xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” งดจ้อ ส่ง “กิตติรัตน์-วราเทพ-อาคม” แจงงบปี 57 กู้เงิน 5 ล้านล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง (แฟ้มภาพ)
“นายกฯ” งดจัดรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ส่ง “กิตติรัตน์-วราเทพ-เลขาฯสภาพัฒน์” แจงงบปี 57 พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน และกรอบรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ “โต้ง” โวตั้งงบฯ ลดการดุลได้ 2.5 แสนล้านในปี 57 “วราเทพ” ปัดลงทุน 2 ล้านล้าน ขาดรายละเอียด แค่มีบางโครงการอยู่ระหว่างศึกษาฯ ย้ำโปร่งใส ไม่กู้เงินมากอง คาดหลังสิงหาฯผ่านวาระ 3 เริ่มโครงการตุลาคม



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เช้าวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจเดินทางเยือนศรีลังกา ได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ชี้แจง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2557 พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และกรอบรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจปี 2556 เพื่อให้เศรษฐกิจไทยโตที่ระดับ 5% ที่เสนอคณะรัฐมนตรีไปเมื่อ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายอาคมกล่าวถึงการทำกรอบรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ที่สภาพัฒน์ร่วมกับกระทรวงการคลังเสนอว่า 1. เราพยายามวิเคราะห์เศรษฐกิจไทย พบว่ามีความเสี่ยงในปีนี้ จีดีพีไตรมาสแรกโตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และเศรษฐกิจของเราเทียบไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว เห็นสัญญาณชะลอตัว เราก็อยากให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ โดยดูจากเงินเฟ้อ ซึ่งอยู่ในภาวะที่น่าจะควบคุมได้ 2. ดูค่าเงิน มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามามากกว่าปกติทำให้เงินบาทแข็งขึ้นเป็นเวลาเกือบ 10 เดือนแล้ว เราห่วงว่าจะส่งผลต่อผู้ประกอบการ SMEs และส่งออก

นายอาคมกล่าวว่า ในระดับมหภาคก็ต้องดูด้านการเงินการคลัง จุลภาคก็ต้องดูรายได้ของประเทศมาจากไหน เช่น การเกษตรที่เป็นรายได้หลัก ท่องเที่ยวที่ยังมีโอกาสพัฒนาต่อไปได้ ทั้งสองเรื่องทำให้มีการกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนและในชนบท นอกจากนั้นก็มีด้านอุตสาหกรรม พลังงาน การลดต้นทน ฯลฯ

“ความหมายของการรักษาเสถียรภาพให้เกิดความยั่งยืน คือ ในทางวิชาการเราคำนวณว่าจีดีพีของประเทศน่าจะอยู่ที่ 5-6% คือเต็มศักยภาพ ถ้าเอาแบบสมดุลก็ประมาณ 5% แต่ถ้าเงินเฟ้อหรือเงินบาทไม่มีเสถียรภาพก็ไม่ได้ผลดี มีแต่การเติบโต ขายของก็ไม่ได้กำไร ก็ต้องดูเสถียรภาพด้วย”

ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวถึงเป้าหมายในการจัดทำงบประมาณสมดุลว่า เราเดินมาได้ดีตอนนี้ ซึ่งในช่วงก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามา เคยขาดดุล 4 แสนล้านบาท แต่ในปีปัจจุบันลดการขาดดุลเหลือ 3 แสนล้านบาท และงบประมาณปี 57 ก็จะลดการขาดดุลให้เหลือ 2.5 แสนล้านบาท ในเชิงของปริมาณก็ลดลง และเมื่อเทียบสัดส่วนกับจีดีพีที่โตขึ้น การขาดดุลงบประมาณก็ต่ำกว่าร้อยละ 2 นักเศรษฐศาสตร์บอกว่าอาจจะไม่ต้องต่ำขนาดนั้น แต่ความตั้งใจเชื่อว่าเราจะสามารถดำเนินการได้ และหนี้สาธารณะก็อยู่ในระดับที่ต่ำ แม้ว่าจะต้องมีการลงทุนอะไรที่ชัดเจน เช่น การลงทุนบูรณาการระบบน้ำ ลงทุนระบบขนส่ง เราก็ดำเนินการออกเป็นกฎหมายเพื่อความชัดเจน เชื่อว่าจะมีงบประมาณที่สมดุลได้ในเวลาที่ตั้งใจไว้สามารถทำได้

ส่วนหนี้สาธารณะปัจจุบันอยู่ที่ 44% ของจีดีพี ขณะที่วินัยการคลังกำหนดเพดานไว้ที่ 60% ถือว่าห่างจากกรอบวินัยการคลัง ซึ่งแนวทางที่เราจะดำเนินการทั้งกู้เงินพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ก็จะพยายามดูไม่ให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีเกิน 50%

ขณะที่นายวราเทพ รัตนากร กล่าวว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการระบบคมนาคมขนส่งของประเทศ ตามยุทธศาสตร์ ปี 2020 ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่กู้เงินมากองไว้เด็ดขาด และไม่ต้องกังวลว่ารัฐบาลนี้จะใช้เงินโดยสิ้นเปลือง

ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่าเอกสารแตกต่างกันเยอะเมื่อเทียบกับ พ.ร.บ.งบประมาณ ที่มีเอกสารเป็นลังเพื่อให้ฝ่ายค้านได้ตรวจสอบรายละเอียดโครงการ นายวราเทพกล่าวว่า ต้องยอมรับว่ามีความแตกต่างกัน เพราะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีการลงทุนเพียง 100 กว่าโครงการ ส่วนที่บอกว่าไม่มีรายละเอียดนั้น ยืนยันว่ามี เพียงแต่ว่าบางโครงการอยู่ระหว่างการศึกษา

“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดบังเอกสารหรือรายละเอียด พร้อมที่จะให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ ทั้งฝ่ายค้านเอง หรือสื่อมวลชน โดยมั่นใจว่า พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท จะนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ได้ภายในเดือนสิงหาคม และสามารถเริ่มโครงการได้ในเดือนตุลาคม ควบคู่ไปกับงบประมาณประจำปี 2557”




กำลังโหลดความคิดเห็น