สวนดุสิตโพลสำรวจความคิดเห็นการเสียชีวิตของ “เอกยุทธ อัญชันบุตร” ชี้อยากรู้สาเหตุ จี้ตำรวจแจงหลักฐานจริง แต่ไม่แน่ใจว่าปมการเมืองหรือฆ่าตกรรมธรรมดา เพราะควรรอตำรวจ ไม่ควรด่วนสรุป ส่วนความมั่นคงของรัฐบาล เชื่อไม่กระทบ เพราะหลักฐานไม่ชัด รัฐบาลมีเสียงข้างมาก
วันนี้ (14 มิ.ย.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,026 คน ระหว่างวันที่ 12-14 มิ.ย. 2556 กรณีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่ถูกคนขับรถฆ่าชิงทรัพย์เพื่อเอาเงิน 5 ล้านบาท และนำศพไปฝังที่ จ.พัทลุง ซึ่งคดีนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางว่าน่าจะมีเบื้องหลังที่โยงกับฝ่ายการเมือง เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวดังกล่าว
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดอย่างไรต่อกรณีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร พบว่าอันดับ 1 อยากรู้สาเหตุและข้อเท็จจริง/จนท.ตำรวจต้องชี้แจงข้อมูล หลักฐานที่เป็นจริง ร้อยละ 54.30 รองลงมา เป็นข่าวใหญ่ที่น่าสนใจ เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ร้อยละ 22.71 ส่วนอันดับ 3 อาจมีเบื้องหลังที่เชื่อมโยงกับการเมืองและข้าราชการระดับชั้นผู้ใหญ่ ร้อยละ 12.15 และอันดับ 4 รู้สึกสงสารผู้เสียชีวิตและเห็นใจคนในครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป ร้อยละ 10.84
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าคดีนี้เป็นการฆาตกรรมธรรมดา หรือมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง พบว่าอันดับ 1 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 44.69 เพราะควรรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลหลักฐานต่างๆให้เสร็จสิ้นก่อน ไม่ควรด่วนสรุปเร็วเกินไป ฯลฯ รองลงมา มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง ร้อยละ 42.04 เพราะนายเอกยุทธมีความเกี่ยวข้องและมีบทบาทสำคัญทางการเมืองหลายเรื่อง การเมืองไทยวันนี้รุนแรงมากขึ้น ฯลฯ และอันดับ 3 เป็นการฆาตกรรมธรรมดา ร้อยละ 13.27 เพราะจากคำให้การน่าจะมาจากเรื่องความโกรธแค้นส่วนตัวและหวังชิงทรัพย์มากกว่า เนื่องจากผู้ตายมีทรัพย์สินมาก ฯลฯ
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าผลจากคดีนี้จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของ “รัฐบาล” หรือไม่ พบว่า อันดับ 1 ไม่ส่งผลกระทบ ร้อยละ 41.23 เพราะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกนำมาเชื่อมโยงกับการเมือง ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน รัฐบาลยังคงมีเสียงข้างมาก ฯลฯ รองลงมา ไม่แน่ใจ ร้อยละ 34.47 เพราะยังไม่รู้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนพอ กระแสข่าวที่ออกมาเป็นเพียงความคิดเห็นของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเชื่อและวิจารณญาณของแต่ละคน ฯลฯ และอันดับ 3 ส่งผลกระทบ ร้อยละ 24.30 เพราะนายเอกยุทธเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล มีนักการเมืองและผู้ใหญ่ในบ้านเมืองถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง ฯลฯ
เมื่อถามว่า อุทาหรณ์หรือบทเรียนที่ได้จากคดีนี้ พบว่าอันดับ 1 อย่าไว้ใจหรือหลงเชื่อใครง่ายๆ ร้อยละ 52.04 รองลงมา ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติและต้องไม่ประมาท ร้อยละ 21.56 อันดับ 3 ทรัพย์สินเงินทองมีมากเพียงใดเมื่อตายไปก็เอาไปไม่ได้ ร้อยละ 15.11 และอันดับ 4 สังคมเปลี่ยนแปลงไปทำให้คุณธรรมจริยธรรม จิตสำนึกของคนลดลง ร้อยละ 11.29