xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ห่วงแก๊งแดงชนหน้ากากขาว จี้ “ปู” ปรามสาวกหยุดเผชิญหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้นำฝ่ายค้านตีกัน “นายกฯ ปู” อย่ายื้อคืนเก้าอี้ “ถวิล” จนเกษียณ ชี้ทุกฝ่ายใช้สิทธิได้ตามกฎหมาย บอกไม่แปลกใจข้าวเขมรทะลักเข้าไทย เหตุรัฐบาลบิดเบือนกลไกตลาด พร้อมแนะเบรกไซด์เทรดโซน หวั่นความเสียหายสะสมเพิ่มขึ้น รับห่วงเสื้อแดงชนหน้ากากขาว เรียกร้อง “ยิ่งลักษณ์” ปรามสาวกตัวเอง แขวะกล่าวสุนทรพจน์สภาศรีลังกา อ้างมีปฏิกิริยาต่อต้าน ปชต. เหมือนเป็นการประจานตัวเองไม่เป็น ปชต.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะยื่นอุทธรณ์ กรณีศาลปกครองกลางสั่งให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ว่าเป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่หากนายกฯพิจารณาคืนตำแหน่งให้จะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นคนมีความรู้เติบโตมากับ สมช. การทำงานจะได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะปัญหาชายแดนภาคใต้

ส่วน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.ปัจจุบัน ควรต้องพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ แต่ไม่ควรใช้คำว่าจะอุทธรณ์เพื่อยื้อเวลาให้นายถวิลเกษียณอายุราชการ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยกระบวนการทางกฎหมายเปิดโอกาสให้อุทธรณ์ได้อยู่แล้ว จึงอยากให้นายกฯพิจารณาให้นายถวิล ที่ตั้งใจทำงานให้ประเทศ และมีประสบการณ์ หากมีการยื่นอุทธรณ์ นายถวิลก็สามารถใช้สิทธิ์ที่จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เหมือนที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทั้งนี้อยากฝากข้าราชการว่าให้ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา อย่าเกรงกลัว เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่สื่อพนมเปญโพสต์ รายงานยอดส่งออกข้าวกัมพูชามาไทยว่ามีจำนวนมากจากอานิสงส์โครงการรับจำนำข้าวว่า ไม่รู้สึกผิดปกติเพราะมีการคาดการณ์อยู่แล้วว่าหากรัฐบาลใช้นโยบายจำนำข้าว โดยรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาดก็จะดึงข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในไทย ทั้งเอาเข้ามาเพื่อหาประโยชน์จากโครงการ หรือผู้ค้าอยากได้ราคาที่ถูกกว่า ตนเคยเตือนรัฐบาลแล้วว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลบิดเบือนกลไกตลาด

นอกจากนี้ อยากให้กระทรวงพาณิชย์ทบทวนนโยบายไรซ์เทรดโซน ที่จะซื้อข้าวสารจากกัมพูชามาแปรสภาพเป็นข้าวเปลือกเพื่อทำตลาด เพราะเป็นห่วงว่าในการอภิปรายที่ผ่านมา ส.ส.ของรัฐบาลภูมิใจกับการที่ประเทศไทยมีข้าวไว้เก็บ ทั้งที่เราเคยขายข้าวมีรายได้เข้าสู่ประเทศ แต่ตอนนี้กลับไปนำข้าวของประเทศอื่นมาขายแทน ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางได้รายได้เข้าสู่ประเทศเท่ากับขายข้าวไทย และยังเป็นนโยบายที่สวนทางกัน เพราะในขณะที่ไปซื้อข้าวประเทศอื่นมาทำตลาด สภาพข้าวในประเทศไทยกลับล้นสต็อกและขายไม่ออก เพราะกลไกบิดเบี้ยวไปหมด

“ขณะนี้เราเสียเงินไปร้อยบาท ถึงมือชาวนาเพียงแค่ 40-50 บาท ทั้งที่มีวิธีที่ดีกว่านี้ แต่ถ้ายังเดินนโยบายแบบนี้ต่อไป ความเสียหายจะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งประเทศไทยจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะสุดท้ายความเดือดร้อนจะย้อนกลับมาที่เกษตรกร เพราะหากขาวข้าวไม่ได้ก็กระทบกับราคาตามมา”

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากวี ที่เคลี่อนขบวนย่านเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อประท้วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยประเมินว่าเป็นเรื่องของคนหน้าเดิมที่จ้องล้มรัฐบาล แต่อยากให้ดูว่าการเรียกร้องเกิดขึ้นจากอะไร เพราะถ้ารัฐบาลไม่ยุ่งที่เป็นปัญหากับบ้านเมือง ประเทศจะสงบ รัฐบาลจะมีเวลาในการแก้ปัญหาประเทศ แต่เมื่อนำเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การนิรโทษกรรมขึ้นมา ก็เกิดความตึงเครียดขึ้น จนเดินผลเสียกับประเทศ และห่วงการเคลื่อนไหวเพราะมีคนบางกลุ่มไปเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมซ้อนกับกลุ่มอื่น โดยไม่ยึดตามกรอบกฎหมาย จึงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการกระทบกระทั่งหรือการปะทะกัน จึงเรียกร้องรัฐบาลให้มีจุดยืนที่ชัดเจน เช่น ในเวทีผ่าความจริงฯ ก็จะมีการรบกวนตลอดเวลา โดยนายกฯ ไม่เคยปรามผู้สนับสนุนของตัวเอง ทั้งที่คนกลุ่มนี้ไม่ได้แสงดออกในเชิงสัญลักษณ์ แต่ทำผิดกฎหมาย เช่น ปิดถนน คุกคาม ละเมิดสิทธิผู้อื่นด้วยการค้นรถ รัฐบาลต้องจริงจังในการปฏิบัติตามกฎหมายโดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นฝ่ายไหน

ส่วนที่นายกฯ ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาของศรีลังกาว่ามีกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย และเรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาจับตาประชาธิปไตยในไทยนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นวิธีการเดิมๆ ซึ่งนับวันพฤติกรรมในประเทศก็ฟ้องตัวเองมากกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากมีคนไปขัดขวางก่อกวนคุกคามการมใช้สิทธิ์ของคนอื่น


กำลังโหลดความคิดเห็น