ตำรวจ สน.ลาดกระบัง รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวควงปืนจี้ชิงทรัพย์ ธ.กรุงไทย สาขาร่มเกล้า ซอย 21/3 กวาดเงินสด 130,180 บาท ก่อนหลบหนีอย่างใจเย็นขึ้น จยย.หนีลอยนวล
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.45 น. ร.ต.ท.ฤทธิไกร ยอมประโคม พนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนชิงเงิน ธ.กรุงไทย สาขาร่มเกล้า ซอย 21/3 ตั้งอยู่เลขที่ 123/1 ปากซอยร่มเกล้า 21/3 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.ลาดกระบัง และ พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เนื้อที่ 218 ตร.ม.โดยชั้นล่างเปิดเป็นสำนักงานให้บริการลูกค้าของธนาคาร เจ้าหน้าที่พบ น.ส.ปิยนุช พละเยี่ยม อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่แผนกบริการลูกค้า ประจำเคาน์เตอร์ หมายเลข 4 ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าตกใจกับเหตุการณ์ กล่าวว่า คนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วมผิวสีดำ-แดง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร อายุประมาณ 30-35 ปี สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว ใบหน้ากลมมีหนวดเล็กน้อย ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีครีม กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินพับขา สวมรองเท้าคล้ายคอมแบท สะพายกระเป๋าสีดำ เดินสวนกับลูกค้าผู้ชายทำงานร้านมาสเตอร์สุกี้ที่มาขอแลกเงินเป็นประจำแล้วตรงเข้ามาหาตน ตนจึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่ชายหนุ่มคนดังกล่าวกับแสดงตัวเป็นคนร้ายทันที โดยปิดกระจกหมวกกันน็อกบังหน้าตัวเอง แล้วชักปืนแบบออโตเมติก สีดำ ไม่ทราบขนาด ออกมาจากเอว ส่องปากกระบอกปืนมาที่ตน แล้วพูดว่าเอาเงินมา ด้วยความตกใจตนจึงหยิบเงินให้ไป 1 ปึก เป็นเงินจำนวน 120,000 บาท ให้ไป คนร้ายบอกให้ส่งเงินมาอีกเอามาให้หมด เพราะเห็นลิ้นชักใส่เงินเปิดอ้าไว้ ตนจึงกวาดเงินในลิ้นชักส่งไปให้อีกจำนวนหนึ่ง รวมเงินที่คนร้ายได้ไปจำนวนทั้งหมด 130,180 บาท คนร้ายเอาเงินใส่กระเป๋าสะพายสีดำ พร้อมขยับตัวมานิดนึงหันปลายกระบอกปืนมาทางเคาน์เตอร์ที่ 6 ซึ่งอยู่ถัดไปอีกช่องมีนางสุภาพร ยีกา อายุ 40 ปี ตำแหน่งรองผู้จัดการบริการลูกค้าอยู่ประจำเคาน์เตอร์ โดยนางสุภาพรเห็นก็พูดว่า ตนเป็นรองผู้จัดการ ไม่ได้มีหน้าที่รับบริการลูกค้า จากนั้นคนร้ายจึงเดินเปิดประตูออกไปอย่างใจเย็น ขับขี่รถ จยย.ฮออด้า รุ่นเวฟ สีเขียว จำทะเบียนได้แค่ตัวเลข คือ 432 ที่จอดอยู่ด้านข้างธนาคารหลบหนีไปทางถนนร่มเกล้าขาออก มุ่งหน้าไปทางลาดกระบัง
น.ส.ปิยนุช ยังกล่าวอีกว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางวัน เป็นจังหวะที่พนักงานออกไปทานข้าวกัน ขณะนั้นมีพนักงานอยู่รวม 4 คน โดยมีลูกค้าเป็นผู้ชายคนเดียวที่มาขอแลกเงิน ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกไปรับประทานข้าวข้างนอก ให้แม่บ้านผู้หญิงมายืนเปิดประตูรับลูกค้าแทน รปภ.ก่อนคนร้ายจะลงมือก่อเหตุตนสังเกตเห็นว่าได้มาทำที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่หน้าธนาคารเหมือนดูลาดเลา เมื่อสบโอกาสภายในธนาคารไม่มีลูกค้าคนอื่น จึงบุกเดี่ยวเข้ามาใช้อาวุธปืนชิงเงินไปได้
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ขู่บังคับ น.ส.ปิยนุช ส่งมอบทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 130,180 บาท แล้วใช้รถ จยย.เป็นพาหนะหลบหนีไป โดยคนร้ายอาศัยช่วงจังหวะโอกาสที่พนักงานธนาคารอยู่น้อย และลูกค้าก็มีน้อย เพราะเป็นช่วงเวลาพักเที่ยง รปภ.ไปรับประทานข้าว ทำที่มายืนโทรศัพท์ดูลาดเลาแล้วลงมือก่อเหตุอย่างง่ายได้ ซึ่งธนาคารที่เกิดเหตุนี้เพิ่งเปิดทำการเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ระบบการรักษาความปลอดภัยยังไม่เข้าที่ ซึ่งการสืบสวนจับกุมคนร้ายคงจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ แล้วตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง และเส้นทางการหลบหนี เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.มานิตย์ กล่าวว่า ในฐานะที่ดูแลด้านการป้องกันและปราบปราม ได้มีการประชุมชี้แจงมาตรการป้องกันตามร้านทองและธนาคารกับทุก สน.มาตลอดอยู่แล้ว จากกรณีนี้ก็ต้องตรวจสอบยังตำรวจท้องที่ว่าดูแลพื้นที่ดี หรือยังมีการมาตรวจตราและเซ็นชื่อทุกวันหรือไม่ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเกิดเหตุมา 3 ราย ที่โลตัสสาขาบางพลัด ใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนสามารถจับคนร้ายได้ และวันก่อนสาขาจรัญสนิทวงศ์ 11 ล่าสุดวันนี้ที่ร่มเกล้า ซึ่งสองเคสหลังกระชั้นชิด แต่จะเป็นคนร้ายลงมือก่อเหตุคนเดียวกันหรือไม่นั้น ต้องนำแผนประทุษกรรมคนร้ายมาตรวจสอบ ดูตำหนิรูปพรรณสัณฐานเปรียบเทียบเสียก่อน ส่วนที่ว่าคนภายในจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่นั้น จะต้องทำการสอบสวนต่อไปยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ดูจากการลงมือก่อเหตุเชื่อว่าคนร้ายมืออาชีพใช้เวลาเพียง 25 วินาทีมีความคล่องแคล่ว หลังจากนี้จะขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ จึงจะมีความคืบหน้า
