ASTVผู้จัดการรายวัน- “เหลิม”ย้ำฝ่ายการเมืองสั่งโยกย้ายข้าราชการเป็นเรื่องปกติ ย้อนที "มาร์ค" สั่งย้าย "สุรพล-ภราดร" ไม่เห็นมีใครออกมาโวย ส่วนจะอุทธรณ์หรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ อัดปชป.เลิกจุ้น เพราะมีส่วนได้เสีย ด้าน"มาร์ค" เตือน “ปู”เร่งคืนตำแหน่งให้ “ถวิล”อย่าคิดยื้อเวลารอเกษียณ ชี้ทุกฝ่ายใช้สิทธิ์ได้ตามกฎหมาย แนะขรก.ทำงานตรงไปตรงมา เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ว่า ไม่เข้าใจว่าสื่อมองเรื่องนี้อย่างไร ทำไมจึงให้ความสนใจนัก ทั้งที่เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ไม่ว่าประเทศไหนในโลกไม่มีใครใช้หน่วยข่าวของอีกรัฐบาลหรอก ซึ่งกรณีนี้ก็ชัดเจนว่า นายถวิล อยู่รัฐบาลไหน และที่ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีการโยกย้ายพล.อ.สุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาฯ สมช. และ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.คนปัจจุบัน ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ก็ต้องถามว่าทำไม 2 คนนี้จึงยอมรับสภาพ ก็เพราะเขารู้ว่าคนละขั้วกับรัฐบาล และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ยังย้ายนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดมหาดไทยไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ หรือแม้กระทั่งการสั่งย้ายนายพงษ์ศักดิ์ เสมสันต์ ปลัดกทม.ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯเช่นกัน ก็ต้องถามอีกว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์ ทำได้
รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นอะไรเลย ไม่เห็นจำเป็นที่สื่อต้องเสนอข่าว เมื่อศาลปกครองกลาง มีคำสั่งออกมาอย่างนี้ สำนักปลัดสำนักนายกฯ ก็หารือร่วมกับอัยการ จะอุทธรณ์หรือไม่อยู่ที่นายกฯ จะตัดสินใจ ส่วนนายถวิล จะดำเนินการอย่างไรต่อ ก็เป็นสิทธิ แต่อยากจะบอกว่า อย่ามากดดันรัฐบาลด้วยเรื่องนี้ มันไร้ประโยชน์
ผู้สื่อข่าวถามว่าตกลงรัฐบาลจะอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ถ้าตนมีอำนาจ ตนก็จะอุทธรณ์ตามสิทธิ
** อัดปชป.เลิกจุ้นเพราะมีส่วนได้เสีย
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่อยู่ในฐานะที่จะกดดันนายกรัฐมนตรี เรื่องว่าอุทธรณ์หรือไม่อุทธรณ์ เพราะต้องถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยโยกย้าย พล.ท.ภราดร จาก รองเลขาฯสมช ไปอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งเป็นการเด้งเข้ากรุเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ทราบว่า เป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ เห็นว่า พล.ท.ภราดร มีนามสกุลเดียวกับนายปรีดา พัฒนถาบุตร ซึ่งเป็นบุคคลที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เคยทำหน้าที่ตำรวจติดตาม ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลที่ไม่มีคุณธรรม และรังแกข้าราชการประจำอย่างน่าเกลียด ซึ่งก็น่าสงสัยว่าที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ออกมา ออกมาสนับสนุน นายถวิล และไล่บี้ให้ พล.ท.ภราดร ออกจากตำแหน่ง เลขาฯสมช. อีกรอบนั้น อาจไม่ได้เกิดจากความปรารถนาดี และไม่ได้ทำเพื่อความถูกต้อง หรือเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมช. แต่พรรคประชาธิปัตย์อาจแค่ต้องการข่มขวัญข้าราชการประจำให้เห็นว่า หากมีปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะถูกตามจองล้างจองผลาญแบบนี้ และต้องการสร้างความแตกแยกในหน่วยงาน สมช. อย่างนั้นใช่หรือไม่ ทางที่ดีพรรคประชาธิปัตย์ควรหยุดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย
**เตือน“ปู”อย่าคิดยื้อเวลารอ"ถวิล"เกษียณ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี จะยื่นอุทธรณ์นายถวิล เปลี่ยนศรี กรณีศาลปกครองกลาง สั่งให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า เป็นสิ่ทธิ์ตามกฎหมาย แต่หากนายกฯ พิจารณาคืนตำแหน่งให้ จะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นคนมีความรู้เ ติบโตมากับ สมช. การทำงานจะได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาชายแดนภาคใต้
ส่วน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาสมช. คนปัจจุบัน ควรต้องพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ แต่ไม่ควรใช้คำว่าจะอุทธรณ์เพื่อยื้อเวลาให้นายถวิล เกษียณอายุราชการ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยกระบวนการทางกฎหมายเปิดโอกาสให้อุทธรณ์ได้อยู่แล้ว จึงอยากให้นายกฯ พิจารณาให้ นายถวิล ที่ตั้งใจทำงานให้ประเทศ และมีประสบการณ์ หากมีการยื่นอุทธรณ์ นายถวิล ก็สามารถใช้สิทธิ์ที่จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เหมือนที่ให้สัมภาษณ์กับ สื่อมวลชน ทั้งนี้ อยากฝากข้าราชการว่า ให้ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา อย่าเกรงกลัว เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ว่า ไม่เข้าใจว่าสื่อมองเรื่องนี้อย่างไร ทำไมจึงให้ความสนใจนัก ทั้งที่เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ไม่ว่าประเทศไหนในโลกไม่มีใครใช้หน่วยข่าวของอีกรัฐบาลหรอก ซึ่งกรณีนี้ก็ชัดเจนว่า นายถวิล อยู่รัฐบาลไหน และที่ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีการโยกย้ายพล.อ.สุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาฯ สมช. และ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.คนปัจจุบัน ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ก็ต้องถามว่าทำไม 2 คนนี้จึงยอมรับสภาพ ก็เพราะเขารู้ว่าคนละขั้วกับรัฐบาล และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ยังย้ายนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดมหาดไทยไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ หรือแม้กระทั่งการสั่งย้ายนายพงษ์ศักดิ์ เสมสันต์ ปลัดกทม.ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯเช่นกัน ก็ต้องถามอีกว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์ ทำได้
รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นอะไรเลย ไม่เห็นจำเป็นที่สื่อต้องเสนอข่าว เมื่อศาลปกครองกลาง มีคำสั่งออกมาอย่างนี้ สำนักปลัดสำนักนายกฯ ก็หารือร่วมกับอัยการ จะอุทธรณ์หรือไม่อยู่ที่นายกฯ จะตัดสินใจ ส่วนนายถวิล จะดำเนินการอย่างไรต่อ ก็เป็นสิทธิ แต่อยากจะบอกว่า อย่ามากดดันรัฐบาลด้วยเรื่องนี้ มันไร้ประโยชน์
ผู้สื่อข่าวถามว่าตกลงรัฐบาลจะอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ถ้าตนมีอำนาจ ตนก็จะอุทธรณ์ตามสิทธิ
** อัดปชป.เลิกจุ้นเพราะมีส่วนได้เสีย
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่อยู่ในฐานะที่จะกดดันนายกรัฐมนตรี เรื่องว่าอุทธรณ์หรือไม่อุทธรณ์ เพราะต้องถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยโยกย้าย พล.ท.ภราดร จาก รองเลขาฯสมช ไปอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งเป็นการเด้งเข้ากรุเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ทราบว่า เป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ เห็นว่า พล.ท.ภราดร มีนามสกุลเดียวกับนายปรีดา พัฒนถาบุตร ซึ่งเป็นบุคคลที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เคยทำหน้าที่ตำรวจติดตาม ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลที่ไม่มีคุณธรรม และรังแกข้าราชการประจำอย่างน่าเกลียด ซึ่งก็น่าสงสัยว่าที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ออกมา ออกมาสนับสนุน นายถวิล และไล่บี้ให้ พล.ท.ภราดร ออกจากตำแหน่ง เลขาฯสมช. อีกรอบนั้น อาจไม่ได้เกิดจากความปรารถนาดี และไม่ได้ทำเพื่อความถูกต้อง หรือเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมช. แต่พรรคประชาธิปัตย์อาจแค่ต้องการข่มขวัญข้าราชการประจำให้เห็นว่า หากมีปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะถูกตามจองล้างจองผลาญแบบนี้ และต้องการสร้างความแตกแยกในหน่วยงาน สมช. อย่างนั้นใช่หรือไม่ ทางที่ดีพรรคประชาธิปัตย์ควรหยุดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย
**เตือน“ปู”อย่าคิดยื้อเวลารอ"ถวิล"เกษียณ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี จะยื่นอุทธรณ์นายถวิล เปลี่ยนศรี กรณีศาลปกครองกลาง สั่งให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า เป็นสิ่ทธิ์ตามกฎหมาย แต่หากนายกฯ พิจารณาคืนตำแหน่งให้ จะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นคนมีความรู้เ ติบโตมากับ สมช. การทำงานจะได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาชายแดนภาคใต้
ส่วน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาสมช. คนปัจจุบัน ควรต้องพิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ แต่ไม่ควรใช้คำว่าจะอุทธรณ์เพื่อยื้อเวลาให้นายถวิล เกษียณอายุราชการ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยกระบวนการทางกฎหมายเปิดโอกาสให้อุทธรณ์ได้อยู่แล้ว จึงอยากให้นายกฯ พิจารณาให้ นายถวิล ที่ตั้งใจทำงานให้ประเทศ และมีประสบการณ์ หากมีการยื่นอุทธรณ์ นายถวิล ก็สามารถใช้สิทธิ์ที่จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เหมือนที่ให้สัมภาษณ์กับ สื่อมวลชน ทั้งนี้ อยากฝากข้าราชการว่า ให้ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา อย่าเกรงกลัว เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่
