หัวหน้าประชาธิปัตย์ นำทีมหาเสียง “แทนคุณ” มั่นใจเพิ่มหลังคนเริ่มรู้จัก จ่อตั้งเวทีปราศรัย รับมีคนเตือนสิ่งที่มองไม่เห็น จี้ “ยิ่งลักษณ์” คืนตำแหน่ง “ถวิล” บอกเตือนแล้วจำนำข้าวเป็นภาระ วอนทบทวนก่อนจะเสียหายหนักกว่านี้
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่เขตดอนเมือง เมื่อเวลา 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรคอาทิ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ดอนเมืองเพื่อช่วยนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงบริเวณ ถนนสรงประภา และโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และบริเวณตลาดนัด ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดี
โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งที่สองว่า มีความมั่นใจมากขึ้น เนื่องจากประชาชนให้การตอบรับและรู้จักนายแทนคุณ จากการทุ่มเททำงานตลอดที่ผ่านมา ต่อจากนี้จะมีการจัดเวทีปราศรัยเพื่อสื่อสารกับประชาชนในสิ่งที่พรรคและนายแทนคุณ มีความมุ่งมั่นจะทำให้กับชาวดอนเมือง และสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการบริหารของรัฐบาล โดยมีความหวังว่าประชาชนจะให้โอกาสนายแทนคุณ ได้ทำหน้าที่แม้จะรู้ว่าไม่ง่ายแต่ก็มีกำลังใจดี แต่ก็มีคนเตือนและแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น การทุ่มงบประมาณลงพื้นที่ และการใช้กลไกรัฐ อย่างไรก็ตามพรรคไม่ได้หวั่นไหวและจะเดินหน้าขอเสียงอย่างหนักใน 2 สัปดาห์ที่เหลือก่อนการเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีของนายถวิล เปลี่ยนสี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่า ตนอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คืนตำแหน่งเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้กับนายถวิล โดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและเป็นมืออาชีพที่ไม่ฝักใฝ่การเมือง พร้อมที่จะทำงานได้กับทุกรัฐบาล หากได้กลับไปนั่งที่ สมช.ตนเชื่อว่าจะช่วยรัฐบาลได้มากเพราะทำงานด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่อยากให้มีการทอดเวลาออกไป อย่างไรก็ตามหากนายกฯ จะอุทธรณ์ก็เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่อยากให้ทบทวนเพื่อให้โอกาสข้าราชการที่ดีได้ทำหน้าที่และไม่อยากให้รัฐบาลมีทัศนคติผลักนายถวิล ว่าเป็นคนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุพรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรมายุ่งเรื่องการคืนตำแหน่งเลขาฯ สมช.ให้นายถวิล นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการคืนตำแหน่งเป็นสิทธิของรัฐบาลที่จะดำเนินการ แต่ตนเพียงให้คำแนะนำ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ชอบมาถามตนโดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ซึ่งนายถวิล มีประสบการณ์เรื่องใต้ และมีข้อมูลการทำงาน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ร.ต.อ.เฉลิม
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ มูดีส์ มีความเป็นห่วงกรณีการขาดทุนโครงการจำนำข้าวจะส่งผลต่อการจัดเครดิตประเทศไทย ว่า ตนได้เตือนรัฐบาลมาตั้งแต่ต้นว่าการทำโครงการจำนำข้าวในราคาที่สูงกว่าตลาด 30-40% จะเป็นภาระด้านงบประมาณอย่างมาก และเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลชี้แจงว่าจะทำให้งบสมดุลในปี 2560 บนพื้นฐานที่ว่าจะไม่มีการขาดทุนในโครงการนี้อีก ก็สอดคล้องกับรายงานของมูดีส์ ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการจัดงบว่าจะไม่สามารถเป็นไปได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่จะจัดสมดุลในปี 60 เนื่องจากจะมีการขาดทุนสะสม จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนโดยไม่ควรเอานโยบายที่สร้างปัญหามาทำร้ายประเทศ
ส่วนที่ตัวแทนมูดีส์เคยเข้าพบนายกิตติรัตน์ กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา และนายกิตติรัตน์ ได้แสดงความมั่นใจว่าไทยจะได้รับการขยับเครดิต แต่ก็ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ตนเคยเตือนไว้ว่า การอ้างเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท แต่มาจัดทำงบแบบขาดดุลลดลง จาก 3 แสนล้านบาท เหลือ 2.5 แสนล้านบาทนั้น ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกเศรษฐกิจไทยจะมีเสถียรภาพ ตรงข้ามกลับไม่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลขที่ควรจะโปร่งใส และการที่นายกิตติรัตน์ ไม่ยอมชี้แจงหลังจากมูดีส์ส่งสัญญาณว่าอาจมีปัญหา โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังชี้แจงแทนนั้น ใครจะชี้แจงไม่สำคัญเท่ากับระดับนโยบายต้องทบทวนโครงการจำนำข้าวก่อนที่จะสร้างความเสียหายให้ประเทศมากกว่านี้
