นายกฯ เปิดไทยคู่ฟ้า รับเลขาฯ องค์การแอมเนสตี้เข้าคาราวะ พร้อมถกปมสิทธิมนุษยชน ขอไทยเป็นผู้นำอาเซียน ปกป้องสิทธิมนุษยชน ชมเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนี้ หนุนถอดตรวนนักโทษ แก้ กม.เลิกประหาร กังวลผู้หญิง เด็กเป็นเหยื่อไฟใต้ และการใช้ กม.ในพื้นที่ จี้ รบ.ให้สัตยาบันอย่าบังคับบุคคลให้สูญหาย เลิกจำกัดเสรีภาพแสดงออก ปชช. ยึดกติการะหว่างประเทศ ปล่อยนักโทษทางความคิด
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายซาลิล เช็ตติ เลขาธิการองค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล และคณะเข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย พร้อมมอบรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนประจำปี 2556 ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ต่อนายกรัฐมนตรี โดยนายซาลิลเปิดเผยภายหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรีว่า การหารือวันนี้แอมเนสตี้ฯ ได้ขอให้ไทยเป็นผู้นำในการผลักดันให้อาเซียนมีการทำงานด้านการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนมากขึ้น ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ แอมเนสตี้ฯ ยังสนับสนุนเรื่องการถอดตรวนผู้ต้องขัง และเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศพักการประหารชีวิตอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเสนอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อลดจำนวนความผิดทางอาญาที่มีบทลงโทษประหารชีวิต
เลขาธิการองค์การแอมเนสตี้ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยนั้น ทางแอมเนสตี้ฯมีความกังวลที่พลเรือนและผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งผู้หญิงและเด็กตกเป็นเหยื่อความรุนแรง รวมทั้งการใช้กฎหมายพิเศษ เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก หรือเรื่องการพ้นผิดของเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง การซ้อมทรมาน และเรียกร้องให้รัฐบาลให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ปฎิรูปหรือยกเลิกการออกกฎหมายที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน โดยยึดหลักมาตรฐานสากลและกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้ พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางความคิดทุกคนโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้ยังได้มีการหารือถึงการเปิดสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทย เพื่อยกระดับการทำงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
