ปธ.โอลิมปิกไทยเข้าพบนายกฯ รับโอวาทก่อนไปแข่งเอเชียนอินดอร์-มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 นักข่าวกระเซ้า “ยุทธศักดิ์” คัมแบ็ก “ยิ่งลักษณ์” ทำยิ้ม บอกอ๋อเหรอคะ ไม่พูดปรับครม. รอ “วราเทพ” รวมจำนำข้าว แย้มโยกเก้าอี้เมื่อไหร่จะแจ้ง ไม่ตอบ “บุญทรง” อยู่ต่อหรือไม่
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการโอลิมปิกจำนวน 177 คน เข้ารับโอวาทจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก่อนการเดินทางไปแข่งขันกีฬา 4th Asian Indoor & Martial Arts Games 2013 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยระหว่างเดินเข้าตึกสันติไมตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพล.อ.ยุทธศักดิ์ได้เดินมาพร้อมกัน ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์จะกลับมาเป็นรองนายกฯ อีกหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยิ้มให้พร้อมกับกล่าวว่า “อ๋อ เหรอคะ” ทั้งนี้ หลังนายกฯ มอบโอวาท คณะนักกีฬาเสร็จสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์และพล.อ.ยุทธศักดิ์ได้เดินมาพร้อมกัน โดยผู้สื่อข่าวอีกว่าคนข้างๆ จะกลับมาเป็นรองนายกฯ และข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีจริงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “นั่นน่ะสิคะ ยังไงก็คงขอทำงานก่อน และถ้ามีความเหมาะสมเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากปัญหาโครงการรับจำนำข้าว คิดว่าถึงเวลาที่จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า รอให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้รวบรวมข้อมูลก่อน เมื่อถามว่า จะใช้หลักเกณฑ์อะไรในการปรับ ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ดูเกณฑ์ความเหมาะสมและดูความเชื่อมโยงการทำงานต่อด้วย และหลายๆ อย่าง ถ้าจะมีปรับเมื่อไหร่จะแจ้ง เมื่อถามว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ยังเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบประเด็นนี้
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวให้โอวาทแก่นักกีฬาว่า ขอแสดงความยินดีแก่นักกีฬาไทยทุกคนที่สามารถผ่านการคัดเลือกและเป็นตัวแทนประเทศไทยในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.-6 ก.ค. ถือว่าเป็นความสำเร็จของนักกีฬาทุกท่านซึ่งเกิดจากความเพียรพยายามในการมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อม และผู้ฝึกก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งกีฬาเป็นสื่อกลางที่สำคัญที่จะมาช่วยเสริมสร้าง ความสามัคคี ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคม การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ฝึกให้มีระเบียบมีวินัย การเคารพกติกาการแข่งขัน สำหรับกีฬาไทยจะไม่พัฒนาหากไม่ได้รับความมือ ทั้งนี้ยังมีหลายมิติของกีฬาที่จะร่วมกันพัฒนา โดยรัฐบาลมีนโยบายที่จะเสริมสร้างไม่ว่าจะเป็นการจัดโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอ อุปกรณ์ สถานที่ การจัดสรรงบประมาณในการพัฒนานักกีฬา ผู้ฝึกสอนให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ก็เชื่อว่าหากมีโครงสร้างที่เข้มแข็ง ตั้งเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน มีอุปกรณ์ และการร่วมมือจากทุกภาคส่วน ก็จะเชื่อว่ากลไกนี้จะเป็นกลไกที่สำคัญที่จะทำให้การขับเคลื่อนกีฬาก้าวไปสู่ในสิ่งทีดีขึ้น