xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง 6 ข้อหาหนักแก๊งอุ้มฆ่า “เอกยุทธ”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบช.น.แถลงข่าวจับกุม “เบิ้ม” ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม “เอกยุทธ” ซัดกลับ “บอล” เป็นคนบีบคอจนแน่นิ่งก่อนใช้ให้เอาเชือกรองเท้ารัดคอให้ตายชัวร์ ก่อนนำตัว “บอล” พร้อมพวกไปขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญา และนำตัว “ไอ้เบิ้ม” ไปชี้จุดฝังที่พัทลุงอีกครั้ง ด้าน ผบ.ตร.ยันไม่ได้รีบปิดคดี พร้อมเชิญ “หมอพรทิพย์” เข้าร่วมสางคดีให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม ก่อนที่ตำรวจจะแจ้ง 6 ข้อหาหนักต่อผู้ต้องหา

วันนี้ (14 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.น. และ พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.บก.น.4 แถลงการเข้ามอบตัวของนายสุทธิพงษ์ หรือเบิ้ม พิมพ์พิสาร อายุ 27 ปี พร้อมมารดา นางชลกร พิมพ์พิสาร หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์

พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวว่า นายสุทธิพงษ์พร้อมมารดาได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวพร้อมกับสารภาพว่าได้ร่วมกันกับนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง ตั้งแต่วันที่ (6 มิ.ย.) วันเกิดเหตุที่ผ่านมาบนรถตู้โฟล์คสวาเก้น สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งนายเอกยุทธเสียชีวิตแล้วนำศพไปฝังที่จังหวัดพัทลุงก่อนแยกย้ายกันหลบหนีไป

นายสุทธิพงษ์ให้การว่า ตนได้รับการติดต่อจากนายบอลก่อนเกิดเหตุล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ โดยนายบอลโทรศัพท์มาหาตนบอกว่ามีเรื่องให้ช่วย และได้นัดแนะตนให้มาหาที่ซอยประดิพัทธ์ 12 เกือบท้ายซอยช่วงค่ำวันที่ (6 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ตนไปไม่ถูกจึงนั่งจักรยานยนต์รับจ้างเข้าไป ซึ่งนายบอลเป็นคนคุยกับคนขับจักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อมาถึงบอลก็เป็นคนสั่งการทุกอย่าง ให้ขึ้นมาบนรถด้านหน้าเพื่อหลบซ่อนตัว จนกระทั่งถึงเวลาที่นายเอกยุทธขึ้นรถมา ตนยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเป็นใคร ขณะนั้นได้หมอบอยู่หน้ารถ ได้ยินเพียงนายเอกยุทธบอกให้ขับไปทางลาดพร้าว เมื่อมาถึงระหว่างซอยลาดพร้าว 3 และซอย 5 เป็นจุดจอดรับผู้โดยสารแท็กซี่มิเตอร์ติดกับป้ายรถเมล์ นายบอลได้หยุดรถแล้วหยิบปืนหันไปทางนายเอกยุทธแล้วบอกให้อยู่เฉยๆ แล้วกระโดดข้ามมาเบาะหลังเพื่อพูดคุยตกลงกับนายเอกยุทธ พร้อมสั่งให้ตนจับนายเอกยุทธใส่กุญแจมือ จากนั้นไปที่บ้านพักนายเอกยุทธรื้อค้นทรัพย์สินและถอดเครื่องเซิร์ฟเวอร์พร้อมนอนรอ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณตี 3 กว่า เพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจจึงค่อยขับรถไปยังบ้านพี่สาวนายบอลย่านหมู่บ้านราชพฤกษ์ ถนนฉลองกรุง เพื่อนำตัวไปกักขังไว้ก่อนรอจนเช้าวันที่ (7 มิ.ย.) จึงสั่งให้นายเอกยุทธเซ็นเช็คเงินสดให้ เมื่อได้เงินสดมาจำนวน 5 ล้านบาทในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ได้นำตัวนายเอกยุทธกลับมากักขังไว้ที่บ้านพักพี่สาวอีกครั้งก่อนจะรอให้ถึงเวลาประมาณตี 3 กว่า เพื่อออกเดินทางไปไหนตนก็ไม่ทราบ

จากนั้นเมื่อขับออกมาจากบ้านพักเป็นช่วงจุดกลับรถใต้สะพานข้ามคลองมะขาม ถนนฉลองกรุง นายบอลได้หันมาถามตนว่ากุญแจมือแน่นหรือเปล่า ตนก็บอกไปว่าแน่น แต่นายบอลได้หยุดรถเพื่อจะลงมาดูเองว่าใส่กุญแจดีหรือเปล่า เป็นช่วงที่นายเอกยุทธอาศัยจังหวะนั้นเปิดประตูท้ายรถวิ่งหนีข้ามไปอีกฝั่งซึ่งเป็นขอบสะพานสูงเกือบ 1 เมตร แล้วปืนสะพานกระโดดลงมาจนขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่นายบอลได้วิ่งตามมาแล้วเกิดอะไรขึ้นตนไม่เห็นเพราะนั่งอยู่ในรถ จนนายบอลกลับมาที่รถบอกให้ขับรถไปช่วยยกนายเอกยุทธขึ้นมาบนรถ เพราะลงมือบีบคอเสียชีิวิตแล้ว จนเมื่อขับรถมาจอดอีกครั้ง สิ่งที่ตนเห็นคือนายเอกยุทธได้นอนหงาย มือทั้งสองข้างยกไว้เหนือศีรษะ ปลายเท้าหันไปทางทุ่งนา ในสภาพลิ้นจุกปาก ลิ้นออกมาเกือบหมด แน่นิ่งเสียชีวิตไปแล้ว พร้อมกับนายบอลได้กระทืบไปที่หน้าอกอีก 2-3 ครั้งพร้อมกับพูดว่า “เห็นไหมเวลากูโมโหแค้นอารมณ์เป็นยังไง” แล้วก็ช่วยกันลากศพขึ้นมาบนรถ แล้วนายบอลขับรถออกมาสักระยะพร้อมสั่งว่าให้เอาเชือกมัดไว้ด้วย ตนบอกเขาตายแล้วจะต้องมัดทำไมอีก นายบอลก็ยังสั่งว่าให้หาอะไรมามัดเดี๋ยวนี้ ตนจึงเอาเชือกรองเท้ามามัดไว้ตามคำสั่ง สักพักนายบอลได้หยุดรถแล้วมาช่วยกันลากศพไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะขับลงมาทาง จ.นครศรีธรรมราชบ้านตน แล้วสั่งให้ไปนอนพักผ่อน

กระทั่งถึงเวลานัดหมายบอลได้ขับรถพามาจังหวัดพัทลุงมาพบอีก 2 คน ซึ่งไม่รู้จักมาก่อน คือ นายชวลิต และนายทิวากร ได้เตรียมจอบมา 2 อันมาช่วยกันขุดหลุม และช่วยกันยกร่างนายเอกยุทธมาฝัง ตนได้ช่วยกลบดิน เมื่อเสร็จสิ้นนายบอลได้ให้อาวุธปืน .380 กับนายชวลิต พร้อมเงินสด 30,000 บาท นายชวลิตแบ่งให้นายทิวากร 8,000 บาท ก่อนแยกย้ายหลบหนี ส่วนตนนั้นนายบอลพาไปเปิดโรงแรมนอนพักผ่อนจนเช้าวันรุ่งขึ้นได้ให้เงินมาจำนวน 1 แสนบาท พร้อมขับรถมาส่งที่แยกโพธิ์ทอง ตนได้ขึ้นรถทัวร์กลับมากรุงเทพฯ แล้วกบดานอยู่จนขอเข้ามอบตัว ที่ตนรับทำงานให้บอลเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนช่างกลด้วยกันที่จังหวัดพัทลุง โดยไม่รู้จักกับนายเอกยุทธมาก่อน และไม่รู้ด้วยว่านายบอลจะให้ไปช่วยเรื่องอะไรหรือฆ่าใคร ได้ทำตามคำสั่งเท่านั้น

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว่า จากการตรวจสอบประวัตินายบอล นอกจากมีเคยมีคดีเกี่ยวกับทรัพย์ติดตัว ยังเป็นคนที่ในพื้นที่รู้จักในฉายา “บอลนูโว พัทลุง” หรือบอล โซนิค ที่นายเอกยุทธรับมาทำงานด้วยเพราะเห็นว่าเป็นคนใจถึง ครั้งแรกรับมาเป็น รปภ.ก่อน จากนั้นให้เป็นคนขับรถคอยติดตาม ส่วนการสอบปากคำอีกครั้งมูลเหตุจูงใจการสังหารครั้งนี้ นอกจากนายบอลต้องการเงิน 5 ล้านบาทแล้วยังมีความโกรธแค้นนายเอกยุทธส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจไม่ได้เร่งปิดคดี แต่ทำงานอย่างบูรณาการและคดีนี้ยังไม่จบ ก็ยังจะหาพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เพื่อให้สามารถตอบคำถามสังคมได้ และจะทำหนังสือเชิญแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม มาร่วมตรวจสอบในคดีเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และพร้อมเปิดรับข้อมูลทุกด้าน โดยหลังจากนี้ตำรวจจะนำตัวนายสุทธิพงศ์ขึ้นเครื่องไปชี้จุดก่อเหตุที่จังหวัดพัทลุง ก่อนนำตัวกลับมาฝากขังศาลอาญา รัชดาภิเษก ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (15 มิ.ย.)

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายสุทธิพงษ์ว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด และให้ทำเอกสารสิทธิ, ร่วมกันมีและพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝัง ปิดบัง ซ่อนเร้นศพ เพื่อปิดบังการตาย









จำลองเหตุการณ์นาทีสังหารเอกยุทธ อัญชันบุตร
จำลองเหตุการณ์นาทีสังหารเอกยุทธ อัญชันบุตร
จำลองเหตุการณ์นาทีสังหารเอกยุทธ อัญชันบุตร
กำลังโหลดความคิดเห็น