไม่มีใครรบกวน ถ้านั่งล้อมวงปาร์ตี้ นอกจากไม่ได้อะไรแล้วคุณเสียเวลา แล้วต้องดื่มมากกว่าที่จะเป็น
สนธิ - เสียเวลาไม่เท่ากับรับรู้เรื่องไร้สาระ
จินดารัตน์ - มาดูเรื่องเป็นสาระต่อชีวิต และเรื่องความปลอดภัย เรื่องทรัพย์สินที่ควรจะเป็นของคนไทยทั้งประเทศ กลับกลายเป็นโกงเอาไปเสวยสุข เรื่องสนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้คุณสนธิมีเหตุผลที่จะต้องพูดถึงเรื่องนี้ ทำไม
สนธิ - เพราะ 1-2 วันนี้ ถ้าอ่านหนังสือพิมพ์จะเห็นว่า สนามบินสุวรรณภูมิเตรียมปิดแท็กซี่เวย์และหลุมจอด มโหฬาร กระบวนการซ่อมใช้เวลา 10 เดือน ซ่อมใหญ่ หลังจากซ่อมใหญ่แล้ว 1 ครั้ง
ทำไมแท็กซี่เวย์และหลุมจอดถึงต้องซ่อม รันเวย์ทำไมไม่ต้องซ่อม เพราะรันเวย์เวลาสร้าง ช่วงเครื่องบินลงแตะพื้น ตอกเสาเข็มเยอะ ลงกระแทกอย่างไรก็ตามไม่เป็นไร ลงแล้วเครื่องบินวิ่งน้ำหน้กเบา พอเลี้ยวเข้าแท็กซี่เวย์เริ่มช้าน้ำหนักกดมากขึ้นพอจอดหลุม เครื่องบินเป็นร้อยตัน สนามบินสุวรรณภูมิผมเคยพูดมานานแล้วว่า เนื่องจากทรายที่ใช้ไม่ใช่ทรายแม่น้ำเป็นทรายขี้เป็ด ฝนตก น้ำท่วมหลายครั้งจะขังน้ำ เมื่อขังน้ำกลายเป็นข้างบนซีเมนต์ข้างล่างเป็นน้ำและมีทราย เพราะฉะนั้นจะทรุด ตอนที่พูดรู้สึกปี 50 ไม่มีใครฟัง นอกจากไม่มีใครฟังแล้วยังโดนกรรมการการท่าฯหลายคน ซึ่งมีผลประโยชน์กับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โวยวายว่าผมเสนอให้ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ไปใช้ดอนเมือง พัฒนาดอนเมือง แล้วสร้างสุวรรณภูมิแก้ไขทั้งหมดจะได้จบทีเดียวเพื่อความมั่นคง ไม่เห็นด้วย บอกสนามบินสุวรรณภูมิไม่เป็นไร ไม่เป็นไรอะไร ต้องใช้เวลา 5-6 ปีถึงจะเริ่มเห็นผล วันนี้เริ่มเห็นแล้วว่าเป็นยังไง ถ้าไม่มีปัญหาคุณจะซ่อมแท็กซี่เวย์และหลุมจอด 20 กว่าหลุม ใช้เวลา 10 เดือน คุณทำทำไม แสดงว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง
คนไทยไม่ยอมรับความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการ คนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จะลุกขึ้นมาปกปิด เหมือนข้าว บอกว่าข้าวทุน ขาดทุนอะไร สูงสุดหมื่นกว่าล้าน
จินดารัตน์ - ยังไม่ปิดโครงการตัวเลขยังไม่ชัดเจน
สนธิ - ยังไม่ปิดโครงการ ข้าวยังไม่ขาดไม่ขาดทุน ถ้าอย่างนั้นไม่ทิ้งข้าวไว้สัก 10 ปีล่ะ ทั้งหมดเป็นมอดแล้วก็ยังไม่ขาดทุน นี่ไง คือสันดานของคนไทยนี่เป็นเหตุผลหนึ่ง และมันจะโยงไปถึงรถคันแรก ซึ่งเดี๋ยวต้องคุยกัน
จินดารัตน์ - เดี๋ยวแอนจะมีเทปรายการคนเคาะข่าวที่คุณสนธิมาออกเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ปีที่แล้วนี่เองเรื่องการปิดซ่อม ซึ่งคุณสนธิเคยพูดไว้เมื่อปี 50 อย่างที่บอก ไปชมกันนะคะ จะมีเทป 2 เทปนี้ให้ฟังว่าคุณสนธิเคยพูดอะไรไว้บ้าง ไปชมกันค่ะ
( VTR คุณสนธิ)
สนธิ - เพราะว่าทนต่อไปไม่ได้โส ไม่งั้นเจ๊ง เพราะว่าอย่างที่บอกว่า ระหว่างรันเวย์พอมันลงปั้บเครื่องมันวิ่งไปเรื่อยๆเลยน้ำหนักมันเบา แต่พอมันเข้าแท็กซี่เวย์พอยิ่งช้าเท่าไหร่น้ำหนักกดทับ แล้วเครื่องบินวันหนึ่งมีทั้งหมดกี่ร้อยลำ
โสภณ -เจ 380 ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
สนธิ - ฉะนั้นวันนี้พิสูจน์ชัดว่า สนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นอย่างนี้เพราะมันโกงกัน เหตุผลของการโกงพี่น้องต้องจำเอาไว้ บางครั้งมันไม่มีผลให้เห็นได้ทันที 4-5 ปีให้หลัง แล้วใครฉิบหายตอนนี้ ประเทศไทยฉิบหาย แล้ววันนี้ใครมาเป็นประธานการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ศิธา ทิวารี ก็เหมือนกัน เพื่อไทยอีก พรรคเพื่อไทยต้นตระกูลของพวกเลวชั่วชาติพวกนี้มันเป็นคนซึ่งทำสนามบินฉิบหายใช่ไหม
จินดารัตน์ - เขาบอกสิ่งที่เขากลัวกันมาก ผู้โดยสารส่วนใหญ่ ถ้าดูที่มาที่ไป กลัวที่สุดก็คืออาคารผู้โดยสาร วันหนึ่งเกิดมันถล่มลงมาแค่ส่วนน้อยไม่ต้องทั้งหมดไม่รู้จะร้องเพลงอะไรเลย
โสภณ - โครงสร้างเหล็กมันเล็กเกินไป เหล็กมากเกินความจำเป็น เหล็กทำเป็นลวดลายด้วยนะ น้ำหนักก็เยอะ คือทุกอย่างสร้างผิดรูปแบบหมดเลย ไม่ใช่เดินเข้าไปปุ้บเจอเคาน์เตอร์ทันที มันต้องทิ้งช่องว่างพอสมควรถึงจะเข้าถึงเคาน์เตอร์ที่เช็กอินได้ นี่เข้าไปปุ้บเลย ไม่มีช่องว่างอะไรสักอย่างเลย นี่คือการลดสัดส่วนให้มันแคบลงเพราะว่า งบมันมีแค่นั้น เขาก็เผื่อไว้เหลือกิน หักแล้วอมเหลือ
สนธิ - คุณสังเกตมั้ยโส คุณไปสนามบินมาแล้วหลายประเทศ ไปนาริตะ ฮ่องกง คุณจะเห็นสนามบินเขา ถ้าจะมีแหล่งซื้อของช้อปปิ้งเนี้ยเขามีแต่เขารวมที่เดียว ของเรานี่ไอ้คิงเพาเวอร์เข้าไปตลอดทางเลย ดักทุกจุดมันทุเรศ เช่นที่นาริตะมันจะมีศูนย์รวมเลยนะ มันเขียนชัดเจนเลยว่า เดินเข้าไปช้อปปิ้งได้มีร้านอาหารเต็มไปหมดเลย รวมที่เดียวกันหมด ร้านราเม็งอร่อย ร้านโน้นร้านนี่ ร้านซื้อของ ร้านช็อกโกแล็ต พ้นจากนั้นไปก็เป็นบริเวณผู้โดยสาร
โสภณ - นี่มันมีทุกจุดแล้วดักไว้ทุกแห่งกะว่าจะไม่ให้เหลือเงินออกจากสนามบินให้เหลือเลย แล้วราคาก็แพงมาก ราคาแม้กระทั่งช่วงในประเทศ สินค้าราคาเท่ากับอินเตอร์หมือนกัน แพงมากนะ ราคาเท่ากับสนามบินในต่างประเทศเลยนะ บะหมี่ชามหนึ่งเราควรจะทานสัก 50 บาท 70 80 100 นี่ปาไปเกือบ 200
จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ
โสภณ - แพงมาก แพงจริงๆ
สนธิ - ก็ค่าเงินใต้โต๊ะเท่าไหร่โส ค่าเงินใต้โต๊ะมหาศาลเลยงานนี้
โสภณ - และคนที่เปิดร้านขายไม่ใช่ว่า กำไรนะ ขายยากนะสินค้า เวลาเราเดินจะดูว่ามีคนแวะหรือเปล่า ก็ไม่ค่อยมีคนแวะ แต่เขาทนสู้ค่าเช่าได้ นี่คือความประหลาดว่า เออ แต่ร้านอาหารก็เหมือนกัน รสชาติอาหารไม่อร่อย และยังแพงอีกต่างหาก มันเหมือนกับหมอชิต คุณภาพเหมือนหมอชิตเลย
จินดารัตน์ - ห้องน้ำด้วยนะคะ
โสภณ - ห้องน้ำเป็นห้องน้ำที่สวยที่สุด สู้ดอนเมืองปัจจุบันยังไม่ได้
จินดารัตน์ - ใช่คะ
สนธิ - และคุณรู้ไหมมันเกิดอะไรขึ้น มันกลับมาพัฒนาดอนเมืองอีก
จินดารัตน์ - ใช่คะ
สนธิ - เพื่อที่จะซ่อมสุวรรณภูมิ
จินดารัตน์ - มา renovate ใหม่เลย อย่างสวยเลย
สนธิ - ถ้ามันปิดสุวรรณภูมิตอนนั้น แล้วมาพัฒนาดอนเมือง ปิดไปสักปี และมันซ่อมไปปีป่านนี้โอเคและ นี้ไง
โสภณ - ยังดีที่มีความฉลาดติดตลกอยู่บ้างนะ ที่ไม่ใช้สนามบินดอนเมืองไปเป็นสนามบินแข่งกันนิด หรือเป็นศูนย์แสดงสินค้าไปนะ คงจะมีบุญของแผ่นดินนี้เหลืออยู่บ้างที่ทำให้ความฉลาดของประเทศเหลือติดตลกอยู่บ้าง
สนธิ - รู้เปล่าโส ดอนเมืองนี่น่าจะพัฒนา และอีสุวรรณภูมิน่าจะเป็นแหล่งแสดงสินค้าไปเลย
จินดารัตน์ - ใช่คะ มันไม่เหมาะจะเป็นสนามบินตั้งแต่แรก
โสภณ - เขาเอาเงินไปให้กองทัพอากาศนะ ย้ายที่อันนี้จะดีมาก
สนธิ - ถูกต้อง เพราะโอกาสย้ายไปใช้อย่างมากก็ 10,000-20,000 ล้านจบ
โสภณ - แต่เขาไม่ได้เงินไง แต่พวกที่จ่ายเงินยังไม่ได้เงิน เงินเป็นแสนๆ ล้านนะ ย้ายไปทหารอากาศก็แฮปปี้ เห็นไหม
สนธิ - ก็ไปกำแพงแสน ไปสร้างชุมชนให้เขาใหม่ ไปสร้างโรงเรียน ไปสร้างโน้นไปสร้างนี้ แล้วย้ายข้าราชการไปที่โน้นหมดเลย
โสภณ - ตาคลีก็ได้ สนามบินเก่า ไม่ใช่เล็กๆ ดีกว่าที่ บน.6 อีก สนามกอล์ฟใหญ่ขนาดไหนกลางสนามดู สนามบินไม่ใช่สนามกอล์ฟกลางสนาม เป็นสุดยอดของสนามบิน
สนธิ - เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการโกงกินสมัยยุคทักษิณ เริ่มยุคทักษิณจริงๆ ของที่ยุคทักษิณเริ่มนะครับ ที่ทำให้บ้านเมืองฉิบหาย ยังมีร่องรอยให้เห็นอยู่ตลอดเวลา และจะยังเห็นต่อไปอีกหลายปี ข้าวเห็นชัดเจน กำลังตามด้วยน้ำ 3.5 แสนล้าน สรุปแล้วน้ำ 3.5 แสนล้าน ที่ลงทุนเยอะคือการสร้างป้อมปราการให้เมือง เท่านั้นเอง ดูว่าจังหวัดไหนจะโดนท่วมก็สร้าง ทำให้เหมือนเป็นเกาะไปเลย ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องน้ำ
จินดารัตน์ - เรื่องน้ำแล้วยังมีเรื่องรถอีก
สนธิ - เรื่องรถผมอยากพูดมานานแล้ว เวลาเราดูรถคันแรก 1.2 ล้านคัน เราดูว่ารัฐบาลต้องเสียเงินไป 1.2 แสนล้านบาท จริงๆมีนัยมากกว่านั้น รถในกรุงเทพฯ ที่จดทะเบียนตอนนี้ 7.5 ล้านคัน บวกอีก 1.2 ล้านคน เป็น 8.7 ล้านคน เอา1คันคูณ3 คันนึงยาว 3 เมตร 24 ล้านเมตร เท่ากับ 2,500 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นถนนในกรุงเทพฯมีพอไหม ไม่พอ ข้อที่สอง
โสภณ - เฉพาะรถใหม่จากนี่ไปคาบูล
สนธิ - มากกว่านั้น 1 คันค่าผ่อนประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน ค่าน้ำมัน 4,000 บาท 12,000 ทั้งหมด 1.2 ล้านคน เท่ากับต้องผ่อน 1 เดือนประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ต้องผ่อน 5 ปี 7 หมื่นกว่าล้าน 1.2 ล้านคัน ยอดเงินที่ต้องใช้ผ่อนและเติมน้ำมัน เท่ากับ 14,000x12 ประมาณ 1.7 แสนล้านบาทต่อปี เงิน 1 บาทเวลาใช้หมุน 10 เท่า เท่ากับ 1 ปี เงินซับโพสต์ต้องไปใช้จ่ายในตลาดล่าง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหาร ซื้อข้าวของ 10 คูณเงินหายไป 1.7 ล้านล้านบาท เกินครึ่งงบประมาณแผ่นดิน ที่คนเอาไปใช้ในเซกเตอร์ ที่ผมเรียกว่า นอนโพรดัตช์ทีฟเซกเตอร์ ไม่เอาไปให้ลูกซื้อของเล่น หรือเอาเงินก้อนนี้ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่มี นี่คือเหตุผลว่า ทำไมคุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา เครือสหพัฒน์ ออกมาพูดว่า เดี๋ยวนี้สินค้าอุปโภคบริโภคขายตก
สอง สมัยก่อนตอนผมหนุ่มๆ ผมชอบแวะไปหานายห้างเทียม โชควัฒนา ผมทำหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ นิตยสารผู้จัดการ ผมไปคุยกับนายห้างเทียม นายห้างเทียมบอกว่า สนธิไม่ต้องไปคุยกับนักเศรษฐศาสตร์ ไม่ต้องถามว่าเศรษฐกิจดีไม่ดี มาถามอั๊วะ อั๊วะขายทุกอย่างตั้งแต่หัวมาถึงถุงเท้า รองเท้า อั๊วะรู้หมดทุกอย่างว่าเศรษฐกิจปีนี้ดีไม่ดี เพราะฉะนั้นตัววัดไม่ใช่วัดจากด็อกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์ที่รัฐบาลจ้าง วัดจากคน เช่น นายห้างเทียม คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา สหพัฒน์ผลิตสินค้าคลุมทุกอย่างในชีวิตมนุษย์ คุณบุณยสิทธิ์ออกมาพูดชัดเจนว่า ภาวการณ์แย่ ขนาดบะหมี่ มาม่า ยังขายตก
โสภณ - แต่มีคนได้รับผลประโยชน์ทันทีจากคอมมิชชั่นจากการขายรถ เข้าไปฟันหัวคิวคันละ 10,000-15,000 หาก 1.2 ล้านคัน
สนธิ - 1.8 หมื่นล้านบาท
โสภณ - เข้ากระเป๋า ได้ก่อนเซลล์ขายรถ น้ำมันที่ได้จากส่วนแบ่งจากการซื้อน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป และจากเงินปันผล มันมหาศาล เงินหมื่นกว่าล้านเป็นแค่เงินทอน แต่สร้างเวรกรรมมหาศาลให้กับบ้านเมือง
สนธิ - อย่างน้อย 6 ปี แล้วยังมีน้ำอีก 3.5 แสนล้าน แล้วยังจะมีเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท
จินดารัตน์ - ศาลปกครองจะวินิจฉัย 27 มิ.ย.นี้
สนธิ - ที่ต้องวินิจฉัย 27 เพราะว่า 30 ต้องกู้แล้ว ถ้ากู้แล้ววินิจฉัยไม่ได้ มีนัยพอสมควรที่จะวินิจฉัย 27 แปลว่าอะไร เพราะถ้าวินิจฉัย 27 บอกว่าผิดให้ระงับ พอระงับสิ่งที่ทักษิณทำต่อคือ สั่งน้องสาวยุบสภา
โสภณ - หรือปรับ ครม.เอาคนมีชนักปักหลังออกไปก่อนเอาคนใหม่เข้ามา
สนธิ - ไม่คิดว่าปรับคิดว่ายุบ จะยุบเอาคนเข้ามา 300 คนด้วยเครือข่ายที่วางไว้เรียบร้อย แล้วจะบอกว่า นี่คือแมนเดทที่ประชาชนให้ จะแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ จะไม่มีศาลปกครอง จะไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ จะมีศาลเดียวที่ต้องการ
โสภณ - แต่ผมไม่เชื่อว่า บ้านเมืองจะถึงประสบชะตากรรมเลวร้ายขนาดนั้น
สนธิ - ผมก็ไม่เชื่อ แต่ผมมีความรู้สึกว่าจะต้องเกิด แต่ไม่รู้จะเกิดเมื่อไหร่ และจะไม่เกิดโดยที่คนชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย
โสภณ - ทำไมเราไม่คิดว่าทั้งหมดนี่คือแรงเร่งที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
สนธิ - ผมคิดว่าการฆ่าเอกยุทธ เป็นอีกจุดหนึ่งที่เหมือนกับว่า ใส่ฟืนลงไปในกองไฟที่มันลุกอยู่แล้ว เพราะการฆ่าเอกยุทธมันมีนัยสูงมากนะ มันแสดงว่า ยุคนี้มันไม่ได้ต่างไปจากยุค พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ แต่สมัย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เรามี สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มาสมัยนี้ ผมเรียกว่าสมัยเฉลิม อยู่บำรุง เรามีประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเฉลิม อยู่บำรุง คนละแบบกัน สมัยก่อนเผ่ากับสฤษดิ์ เขาไม่มองหน้ากัน
โสภณ - เสือกับสิงห์อยู่คนละถ้ำกัน
สนธิ - แต่วันนี้เสือกับสิงห์ไม่มี มีแต่หมาอยู่ด้วยกัน
โสภณ - ผมถึงมองว่าประเทศนี้กำลังปกครองโดยองค์กรอาชญากรรมไง จริงๆ คืออาชญากรรวมตัวเป็นพรรคการเมืองกุมอำนาจรัฐเพื่อจะมีเจตนาอย่างหนึ่ง คือแสวงหาผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
สนธิ - มาปล้นประเทศไทย แล้วมาทำให้คนไทยเป็นทาส
โสภณ - ภายใต้ข้ออ้างว่า จะมาบริหารบ้านเมือง
สนธิ - โดยใช้หน้ากากประชาธิปไตย
โสภณ - ฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับประชาชน นี่เห็นบอกว่าเชียงรายเสื้อแดงจะไปลุยหน้ากากขาวอีกแล้ววันอาทิตย์ประกาศแล้วจะไปเหลือเหรอ จะซ้ำรอยที่เชียงใหม่ จะเอาอย่างที่เชียงรายอีกต่างหาก
สนธิ - ไอ้นี่ผมกำลังอยากจะตั้งคำถามถามถึงไอ้พวกนักประชาธิปไตย นปช.รวมทั้งนักวิชาการของนิติราษฎร์หรือตลอดจนพวกแกนนำ ทุกคนเลยที่พูดต่อว่าที่เราสู้เพื่อทักษิณเพื่อประชาธิปไตย นี่ประชาธิปไตยของพ่อมึงเหรอ คืออาการใช้ความรุนแรงของประชาธิปไตยของมัน ประชาธิปไตยของมันคือต้องได้ทุกเรื่องที่มันต้องการ
จินดารัตน์ - มีคนโมโหพี่โสหรือเปล่ามาออกรายการนี้
สนธิ - คนเชียงรายมาออกรายการแบบนี้
จินดารัตน์ - อย่างนี้ต้องส่งพี่โสไปช่วยหรือเปล่า
โสภณ - เขาทำแบบนี้ก็ดีนะ จะช่วยบิ้วให้เกิดแรงต้านขึ้นมาให้ประจานความชั่วร้ายของคนกลุ่มนี้
สนธิ - ราดน้ำมันลงบนกองไฟมากขึ้นเรื่อยๆ
จินดารัตน์ - ขอบคุณพี่โสนะคะที่มาร่วมรายการและหวังว่าถ้ามีประเด็นใหญ่ๆพี่โสจะมาคุยอีก
โสภณ - ใหญ่กว่าฆ่าคนนี้เลยเหรอ เดี๋ยวเขาจะหาเรื่องฆ่าคนใหญ่กว่านี้
สนธิ - แต่ขอให้รู้ไว้ซะก่อนว่าผมกับโสไม่ใช่อาคุณนะ ผมเป็นรุ่นพี่คุณนะ คุณเตรียมทำตัวเองให้อ่อน เอ๊าะและผมสองคนแก่ มากไปหน่อยละมั้งยัยแอน ลูกสองคนแล้วนะ ทำผมสั้น ทำเป็นเด็กวัยรุ่น หมั่นไส้ เรียกอาๆ กับหลาน
จินดารัตน์ - อุตส่าห์ทำหน้าอินโนเซนท์ ขอบคุณมากค่ะ และแอนคิดว่าเป็นความสุขอีกวันหนึ่งของผู้ชมรายการ แฟนๆรายการเอเอสทีวี ที่เห็นรุ่นใหญ่ ใหญ่มากๆ ของสถานีมานั่งคุยกันแบบนี้ คงมีโอกาสดีๆ แบบนี้อีกนะคะพี่โส
สนธิ - ผมว่าในประเทศไทย ถ้าพูดถึงนักหนังสือพิมพ์ นักสื่อมวลชนอาวุโส ผมกับโสต้องติดอยู่ 1 ใน 10
จินดารัตน์ - อันดับต้นๆ และค่ะ
โสภณ - อายุมากไง
สนธิ - อายุมาก
จินดารัตน์ - ผู้ทรงภูมิค่ะ
โสภณ - อายุมาก ยิ่งหาทางออกจากชีวิตยังไม่เจอ ยังสลัดออกจากอาชีพนี้ไม่ได้
จินดารัตน์ - รุ่นน้องเขาแซวเขาบอกว่า สองคนนี้เคยยืนอยู่ที่ไหนก็ยังยืนอยู่ที่นั่น
สนธิ - ไม่เคยเปลี่ยน
จินดารัตน์ - ไม่ได้ขยับไปไหนเลย ใช่ไหมพี่
โสภณ - คืออาชีพนี้ ทำได้จนกระทั่งตาบอด ตาบอดยังทำได้ ปากยังพูดได้ ใช่ไหม ตาบอดยังอัดเทปพูดออกไมโครโฟนได้ แต่เขียนไม่ได้เท่านั้นเอง นอกจากบอดเขาให้คนอื่นเขียนให้
จินดารัตน์ - เที่ยวหน้าเห็นเมนูแล้วนะคะ พี่โสอาจจะสนใจอาจจะหลวมตัวมาอีก เป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดนะคะ
โสภณ - ผมไม่ทานเป็ด
จินดารัตน์ - เดี๋ยวต้องเปลี่ยนแล้วค่ะคุณสนธิ จะได้หลอกล่อมาได้ ขอบคุณสำหรับการติดตามชมวันนี้ ขอบคุณผู้อาวุโสของเราทั้ง 2 ท่าน และขอบคุณทุกๆ คนที่ให้กำลังใจ
สนธิ - ขอบคุณรุ่นพี่ของเราครับ
โสภณ - เพิ่งบอกหมาดๆ
สนธิ - เพิ่งจะพูดไปหยกๆ เอาอีกแล้วนังนี่ อีนี่ไม่เคยจำอะไรเลย เดี๋ยวเหอะ
จินดารัตน์ - วันนี้ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ/ครับ
