“นพ.เชิดชัย” ขอญาติแดงใจเย็น ชี้ต่อสู้ทางกฎหมายต้องอดทนทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ หยามพันธมิตรฯ ปลุกคนไม่ขึ้นแล้ว มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 พ.ค. นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กลุ่ม 42 ส.ส.ที่ร่วมผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และแกนนำ นปช. กล่าวตอบโต้กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ที่แสดงความสงสัยฝ่ายการเมือง เนื่องจากเนื้อหาในร่างอาจปกป้องผู้กระทำความผิดโดยเฉพาะฝ่ายทหารว่า ทหารชั้นผู้น้อยได้ด้วยอยู่แล้ว แต่ไม่รวมถึงผู้สั่งการ ในส่วนทหารชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเขาไม่เกี่ยว ซึ่งเราทำให้เฉพาะในส่วนคดีทางอาญา ต่อมาถ้าจะมีผู้ไปฟ้องร้องทางแพ่งคงต้องไปว่ากันเอง ส่วนความคิดเห็นของกลุ่มญาติที่จะเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน สามารถทำได้ ตามรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ประชาชน 1 หมื่นคน เข้าชื่อเสนอกฎหมายมาได้ แต่ขั้นตอนจากนั้นก็ต้องมายื่นสภาฯ หากประธานฯ ไม่บรรจุ หรือ ส.ส.ไม่สนับสนุนผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ก็จะค้างสภาฯอยู่อย่างนั้น เหมือนฉบับ ร.ต.อ.เฉลิมและฉบับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ นพ.เหวง นอกจากนี้เมื่อเสนอมาแล้วก็ต้องดูอีกว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวเกี่ยวกับการเงินหรือไม่ ถ้าใช่ก็ต้องส่งเรื่องให้รัฐบาลดูอีกที ถ้าไม่ใช่ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนตามที่กล่าวมา
นพ.เชิดชัยกล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมเมื่อปี 53 มองว่าการเยียวยาจากภาครัฐล่าช้า ทำให้หลายรายยังไม่ได้รับเงินเยียวยาว่า เท่าที่ทราบรัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาหนึ่งชุด มีนายธงทองเป็นประธาน แต่หากยังเห็นว่าล่าช้า รองมาติดต่อ พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรให้ช่วยพิจารณาอีกทาง แต่ไม่ว่าอย่างไรผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมตนก็เห็นใจ เมื่อต่อสู้ทางกฎหมายต้องอดทนหน่อย เหมือนกับสมัยที่เราสู้กับฝ่ายอำมาตย์ก็ต้องค่อยๆ ไป จะให้ยกคนกันมาฆ่ากันตายไปข้างคงเป็นไปไม่ได้ ดีที่สุดค่อยๆมาคุยกัน
เขายังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ บริเวณสนามหลวง ว่าคงจะทำให้เหมือนกับที่พันธมิตรฯ เคยทำ หวังกดดันล้มรัฐบาล แต่คงทำไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน คงปลุกประชาชนไม่ขึ้น ขณะเดียวกัน การชุมนุมย่อมต้องมีนายทุน ต้องดูว่ากลุ่มทุนที่จะสนับสนุน 3 กลุ่มใหญ่กล้าหรือไม่ อย่าลืมไม่มีความลับในโลก เขากล้าพอที่จะเอาธุรกิจหรือกล้ารับผลที่จะตามมาหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่าจากเหตุปัจจัยหลายเรื่องอาจทำให้รัฐบาลต้องยุบสภาในปีนี้นั้น นายอภิสิทธิ์คงหวังว่าตัวเองจะได้เสียงมากกว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นความคาดหวังเล็กๆ แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ทำงานอยู่ยังไม่มีความผิด จึงยังไม่มีเหตุให้ต้องยุบสภา ถ้ารัฐบาลโปร่งใสไม่คอร์รัปชัน มั่นใจว่าจะอยู่ได้เรื่อยๆ จนครบอายุรัฐบาล 4 ปี