ยะลา - “พล.ท.ภราดร” เลขา สมช. เผยข้อสรุปการพูดคุยสันติภาพบีอาร์เอ็น เห็นร่วมกันลดความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน ฝ่ายไทยลดการปิดล้อมตรวจค้น แต่ยังคง รปภ.ประชาชนเช่นเดิม เดือนรอมฎอนคือตัวชี้วัดว่าจะสามารถลดความรุนแรงได้หรือไม่
เวลา 21.30 น. คืนที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) (ตามเวลาในประเทศมาเลเซีย) ได้รับรายงานจากคณะผู้ติดตามการพูดคุยสันติภาพ จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (INTERCONTINENTAL) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. ได้เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มแกนนำบีอาร์เอ็น ว่า สำหรับในวันนี้บรรยากาศในการพูดคุยเป็นไปอย่างดีมาก ราบรื่น ได้รับความร่วมมือร่วมใจในการแก้ปัญหา สำหรับการพูดคุยวันนี้ ประเด็นหลักๆ คือเรื่องที่ทางบีอาร์เอ็น ร้องมา 5 ข้อ
ก็ได้ชี้แจงไปถึงการดำเนินการสืบสภาพข้อเท็จจริง แสวงหาคำตอบของ 5 ข้อนั้น และปัญหาที่ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะความชัดเจนของข้อเรียกร้องที่เป็นภาษาต่างๆ ยังไม่ชัดเจน ซึ่งทางขบวนการก็รับข้อนี้ไปเพื่อที่จะส่งรายละเอียดชี้แจงแถลงไขของเนื้อหา 5 ข้อ ให้มีความชัดเจนก่อนเดือนรอมฎอน มาให้คณะฝ่ายไทยเพื่อที่จะทำความเข้าใจ และแสวงหาคำตอบร่วมกันต่อไป
ส่วนประเด็นที่สองก็คือ เรื่องต้องลดเหตุความรุนแรง ก็เห็นพ้องต้องกันในเดือนรอมฎอน ที่จะลดเหตุความรุนแรง ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็จะกลับไปเตรียมมาตรการเพื่อมาเสนอร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรในช่วงเดือนรอมฎอน
“ขั้นตอนก็จะนำเข้ามาในคณะทำงาน แล้วส่งไปให้ ศอ.บต. ดำเนินการไปให้ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน เพื่อที่จะได้คำตอบมาในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาระยะหนึ่ง แต่ว่าในชั้นต้นจะรีบดำเนินการ เพราะว่าอย่างน้อยควรจะมีคำตอบในชั้นต้นซึ่งกันและกัน สำหรับเดือนรอมฎอน เป็นเดือนสำคัญ เป็นเดือนแห่งความประเสริฐ จึงเป็นคำตอบร่วมกันว่าในเดือนนี้ จะเป็นรูปธรรมในการลดเหตุความรุนแรง และได้มีการนัดพูดคุยอีกครั้งหลังเดือนรอมฎอน แต่ยังไม่กำหนดวันที่ชัดเจน ที่จะมีฝ่ายมาเลเซียเป็นผู้ประสานงาน ทั้งนี้ การพูดคุยในครั้งนี้เมื่อเทียบกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา ถือว่ามีความคืบหน้าสูง ตัวชี้วัดที่จะวัดว่าลดความรุนแรงก็คือเดือนรอมฎอน มาตรการทั้งสองฝ่ายที่เสนอมาว่า ฝ่ายเราจะลดการปฏิบัติการอย่างไร ฝ่ายขบวนการจะลดการปฏิบัติการอย่างไร แต่แน่นอนว่า มาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน ก็คงต้องมีอยู่ ซึ่งมาตรการฝ่ายเราท่านแม่ทัพภาค 4 มีแผนเตรียมเอาไว้แล้ว” เลขา สมช. กล่าว
พล.ท.ภราดร ยังกล่าวอีกว่า เป้าหมายของเดือนรอมฎอนก็คือ จะต้องไม่มีเหตุ แต่ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นก็จะต้องไปลงลึกว่า มูลเหตุจากเรื่องใด เพราะว่ามีการสื่อสารร่วมกันแล้วว่า จะลดเหตุรุนแรง ส่วนมาตรการฝ่ายเจ้าหน้าที่นั้น ในช่วงเดือนรอมฎอนก็คงจะต้องเพลาลง หรือหยุดลงไป แต่มาตรการในการรักษาความปลอดภัยพี่น้องประชาชน สถานที่ต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้หยุดไปทุกอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขา สมช. เสร็จสิ้นการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก็ได้นำแถลงการณ์ร่วมหลังจากการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น มาเปิดให้บรรดาสื่อมวลชนดู โดยมีเนื้อหาดังนี้
การประชุมหารือเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย คณะผู้เข้าร่วมฝ่ายไทย นำโดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประเทศไทย และฝ่ายบีอาร์เอ็น นำโดยอุสตาซฮาซัน ตอยิบ หัวหน้าสำนักงานประสานงานต่างประเทศของกลุ่มบีอาร์เอ็นในมาเลเซีย โดยมีดาโต๊ะ ซรี อาหมัด ซัมซามิน ฮาซิม ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการหารือ ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลมาเลเซีย
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงในหลักการเพื่อลดเหตุการณ์ความรุนแรงตลอดเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย ทั้งนี้ สอดคล้องกับคุณค่าอันประเสริฐของเดือนรอมฎอน และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ ความตั้งใจ และความเชื่อถือของทั้งสองฝ่าย ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายในการสร้างพื้นที่ให้ปลอดจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยตลอดเดือนรอมฎอน ทั้งสองฝ่ายจะได้นำเสนอรูปแบบ และวิธีการในเวลาอันใกล้นี้
ฝ่ายบีอาร์เอ็นจะส่งคำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอ 5 ข้อ ตามที่ได้มอบให้ฝ่ายไทยแล้ว หลังจากที่ได้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจากฝ่ายบีอาร์เอ็นแล้ว ฝ่ายไทยรับที่จะจัดเตรียมข้อมูลป้อนกลับเสนอไปยังฝ่ายบีอาร์เอ็น ผ่านผู้อำนวยความสะดวกในโอกาสแรกต่อไป
การประชุมหารือเพื่อสันติภาพครั้งนี้ ได้ดำเนินการท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นมิตร และได้ดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงถึงความรับผิดชอบร่วมกัน ที่มีต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ เพื่อความก้าวหน้าในอนาคต ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้มีการพูดคุยครั้งต่อไปหลังจากเดือนรอมฎอน
