ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.โยกย้ายขรก.ระดับสูง โยก"อภินันท์" เด็กสาย "เจ๊แดง" ข้ามห้วยจากผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ไปนั่งอธิบดีกรมกร๊วก“ยิ่งลักษณ์”ยังยื้อเวลาไม่ฟันธงอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองบังคับคืนเก้าอี้ “ถวิล” ตั้ง “สุรนันทน์-ธงทอง” ศึกษาคำสั่งศาลก่อนตัดสินใจ
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (4มิ.ย.) ได้มีการอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภท ผู้บริหารระดับสูง ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 4 ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ คือ
1. นายวัลลภ พริ้งพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2. นายแก่นเพชร ช่วงรังษี อธิบดี (นักบริหารสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวง 3. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ 4. นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด บึงกาฬ นอกจากนี้ยังแต่งตั้ง นายอภินันท์ จันทรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
**"เจ๊เเดง"อยู่เบื้องหลังย้ายอธิบดีกรมกร๊วก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การย้ายนายแก่นเพชร ช่วงรังษี จากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็นรองปลัดฯ ถือว่าเป็นการลดชั้นลง ทั้งนี้มีข่าวว่าเป็นเพราะฝ่ายการเมืองไม่พอใจการทำงานของนายแก่นเพชร ในบางเรื่อง โดยเฉพาะกรณี การจัดสรรงบประมาณของกรมส่งเสริมฯ ทำให้แม้นายแก่นเพชร ที่เคยได้รับแรงหนุนจาก ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ให้ขยับจาก ผวจ.อุดรธานี มาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมฯ แต่เมื่อฝ่ายการเมืองประเมินว่าทำงานไม่เข้าขา ก็เลยเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ส่วนนายวัลลภ พริ้งพงษ์ ว่าที่อธิบดีกรมส่งเสริมฯคนใหม่ ที่ย้ายสลับกับนายแก่นเพชร พบว่าเป็นลูกหม้อของกรมส่งเสริมฯ เพราะอยู่กับกรมส่งเสริมฯ มาตลอดจนได้เป็นรองอธิบดีกรมส่งเสริมฯ ก่อนจะไปเป็น ผวจ.สมุทรสาคร แล้วไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเป็นอธิบดีแทนนายแก่นเพชร
สำหรับการย้าย ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมากก็คือ การโยกข้ามห้วยเอา นายอภินันท์ จันทร์รังษี ผวจ.บุรีรัมย์ มาเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
มีรายงานว่า นายอภินันท์ ได้รับแรงหนุนจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พี่สาวนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนนครศรีธรรมราช ด้วยกันจึงค่อนข้างคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากพวกสายนครศรีธรรมราชในพรรคเพื่อไทย อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ฝ่ายการเมืองในรัฐบาล จึงเห็นตรงกันว่า นายอภินันท์ เหมาะสมกับ ตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องการเสนอข่าวสารด้านบวกให้กับรัฐบาล และมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เห็นชอบด้วย จึงเกิดการย้ายข้ามห้วยดังกล่าว
นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็มีส่วนในการร่วมพิจารณาไม่น้อย เพราะเป็นคนตัดสินใจเสนอว่า ยังไม่ควรปรับเปลี่ยนโยกย้าย ผวจ.พื้นที่ภาคเหนือในช่วงนี้ ตามที่ส.ส.ภาคเหนือของเพื่อไทยให้ความเห็นมา จึงทำให้รายชื่อแต่งตั้งรอบนี้ ไม่มีการแต่งตั้งปรับเปลี่ยน ผวจ.ในพื้นที่ภาคเหนือ
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การแต่งตั้งนายอภินันท์ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ แทนนายธีระพงษ์ โสดาศรี ว่า ตนก็ทราบข่าวสายตรงจากเพื่อไทยว่า การโยกย้ายครั้งนี้ เกิดการไม่ลงรอยกันเองในพรรคเพื่อไทย โดยคนที่จะปลดได้ ต้องมีอำนาจบารมีสูง ซึ่งเท่าที่ฟังมา คนที่เข้ามาแทน เป็นคนของนายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ พูดง่ายๆ ก็สายตรง เจ๊แดง นั่นเอง ทำให้การโยกย้ายครั้งนี้ก็เป็นแค่การต่างตอบแทนทางการเมือง
ที่น่าสงสัยคือ ผู้ที่มาใหม่นั้นไม่มีประสบการณ์ ทางด้านการประชาสัมพันธ์มาก่อน จึงน่าจับตาว่า การโยกย้ายครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่รัฐบาลกำลังเผชิญมรสุมล้มเหลวในด้านต่างๆ ทั้งเรื่อง นโยบายรับจำนำข้าว ของแพง หรือแม้กระทั่งการเดินเกมนิรโทษกรรม จึงเสียบคนของตัวเองเข้ามาตีปี๊บ แก้สถานการณ์ใช่หรือไม่
** "ยิ่งลักษณ์"ยื้ออุทธรณ์คืนเก้าอี้ "ถวิล"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาอุทธรณ์ กรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ให้กับ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตเลขาฯสมช. ว่า ตอนนี้ให้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หารือ และตั้งคณะทำงานศึกษาดูก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางดูแล้วน่าจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ขอฟังผลก่อน
เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่า ถ้าอุทธรณ์ไปจะมีผลกระทบกับตำแหน่งนายกฯ เพราะนายถวิล อาจจะฟ้องร้องคดีอาญาย้อนกลับมาได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถ้าดูจากเหตุการณ์ของกรณีอื่นๆ ก็ยังไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กับ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ว่า ขอถามกลับไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด หากวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ จะรับได้หรือไม่หาก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ยังทำหน้าที่เลขาฯ สมช. หากตอบว่า รับได้ ก็โกหก เพราะครั้งที่แล้วไปย้ายพล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ออกจากเลขาฯสมช. และพล.ท.ภราดร ออกจากรองเลขาฯสมช. เพราะเหตุใด
**“สุกำพล”ขวาง”ถวิล”กลับสมช.
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สำนักนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไร เป็นเรื่องของท่าน ถ้ามองในเรื่องข้อเท็จจริง วันนี้รู้ว่า มีพวกปากว่าตาขยิบ หรือพวกว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง ที่ผ่านมา พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยการ อดีตเลขา สมช. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของตน ก็เคยโดนย้ายจากตำแหน่ง แต่ท่านเป็นลูกผู้ชายแท้ ไม่โวยวาย แม้แต่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาสมช. ก็เคยโดนย้ายมาก่อน ซึ่งเรื่องนี้รู้กันอยู่ว่า เป็นคนละข้างกัน แล้วจะทำงานกันได้อย่างไร
“วันนี้ถวิลเพื่อนรัก จะทำงานกับเขาได้อย่างไร มันลำบาก โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคง เรื่องนี้ต้องเข้าใจ ไม่ใช่บอกว่า มาทำงานได้ อย่างที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อรัฐมนตรีลาออก ทีมงานก็ลาออกทั้งหมด ต้องดูว่าเราทำงานเข้ากับเขาได้หรือไม่ แม้ว่าคุณจะบอกทำงานเข้ากับเขาได้ แต่เขาบอกว่า ทำงานเข้ากับคุณไม่ได้ เรื่องนี้ต้องเข้าใจ เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวกับเรื่องสปิริต ต้องรู้ว่า ควรหรือไม่ควร ต้องดูว่า เราสนิทลงรอยกับเขาได้หรือไม่ เรารู้กันอยู่ เพราะมีการแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ใครเป็นใคร อย่างไร หรืออิงกับใครอย่างไร ดังนั้นเขาก็คงไม่เอาหรอก แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ ไม่อยากวิจารณ์ศาลมาก แต่ต้องเข้าใจอะไรหลายอย่างไร ไม่ใช่มองแต่ตัวบทกฎหมาย ในกองทัพ ความเป็นผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชามีสูง ผมโดนมากับตัวเองยังไม่โวยวาย ผมเป็นผู้ช่วย ผบ.ทอ. อยู่ใน 5 เสือ ยังโดนย้ายมาประจำเลย ผมรู้ว่า ทำงานกับเขาไม่ได้ ผมก็เฉย ไม่เคยออกมาโวยวาย ต้องรู้ตัวเองบ้าง ทีคุณก็ว่าไป บางทีตัวเองบอกว่า ไม่ได้เลือกฝ่าย แต่คนอื่นเขาเลือกให้คุณแล้วว่า สีอะไร ต้องเข้าใจว่า ยุคนี้ไม่ใช่ของคุณ”พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (4มิ.ย.) ได้มีการอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภท ผู้บริหารระดับสูง ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 4 ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ คือ
1. นายวัลลภ พริ้งพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2. นายแก่นเพชร ช่วงรังษี อธิบดี (นักบริหารสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวง 3. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ 4. นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด บึงกาฬ นอกจากนี้ยังแต่งตั้ง นายอภินันท์ จันทรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
**"เจ๊เเดง"อยู่เบื้องหลังย้ายอธิบดีกรมกร๊วก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การย้ายนายแก่นเพชร ช่วงรังษี จากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็นรองปลัดฯ ถือว่าเป็นการลดชั้นลง ทั้งนี้มีข่าวว่าเป็นเพราะฝ่ายการเมืองไม่พอใจการทำงานของนายแก่นเพชร ในบางเรื่อง โดยเฉพาะกรณี การจัดสรรงบประมาณของกรมส่งเสริมฯ ทำให้แม้นายแก่นเพชร ที่เคยได้รับแรงหนุนจาก ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ให้ขยับจาก ผวจ.อุดรธานี มาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมฯ แต่เมื่อฝ่ายการเมืองประเมินว่าทำงานไม่เข้าขา ก็เลยเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ส่วนนายวัลลภ พริ้งพงษ์ ว่าที่อธิบดีกรมส่งเสริมฯคนใหม่ ที่ย้ายสลับกับนายแก่นเพชร พบว่าเป็นลูกหม้อของกรมส่งเสริมฯ เพราะอยู่กับกรมส่งเสริมฯ มาตลอดจนได้เป็นรองอธิบดีกรมส่งเสริมฯ ก่อนจะไปเป็น ผวจ.สมุทรสาคร แล้วไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเป็นอธิบดีแทนนายแก่นเพชร
สำหรับการย้าย ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมากก็คือ การโยกข้ามห้วยเอา นายอภินันท์ จันทร์รังษี ผวจ.บุรีรัมย์ มาเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
มีรายงานว่า นายอภินันท์ ได้รับแรงหนุนจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พี่สาวนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนนครศรีธรรมราช ด้วยกันจึงค่อนข้างคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากพวกสายนครศรีธรรมราชในพรรคเพื่อไทย อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ฝ่ายการเมืองในรัฐบาล จึงเห็นตรงกันว่า นายอภินันท์ เหมาะสมกับ ตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องการเสนอข่าวสารด้านบวกให้กับรัฐบาล และมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เห็นชอบด้วย จึงเกิดการย้ายข้ามห้วยดังกล่าว
นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็มีส่วนในการร่วมพิจารณาไม่น้อย เพราะเป็นคนตัดสินใจเสนอว่า ยังไม่ควรปรับเปลี่ยนโยกย้าย ผวจ.พื้นที่ภาคเหนือในช่วงนี้ ตามที่ส.ส.ภาคเหนือของเพื่อไทยให้ความเห็นมา จึงทำให้รายชื่อแต่งตั้งรอบนี้ ไม่มีการแต่งตั้งปรับเปลี่ยน ผวจ.ในพื้นที่ภาคเหนือ
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การแต่งตั้งนายอภินันท์ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ แทนนายธีระพงษ์ โสดาศรี ว่า ตนก็ทราบข่าวสายตรงจากเพื่อไทยว่า การโยกย้ายครั้งนี้ เกิดการไม่ลงรอยกันเองในพรรคเพื่อไทย โดยคนที่จะปลดได้ ต้องมีอำนาจบารมีสูง ซึ่งเท่าที่ฟังมา คนที่เข้ามาแทน เป็นคนของนายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ พูดง่ายๆ ก็สายตรง เจ๊แดง นั่นเอง ทำให้การโยกย้ายครั้งนี้ก็เป็นแค่การต่างตอบแทนทางการเมือง
ที่น่าสงสัยคือ ผู้ที่มาใหม่นั้นไม่มีประสบการณ์ ทางด้านการประชาสัมพันธ์มาก่อน จึงน่าจับตาว่า การโยกย้ายครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่รัฐบาลกำลังเผชิญมรสุมล้มเหลวในด้านต่างๆ ทั้งเรื่อง นโยบายรับจำนำข้าว ของแพง หรือแม้กระทั่งการเดินเกมนิรโทษกรรม จึงเสียบคนของตัวเองเข้ามาตีปี๊บ แก้สถานการณ์ใช่หรือไม่
** "ยิ่งลักษณ์"ยื้ออุทธรณ์คืนเก้าอี้ "ถวิล"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาอุทธรณ์ กรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ให้กับ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตเลขาฯสมช. ว่า ตอนนี้ให้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หารือ และตั้งคณะทำงานศึกษาดูก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางดูแล้วน่าจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ขอฟังผลก่อน
เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่า ถ้าอุทธรณ์ไปจะมีผลกระทบกับตำแหน่งนายกฯ เพราะนายถวิล อาจจะฟ้องร้องคดีอาญาย้อนกลับมาได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถ้าดูจากเหตุการณ์ของกรณีอื่นๆ ก็ยังไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กับ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ว่า ขอถามกลับไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด หากวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ จะรับได้หรือไม่หาก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ยังทำหน้าที่เลขาฯ สมช. หากตอบว่า รับได้ ก็โกหก เพราะครั้งที่แล้วไปย้ายพล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ออกจากเลขาฯสมช. และพล.ท.ภราดร ออกจากรองเลขาฯสมช. เพราะเหตุใด
**“สุกำพล”ขวาง”ถวิล”กลับสมช.
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สำนักนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไร เป็นเรื่องของท่าน ถ้ามองในเรื่องข้อเท็จจริง วันนี้รู้ว่า มีพวกปากว่าตาขยิบ หรือพวกว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง ที่ผ่านมา พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยการ อดีตเลขา สมช. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของตน ก็เคยโดนย้ายจากตำแหน่ง แต่ท่านเป็นลูกผู้ชายแท้ ไม่โวยวาย แม้แต่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาสมช. ก็เคยโดนย้ายมาก่อน ซึ่งเรื่องนี้รู้กันอยู่ว่า เป็นคนละข้างกัน แล้วจะทำงานกันได้อย่างไร
“วันนี้ถวิลเพื่อนรัก จะทำงานกับเขาได้อย่างไร มันลำบาก โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคง เรื่องนี้ต้องเข้าใจ ไม่ใช่บอกว่า มาทำงานได้ อย่างที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อรัฐมนตรีลาออก ทีมงานก็ลาออกทั้งหมด ต้องดูว่าเราทำงานเข้ากับเขาได้หรือไม่ แม้ว่าคุณจะบอกทำงานเข้ากับเขาได้ แต่เขาบอกว่า ทำงานเข้ากับคุณไม่ได้ เรื่องนี้ต้องเข้าใจ เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวกับเรื่องสปิริต ต้องรู้ว่า ควรหรือไม่ควร ต้องดูว่า เราสนิทลงรอยกับเขาได้หรือไม่ เรารู้กันอยู่ เพราะมีการแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ใครเป็นใคร อย่างไร หรืออิงกับใครอย่างไร ดังนั้นเขาก็คงไม่เอาหรอก แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ ไม่อยากวิจารณ์ศาลมาก แต่ต้องเข้าใจอะไรหลายอย่างไร ไม่ใช่มองแต่ตัวบทกฎหมาย ในกองทัพ ความเป็นผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชามีสูง ผมโดนมากับตัวเองยังไม่โวยวาย ผมเป็นผู้ช่วย ผบ.ทอ. อยู่ใน 5 เสือ ยังโดนย้ายมาประจำเลย ผมรู้ว่า ทำงานกับเขาไม่ได้ ผมก็เฉย ไม่เคยออกมาโวยวาย ต้องรู้ตัวเองบ้าง ทีคุณก็ว่าไป บางทีตัวเองบอกว่า ไม่ได้เลือกฝ่าย แต่คนอื่นเขาเลือกให้คุณแล้วว่า สีอะไร ต้องเข้าใจว่า ยุคนี้ไม่ใช่ของคุณ”พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
