ปลุก “ข้าราชการ” ลุกขึ้นสู้ อำนาจเผด็จการซ่อนรูป!?

รายงานการเมือง

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ให้ “ถวิล เปลี่ยนศรี” ระบุว่าการรับโอนตำแหน่งของนายถวิลไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเร่งรีบรับโอนตำแหน่งของนายถวิล ก่อนที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล สมช.จะอนุมัติการแต่งตั้งโยกย้าย

ส่วนที่นายกฯอ้างว่า เป็นการโยกย้ายมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานนั้น ขัดกับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตำแหน่งเลขาฯ สมช. มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบมากกว่า และสามารถเป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่งอยู่แล้ว พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้นายถวิล กลับไปดำรงตำแหน่งเดิมโดยเร็ว

เป็นข่าวล่ามาแรงแซงทุกโค้ง อำนาจตุลาการตีแสกหน้าอำนาจฝ่ายบริหารอีกครั้ง ถือเป็นการยืนหยัดต่อสู้ที่ยาวนานของ ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช. ไม่ยอมก้มหัวให้อำนาจฝ่ายบริหารโดยละม่อม

ใครจะมองเป็นก้างขวางคอ เสี้ยนตำเท้าอย่างไรไม่สน ขออดทนต่อสู้พิสูจน์ความจริง วันนี้ก็เห็นผลกันในระดับหนึ่ง แม้กระบวนการจะยังไม่จบ ฝ่ายรัฐบาลยังสามารถอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอีกได้ก็ตาม

ถวิล เปลี่ยนศรี ออกตัวว่าวันนี้ยังดีใจแค่ครึ่งเดียว เพราะเพื่อนข้าราชการหลายรายเคยตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน หลายคนก็ก้มหน้าก้มตายอมรับกับอำนาจที่ล่วงล้ำเข้ามากลั่นแกล้งอย่างไร้เหตุผล

พร้อมเตือนนิ่มๆ แต่แสบไปถึงทรวง ฝากให้ผู้ที่มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายว่าระบบที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในธรรมาภิบาลจะทำให้ข้าราชการที่ดีไม่ได้รับความเป็นธรรม

งานเข้ารัฐบาลอีกรอบ การตัดสินที่ออกมานี้ ทำให้รัฐบาลสะอึก กำลังผิดอ่านหาแผนการขั้นต่อไป แน่นอนว่าแนวโน้มจะต้องยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดแน่นอน

ขืนคืนตำแหน่งให้ง่ายๆ โดยไม่ยอมสู้ต่อ ก็เสียเหลี่ยม ขายขี้หน้าประชาชี

แว่วเสียงฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยอย่าง พิชิต ชื่นบาน ทนายถุงขนม บอกให้นายกฯ ลุยอุทธรณ์ในเชิงบริหารอ้างเปลี่ยนตัวถวิลออก เพื่อให้ ภราดร พัฒนถาบุตร เสียบแทนตำแหน่งเลขาฯ สมช. เพื่อความเหมาะสมเชิงบริหาร โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมจวกศาลปกครองกลางแบบห่ามห้าวว่าคำตัดสินอาจเป็นปัญหาต่อการบริหารราชการแผ่นดิน!!

ทนายหน้าหอ ลิ่วล้อจอมสอพลอต่างๆ ออกมายุยงส่งเสริม “ปูกรรเชียง” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังสมองกลวงไม่รู้จะเอาอย่างไร ให้เดินหน้าอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดแบบสุดซอย

เพราะตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไร คนที่จะต้องรับหน้าเสื่อเรื่องนี้ไปเต็มๆ ก็คือนายกฯนั่นแหละ ดังนั้นอาจต้องกลับไปคิดทบทวนจนหัวหมุน ว่าจะเสี่ยงลุยต่อหรือขอผ่าน!!

เรื่องราวที่เกิดขึ้น เหมือนติดดิสก์เบรกรัฐบาลจนหัวทิ่ม หน้าแหกแตกเป็นริ้ว เพราะระยะหลังทำเหมือนตำแหน่งแห่งหนทั้งข้าราชการการเมือง ข้าราชการเป็นของเล่น เห็นคนเป็นตุ๊กตาจะหยิบจับวางตรงไหนก็ได้

ที่ผ่านมาก็ย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ออกไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไหนจะย้ายคุณหญิงหมอ พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ออกจากนักสืบศพ ไปตบยุงเป็นผู้ตรวจ สร้างความชอกช้ำระกำใจ และเสียขวัญไปตามๆ กัน

ไม่นับพวกที่มีอยู่ในลิสต์รายชื่อหลังจากนี้ อาจเตรียมไว้ยาวเป็นหางว่าว เพื่อเตรียมพร้อมการโยกย้ายประจำปีที่จะเกิดขึ้น เมื่อเห็นว่าย้ายใครก็ได้ก็ทำกันระเบิดเถิดเทิงไป

มีข่าวว่าจะปรับแบบบิ๊กล็อต ล้างบางกันในปีนี้ เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์ที่พลิกผัน กลิ่นไม่ค่อยดี รัฐบาลอาจอยู่ไม่ยาว ปีนี้อาจต้องม้วนเสื่อ ดังนั้นต้องเตรียมทุกสรรพกำลังให้พร้อมกับการเลือกตั้งใหม่ นอกจากการปรับ ครม. ปรับตำแหน่งเลขา ที่ปรึกษารัฐมนตรี ตำแหน่งประจำสำนักนายกฯ ต่างก็ต้องจัดระเบียบข้าราชการที่เป็นมือเป็นไม้ด้วย

ปฏิบัติการที่เหมือนตีตลบหลังของศาลปกครองกลาง ทำเอารัฐบาลสะอึก

จะปรับย้ายอะไรต่อไปจะถูกสังคมจับจ้อง และอาจมีเหตุการณ์ร้องเรียนอย่าง ถวิล เปลี่ยนศรี ตามมามากขึ้นเรื่อยๆ การที่คิดไว้ว่าจะสะดวกโยธิน อาจไม่ง่ายอย่างนั้น อาจเห็นปรากฏการณ์ข้าราชการระดับสูงลุกฮือต่อต้านอำนาจโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม

รัฐบาลที่นำโดยยิ่งลักษณ์ภาพเปลือกนอกอาจดูดี ประชาชนหลงใหลชื่นชม ด้วยภาพลักษณ์บุคลิกนายกฯเป็นสำคัญ แต่แท้จริงแล้วภายในดุร้าย อำมหิต เหมือนเผด็จการซ่อนรูป

ภายใต้หน้ากากเปื้อนยิ้มของยิ่งลักษณ์ ใช้หน้าสวยๆ ยิ้มใสๆ ออกสื่อ แต่ข้างหลัง สมุน ลิ่วล้อ ถือมีดไล่แทงคนอื่นแทบทุกวงการ โดยมีนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี เป็นจอมบงการ และนายกฯยักคิ้วหลิ่วตาให้ท้าย มันเลยทำกันเป็นขบวนการเรื่อยมาอย่างย่ามใจ

วันนี้เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ถูกครหานินทาว่ามีเต็มบ้านเต็มเมือง การชักหัวคิวกินเปอร์เซ็นต์ กลายเป็นเรื่องปกติของวงการนักธุรกิจ ใครไม่จ่ายไม่ได้งาน ต้องจ่ายช่องทางไหน จ่ายใคร รู้กันหมดทำเป็นธรรมเนียม กลายเป็นเรื่องธรรมดา ใครไม่จ่ายไม่ได้งานซ้ำยังถูกรังควาน เป็นวงจรอุบาทว์ทางการเมืองที่แก้ไม่หาย

ระบบข้าราชการไทยจากเดิมที่ง่อนแง่น ปากบอกว่าจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น จะทำให้ข้าราชการเป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ถรุย... สิ่งที่เห็นและเป็นไปวันนี้คือข้าราชการทำงานให้ประชาชนดีหรือไม่อย่างไรไม่รู้

รู้แต่เพียงว่าต้องสนองตอบการเมือง ต้องทำงานภายใต้คำสั่งรัฐบาล โดยไม่หือไม่อือ ผิดจากนี้มีหวังถูกเตะโด่งกระเด็นไปง่ายๆ

ระบบราชการไทยถูกทำลายสิ้นเชิง ประเทศยิ่งอ่อนแอ ง่อยเปลี้ยเสียขา ข้าราชการขวัญสลายกันไปหมดแล้ว โยกย้ายกันแบบไม่คำนึงถึงเนื้องาน ความสามารถ เอาความพึงพอใจของฝ่ายการเมืองเป็นที่ตั้ง เอาตำรวจไปนั่งบริหารงานกระทรวงคมนาคม คนเขารู้กันทั่วว่าไม่ได้ให้ไปทำงาน แต่ให้ไปบริโภคตามน้ำก่อนเกษียณอายุราชการ ฐานเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ใครเป็นเด็กดื้อก็จะโดนอย่างถวิล เปลี่ยนศรี

ฤๅวัฏจักรของการเป็นข้าราชการมันต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสันดานนักการเมือง น่าสงสารอนาคตประเทศไทยจริง

อย่างน้อยๆ การที่ ถวิล เปลี่ยนศรี ลุกขึ้นสู้ จนเกิดความหวัง ที่จะต่อต้านอำนาจที่ไม่ชอบธรรมได้ มันก็จุดประกายให้ใครหลายคนในสังคม อยากลุกขึ้นสู้ทวงถามความยุติธรรมให้ตัวเอง และประเทศไทยได้เหมือนกัน!!