เลขาฯ สมช.เผยผลเจรจาสันติภาพบีอาร์เอ็นเรียบร้อย ส่งสัญญาณลดก่อเหตุช่วงรอมฎอน รอส่งมาตรการให้ทราบ แต่แทงกั๊ก 5 ข้อเสนอ ยังไม่ได้คำตอบ อ้างกำลังศึกษาอยู่ ยันถ้าเหลิมทำเองไม่เป็นปัญหา
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังการเจรจาเพื่อสันติภาพกับตัวแทนกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น รอบที่สาม เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาว่า ผลการพูดคุยที่ประเทศมาเลเซียเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีการประสานความร่วมมือทั้งฝ่ายไทย ฝ่ายขบวนการ และฝ่ายมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี โดยประเด็นหลักที่ได้รับคำตอบมีความก้าวหน้าที่เป็นไปในเชิงรูปธรรม ประเด็นแรกคือ ตามข้อเรียกร้องของฝ่ายขบวนการ 5 ข้อ ฝ่ายไทยมีพัฒนาการที่จะดำเนินการต่างๆ จากการเปิดเวทีต่างๆ พอสมควรว่า คำตอบที่ได้รับยังมีความหลากหลาย ปัญหาหนึ่งจากคำตอบที่หลากหลายเพราะว่าความไม่เข้าใจในเนื้อหา ภาษา ที่มีการสื่อสารกัน ซึ่งฝ่ายขบวนการจึงรับปากว่าจะนำรายละเอียดทั้ง 5 ข้อ มาชี้แจงอีกครั้งโดยจะส่งผ่านให้ฝ่ายไทยก่อนที่จะถึงเดือนรอมฎอน เพื่อที่ฝ่ายไทยจะรับเนื้อหามาพิจารณาและไปดำเนินการในกระบวนการของเราต่อไป
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ประเด็นที่สอง เป็นสัญญาที่กลับมาที่หัวข้อหลักคือ เรื่องการลดเหตุความรุนแรง ซึ่งกำลังจะเข้าเดือนรอมฎอนในเดือน ก.ค.และมีการส่งสัญญาณซึ่งกันและกันว่าเป็นเดือนอันประเสริฐ เป็นเดือนที่จะต้องเป็นบุญ เป็นการเมตตา และเป็นการให้อภัยของศาสนาอิสลาม จึงตกลงเห็นพ้องต้องกันว่าจะแสดงออกซึ่งกันได้ โดยฝ่ายขบวนการจะส่งมาตรการต่างๆ มาให้เรารับทราบก่อนที่จะถึงเดือนรอมฎอน ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยจะมีมาตรการต่างๆ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนเรื่องมาตรการปิดล้อมตรวจค้นจะละเว้น แต่ขณะเดียวกันในการรักษาความปลอดภัยต่อเป้าหมายอ่อนแอ สถานที่ราชการ และสถานที่ปลอดภัยต่างๆ จะยังคงดำเนินการอยู่
“เป็นการเห็นพ้องต้องกันของทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ชาวบ้านในพื้นที่เชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ประมาท เพราะว่ายังมีปัจจัยภัยแทรกซ้อน ที่อาจจะเข้ามาผสมผสานอยู่ได้ ซึ่งได้ฝ่ายกระบวนการและฝ่ายไทยร่วมมือกันก็จะทำให้รู้สาเหตุข้อเท็จจริงได้ว่าปัญหาเกิดจากฝ่ายใด” พล.ท.ภราดร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการแลกกันระหว่าง 5 ข้อเสนอ กับการลดเหตุความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอนใช่หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยน เพราะเป็นหัวข้อที่พูดกันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องการลดเหตุความรุนแรง ต้องให้เห็นพัฒนาการให้เป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้กลุ่มก่อเหตุยังผสมปนเปกันอยู่ ดังนั้น จึงถือเอาเดือนรอมฎอนมาเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อแสดงความจริงใจออกมาซึ่งกันและกัน และทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร ส่วน 5 ข้อเสนอ เป็นข้อเสนอที่เรารับมาดำเนินการเพราะอ้างว่าเป็นข้อเสนอของประชาชน
เมื่อถามว่า การรับมาดำเนินการหมายถึงนำมาดำเนินการทั้ง 5 ข้อใช่หรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คำตอบ เพราะยังมีความหลากหลายอยู่ เนื่องจากยังไม่มีความไม่เข้าใจในเนื้อหาที่สื่อสารมา ตัวแทนบีอาร์เอ็นเลยรับปากว่าจะอธิบายอย่างละเอียดใน 5 ข้อ ว่าเป็นอย่างไร ดังนั้น เราจะต้องนำกลับมารับฟังและดำเนินการพิสูจน์ทราบต่อไป เมื่อถามว่า มีการยื่นเส้นตายหรือไม่ว่าเราต้องรับข้อเสนอเมื่อไร พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ไม่ได้กำหนด แต่เขาจะรีบยื่นรายละเอียดให้เราก่อนเดือนรอมฎอน
“ข้อเสนอ 5 ข้อ ที่เขาเสนอมาเรายังไม่ได้บอกว่าเป็นไปได้ แต่บอกว่าเรากำลังศึกษาอยู่ เพราะยังมีความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งเขาก็ไม่ติดใจอะไร และจะอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนในความหมายแต่ละข้อว่าเป็นอย่างไร” พล.ท.ภราดร กล่าว
เมื่อถามว่า หากในช่วงเดือนรอมฎอนเหตุการณ์รุนแรงยังไม่ลดลงจะทำอย่างไรต่อไป เลขาฯ สมช.กล่าวว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป จะรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรงเป็นกลุ่มใด ซึ่งจะเกิดความชัดเจน เมื่อถามว่า จะต้องถึงขนาดเปลี่ยนกลุ่มคุยหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ยังยืนยัน และเชื่อว่ากลุ่มที่พูดคุยอยู่ในขณะนี้จะสามารถสื่อสารและเชื้อเชิญจากหลายๆ กลุ่มเข้ามา เพราะหลังจากที่เพิ่งพูดคุยกันไปเขายังยืนยันมีขีดความสามารถ เมื่อถามว่า แสดงว่าในช่วงเดือนรอมฎอน หากเหตุการณ์ยังไม่ลดลงเราจะเดินหน้าพูดคุยต่อ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยต้องเดินหน้าต่อ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่จังหวะจะเร็วขึ้น หรือช้าลง หรือหยุดบ้าง
เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้เรามั่นใจว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะลดลงได้ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ดูจากข้อเท็จจริง คือ ภายในสองสัปดาห์ก่อนถึงช่วงเดือรอมฎอนเขาจะส่งแนวทางหรือมาตรการของเขาว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เราเห็น และเราจะดูตรงนั้น จากนั้นเราจะแจ้งไปว่าเราจะมามาตรการอย่างไร ที่จะทำให้ตรงนี้เป็นบรรยากาศที่ดี โดยจะมีการสื่อสารกันผ่านผู้อำนวยความสะดวก โดยกำหนดว่าจะต้องสื่อสารข้อมูลตรงนี้ก่อนถึงเดือนรอมฎอน
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต.ระบุว่า ถ้าการพูดคุยครั้งนี้ไม่มีความคืบหน้าจะลงไปคุยเอง เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา แต่คณะเจรจาจะเดินหน้าต่อไป โดยมีตนเป็นรับผิดชอบอยู่
เลขาฯ สมช.กล่าวว่า นอกจากนี้ ในการพูดคุยรอบที่สามที่ผ่านมามีประเด็นเพิ่มเติมเรื่องอำนวยความยุติธรรม โดยขณะนี้ฝ่ายเราจะกลับมาดำเนินการภายในสองสัปดาห์นี้ ซึ่งมีความชัดเจนขึ้นมาอีกระดับหนึ่งจากการพูดคุยครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และช่วงเวลาก่อนเดือนรอมฎอนจะมีข้อเสนอเรียกร้องเพื่อจะให้เกิดการดำเนินการที่ชัดเจนขึ้น ในเรื่องกลุ่มบุคคล กลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.จะเป็นผู้ดำเนินการ คือ สิ่งใดที่สามารถดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมได้ ที่จะถอนฟ้อง หรือสั่งไม่ฟ้องได้ ถ้าสืบสวนสอบสวนแล้วไม่ได้กระทำผิด
