ลือมือใหม่ไม่เป็นมวยอย่าง ผวจ.บุรีรัมย์ เหาะนั่งอธิบดีกรมประชาฯ เพราะได้แรงหนุนจากผัวเจ๊แดง ด้วยคุณสมบัติส่วนตัวเป็นคนบ้านเดียวกัน หวังความเป็นคนคุ้ยเคย จะทำหน้าที่ตีปี๊บแก้หน้าให้ รบ.ยิ่งลักษณ์ ได้อย่างไร้รอยต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในการแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทยได้ย้ายนายแก่นเพชร ช่วงรังษี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มาเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ถือว่าเป็นการลดชั้นลง มีข่าวว่าเป็นเพราะฝ่ายการเมืองไม่พอใจการทำงานของนายแก่นเพชรบางอย่าง โดยเฉพาะกรณีเรื่องการจัดสรรงบประมาณของกรมส่งเสริมฯ ทำให้แม้นายแก่นเพชร ที่เคยได้รับแรงหนุนจาก ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ให้ขยับจาก ผวจ.อุดรธานี มาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมฯ แต่เมื่อฝ่ายการเมืองประเมินว่าทำงานไม่เข้าขาก็เลยเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ส่วนนายวัลลภ พริ้งพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าที่อธิบดีกรมส่งเสริมฯคนใหม่ที่ย้ายสลับกับนายแก่นเพชรพบว่าเป็นลูกหม้อของกรมส่งเสริมฯ เพราะอยู่กับกรมส่งเสริมฯ มาตลอดจนได้เป็นรองอธิบดีกรมส่งเสริมฯ ก่อนจะไปเป็น ผวจ.สมุทรสาคร แล้วไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเป็นอธิบดีแทนนายแก่นเพชร
ขณะที่การย้ายซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมากก็คือ การโยกข้ามห้วยโดยเอานายอภินันท์ จันทร์รังษี ผวจ.บุรีรัมย์ มาเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
มีรายงานว่า นายอภินันท์ได้รับแรงหนุนจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พี่สาวนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนนครศรีธรรมราชด้วยกันจึงค่อนข้างคุ้นเคยกันดี ผนวกกับยังได้แรงหนุนจากพวกสายนครศรีธรรมราชในพรรคเพื่อไทย อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ฝ่ายการเมืองในรัฐบาลจึงเห็นตรงกันว่านายอภินันท์เหมาะสมกับตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องการเสนอข่าวสารด้านบวกให้กับรัฐบาลได้อย่างไร้รอยต่อ ท่ามกลางข่าวออกมาด้วยว่าการให้นายอภินันท์มาเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนใหม่ ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เห็นชอบด้วย จึงเป็นการย้ายข้ามห้วยจากสายกระทรวงมหาดไทยมากรมประชาสัมพันธ์ที่สร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก
มีรายงานด้วยว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ของกระทรวงมหาดไทยที่เป็นการแต่งตั้งกลางปี นอกจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะช่วยผลักดันให้นายอภินันท์ได้เป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนใหม่แล้ว นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชายก็มีส่วนในการร่วมพิจารณาไม่น้อย เพราะเป็นคนตัดสินใจเสนอว่ายังไม่ควรปรับเปลี่ยนโยกย้าย ผวจ.ในพื้นที่ภาคเหนือช่วงนี้ ตามที่ ส.ส.ภาคเหนือของเพื่อไทยให้ความเห็นมา จึงทำให้รายชื่อแต่งตั้งรอบนี้ ไม่มีการแต่งตั้งปรับเปลี่ยนผวจ.ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างที่มีข่าวปรากฏออกมาก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ครม.เห็นชอบ แต่งตั้งนายอภินันท์ จันทรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนใหม่แทนนายธีระพงษ์ โสดาศรี อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ว่าตนแปลกใจตั้งแต่วันที่มีข่าวการปลดอธิบดีคนเก่าออกไปแล้ว ซึ่งตนก็ทราบข่าวสายตรงจากเพื่อไทยว่า การโยกย้ายครั้งนี้เกิดการไม่ลงรอบกันเองในพรรคเพื่อไทย โดยคนที่จะปลดได้ ต้องมีอำนาจบารมีสูง ซึ่งเท่าที่ฟังแว่วๆ ว่าคนที่เข้ามาแทนเป็นคนของนายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ พูดง่ายๆ ก็สายตรงเจ๊แดงนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หากเป็นตามข่าวที่ตนได้ทราบมาจริง การโยกย้ายครั้งนี้ก็คงเป็นแค่การต่างตอบแทนทางการเมือง
นายสาทิตย์กล่าวว่า ที่น่าสงสัยคือผู้ว่าคนใหม่นั้นไม่มีประสบการณ์ และเคยแสดงฝีมือทางด้านการประชาสัมพันธ์มาก่อน ทั้งที่ปรกติแล้ว การเลื่อนขั้นในกรมประชาสัมพันธ์ต้องมีความรู้และประสบการณ์มาอย่างยาวนานถึงจะเหมาะสม เพราะฉะนั้น จึงน่าจับตาว่าการโยกย้ายครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่รัฐบาลกำลังเผชิญมรสุมล้มเหลวในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องนโยบายรับจำนำข้าว ของแพง หรือแม้กระทั่งการเดินเกมนิรโทษกรรม จึงเสียบคนของตัวเองเข้ามาตีปี๊บแก้สถานการณ์ใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้น ตนอยากถามรัฐบาลแทนใจข้าราชการในกรมประชาสัมพันธ์ ที่ตั้งใจทำงานมาอย่างยาวนาน และรอวันเติบโตในตำแหน่งหน้าที่ แต่ไม่มีปากเสียงว่าคนที่ต้องการเติบโตในหน้าที่การงานจะต้องเป็นเด็กนายใช่หรือไม่ ต้องให้โอกาสทำงานสร้างผลงาน และคอยดูกันว่า อธิบดีคนใหม่ของกรมประชาสัมพันธ์ที่ตั้งขึ้นมานั้น ทำงานตอบสนองความต้องการทางการเมือง ให้คนที่หนุนตนเองเข้ามาทำงานแค่นั้นหรือไม่ ซึ่งตนก็คอยดูว่าการเอาคนที่ไม่มีประสบการณ์ตรงสายงาน โยกย้ายข้ามห้ามห้วยมาทำงาน จะดีกว่าข้าราชการลูกหม้อในกรมประชาสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ และตั้งใจทำงานมาอย่างยาวนานอย่างไร
