xs
xsm
sm
md
lg

พท.โบ้ยข่าวลือบึ้มที่ชุมนุมชนโยงหน้ากากขาว อ้างจำนำข้าวเจ๊งแค่ 8 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (แฟ้มภาพ)
รองโฆษกเพื่อไทย วอนอย่าตระหนกข่าวลือฟอร์เวิร์ดเมล ห้ามประชาชนเดินทางไปยังชุมนุมชน จะเกิดระเบิดเหมือนราม 43/1 ยันฝ่ายความมั่นคงการันตีความปลอดภัย สงสัยคนปล่อยข่าวเชื่อมโยงกลุ่มหน้ากากขาว โวยเชื่อมโยงศาลปกครองมีคำสั่งคืนเก้าอี้เลขาฯสมช.ให้ “ถวิล” กับกรณีอื่น บอกรัฐบาลมีสิทธินำคนที่ไว้วางใจมาดูแลงานด้านความมั่นคง โต้ ปชป.กล่าวหาทุจริตจำนำข้าว บอกเป็นข้อมูลเก่า อ้างทุกนโยบายเจ๊งทั้งนั้น ชี้จำนำข้าวขาดทุนจริงแค่ 7-8 พันล้านบาท



นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการปล่อยข่าวลือในโซเชียลเน็ตเวิร์คห้ามประชาชนเดินทางไปในจุดชุมนุมชน เพราะหวั่นจะเกิดเหตุระเบิดคล้ายกับบริเวณปาก ซ.ราคำแหง43/1 ว่า พรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบกับหน่วยงานด้านความมั่นคงแล้วว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือ ดังนั้นขอความรวมมือประชาชนอย่าส่งต่อเมล์ดังกล่าว เพราะจะเป็นการสร้าความแตกตื่น

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่มีการเตรียมก่อเหตุและได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในจุดสำคัญมากขึ้น ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ากลุ่มคนปล่อยข่าวเชื่อมโยงกับกลุ่มหน้ากากขาวหรือกลุ่มตาขาวหรือไม่ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้พยายามต่อต้านพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี คืนเก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กับนายถวิล เปลี่ยนศรี เพราะคำสั่งโยกย้ายมิชอบด้วยกฎหมายว่า เราเคารพคำตัดสิน แต่ก็เป็นสิทธิขอฝ่ายผู้ถูกฟ้องที่จะคืนตำแหน่งให้หรือจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน เบื้องต้นผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาล คงยังไม่เห็นคำพิพากษาโดยละเอียด แต่ไม่ว่ารัฐบาลจะเลือกทางใดก็พร้อมจะให้ความเป็นธรรมและความเหมาะสมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ตนไม่เห็นประโยชน์ที่นายถวิลหรือเครือข่ายจะนำเรื่องนี้ ไปเทียบเคียงกับกรณีอื่นๆ เพราะเกิดต่างกรรมต่างวาระ ส่วนที่เครือข่ายออกมาสนับสนุนนายถวิลว่าเป็นลูกหม้อ สมช.แต่รัฐบาลไม่เอาคนที่มีความรู้ ความสามารถมาทำงานนั้น ยืนยันว่า พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขา สมช.คนปัจจุบัน สามารถทำงานได้ดี ไม่มีอะไรเสียหาย ที่สำคัญรัฐบาลมีสิทธิอันชอบธรรม ที่จะเลือกเอาคนที่เชื่อได้โดยบริสุทธิ์ใจ ว่าจะเข้ามาดูแลงานด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติได้อย่างดีที่สุด

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ในวาระที่หนึ่งหรือขั้นรับหลักการว่า ภาพรวมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯระหว่างวันที่ 29-31 พ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่ารัฐบาลชี้แจงได้อย่างชัดเจนทั้งในส่วนของงบประมาณจำนวน 2.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่าย 2.1 ล้านล้านบาท และงบลงทุน 4 แสนกว่าล้านบาท โดยรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงได้อย่างครบถ้วนสมบรูณ์ในทุกประเด็น รวมถึงตัวแทน ส.ส.ได้ทำหน้าที่ได้อย่างดี อภิปรายอยู่ในกรอบต่างจาก ส.ส.ฝ่ายค้านที่วางงานกันมาอย่างเป็นกระบวนการ เน้นใช้วิธีการการพูดเชิงลบเพื่อให้กระทบต่อรัฐบาล รวมถึงพาดพิงถึงบุคคลที่สามตลอดเวลาทำให้เสียเวลาอย่างมาก จึงอยากให้ฝ่ายค้านได้ปรับปรุงตัวเพื่อการอภิปรายครั้งต่อไป เป็นไปอย่างสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน และต้องขอบคุณที่สภาฯได้ลงมติรับหลักการในวาระที่1 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา 63 คน

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่การอภิปรายเรื่องโครงการการรับจำนำข้าวของฝ่ายค้านว่า ถือเป็นข้อมูลเก่าเหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา แต่เป็นการนำข่าวจากหนังสือพิมพ์มาตัดปะเพิ่ม ทั้งหากพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลใหม่ก็ควรยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบหรือจะใช้เวทีสภาฯก็สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเปิดสภาฯในวันที่ 1 ส.ค.นี้ก็จะเปิดสภาฯ แต่การจินตนาการ ยกตัวเลขที่บอกว่าขาดทุน 2.6 แสนล้านนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหากพูดแบบชัดๆ เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกนโยบาย ระบบไหนก็ขาดทุน แต่ด้วยสภาพตลาดในขณะนี้ระบบจำนำขาดทุนจริงๆ น่าจะแค่ 7-8 พันล้านบาท

“ในอนาคตเมื่อเราพัฒนาต่อยอดทั้งเรื่องตลาด การเพิ่มมูลค่าเพิ่ม เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นที่มีการพัฒนาข้าวเป็นเครื่องสำองค์ไปแล้วภาพรวมก็น่าจะดีขึ้น ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงขอท้าให้บอกเลยว่าถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์จะยกเลิกระบบจำนำข้าว ไปถามชาวนาดูได้เลย เพราะการจำนำข้าวประโยชน์ตกถึงมือชาวนา ฉะนั้นจึงได้อย่าบิดเบือนข้อมูลเพราะถ้ามีข้อมูลทุจริตจริงก็แจ้งให้นายกฯหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เพื่อที่รัฐบาลจะได้ดำเนินการตรวจสอบให้อย่างเต็มที่”


กำลังโหลดความคิดเห็น