xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายค้านจวกรัฐชอบกู้แต่หนีหนี้ โวยงบซ่อมถนนใต้จิ๊บจ๊อย “ชัชชาติ” บอกกู้ 2.2 ล้านล.จะซ่อมให้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สรรเสริญ” จวกรัฐบาลตบตากู้เงินน้อยลง แต่รีดภาษีประชาชนเพิ่มขึ้น อุดช่องโหว่ ประมาณตัวเลขเศรษฐกิจผิด ชี้รัฐบาลชอบกู้แต่ไม่ชอบใช้หนี้ ฟันธงหนี้สาธารณะพุ่งแน่ “เทพไท” ซัดปล่อยถนนสายใต้ทรุดโทรม ให้งบซ่อมถนนจิ๊บจ๊อย เพราะคนใต้ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย “ชัชชาติ” อ้างงบไม่พอ เอาเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทมาก่อนแล้วจะซ่อมให้ภายใน 7 ปี

วันนี้ (30 พ.ค.) ในการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เมื่อรัฐบาลผ่านหลักการร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไปแล้ว ตนคิดว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้จะไม่มีการกู้มาก แต่เมื่อดูหลักการแล้ว พบว่ามีการกู้ถึง 2.5 แสนล้านบาท ถือว่ายังมากพอสมควร และหากเทียบการกู้เงินกับงบปี 56 แล้ว ตนก็หลงดีใจว่าจะมีการกู้น้อยลง แต่เมื่อพิจารณาแล้วพบว่ารัฐบาลใช้วิธีการกู้น้องลงก็จริง แต่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งสิ้น

ทั้งนี้ การพิจารณาจัดงบประมาณจะพิจารณา 3 หลัก คือ การจัดเก็บรายได้ การกู้เงิน และรายจ่าย ซึ่งในส่วนของรายได้ หากดูในเอกสารจะพบว่าหลายกรมจัดเก็บตั้งรายได้สูงขึ้นมา โดยอ้างว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 4.5% แต่อยู่บนการประเมิณตัวเลขเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว เพราะตัวเลขล่าสุดที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจประเมินล่าสุด ตัวเลขอยู่ที่ 4.2% หายไป 0.3% หากแปลงรายได้ออกมาจะหายไป 6.3 พันล้านบาท รายได้กรมศุลกากร ขยายตัว 13% สูงมาก แต่เป็นการประมาณการเก่าที่คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว ตอนนี้เหลือแค่ 5% เท่านั้น ทอนออกไปจะเหลือ 5.8 พันล้านบาท เป็นรายได้ที่ประมาณการคลาดเคลื่อน 1.2 หมื่นล้าน ตนไม่กังวลว่ารัฐบาลหาเงินมาไม่ได้เพื่อเติมเต็มช่องว่างนี้เพราะเชื่อว่าจะไปใช้วิธีการเพิ่มภาษีใหม่ ต้องมีมหกรรมรีดภาษีธุรกิจห้างร้านขนาดเล็กและร้านค้าด้วยการประเมินภาษีและประเมินรายได้ใหม่ทำให้ต้องเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

นอกจากนี้ ในส่วนกรมสรรพสามิต การเพิ่มภาษีน้ำมันดีเซลจะทำให้รัฐมีรายได้ด้วยการ เพิ่มภาษี 1.5 บาทต่อลิตร ประมาณ 3 หมื่นล้านต่อปี ขึ้นราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนจาก 18 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 25 บาทต่อกิโลกรัม และก็มีกระแสข่าวมาว่าอาจขึ้นไปสูงถึง 30 บาทต่อกิโลกรัม รวมเป็นมูลค่าอีก 30,000 ล้านบาท และเมื่อเชื้อเพลิงราคาสูงขึ้นก็จะส่งผลกระทบไปยังภาคการขนส่งทำให้ราคาสินค้าก็สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งรวมรายได้ทั้งหมดที่ประชาชนต้องรับภาระแทนรัฐบาล 72,000 ล้านบาท ซึ่ง รมว.พลังงานยืนยันว่าจะไม่มีการเอาไปใส่ในกองทุนน้ำมัน ข่าวล่าสุดที่ออกมาได้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดกับเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่พูด การที่รัฐบาลสัญญากับประชาชนว่าจะยกเลิกกองทุนน้ำมันและกระชากค่าครองชีพให้ลงมา แต่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาโกหกประชาชน เมื่อรวมรายได้ทั้งหมดจากการรีดภาษี ราคาพลังงาน ประชาชนต้องรับภาระถึง 7.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ขณะนี้มีบัญชีผู้เสียภาษี 11 ล้านคน แต่มี 2.3 ล้านคนที่เสียภาษีจริง เท่ากับว่าผู้เสียภาษีจะรับภาระไปคนละ 3.1 หมื่นบาท

นายสรรเสริญ กล่าวว่า พฤติกรรมการชำระหนี้ของรัฐบาลนี้เมื่อปี 2555 กำหนดชำระเงินต้น 4.7 หมื่นล้านบาท ชำระจริงเพียง 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 56 กำหนดชำระเงินต้น 4.9 หมื่นล้านบาท ชำระจริงเพียง 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ชอบกู้แต่ไม่ชอบใช้หนี้ และที่บอกว่าปี 2560 จะไม่ต้องกู้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไร หากที่ผ่านมาไม่ยอมชำระหนี้ ผลักภาระให้กับประชาชนจากการเก็บภาษี และหากยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตนฟันธงเลยว่า หนี้สาธารณะจะเกินกว่า 50% ตามที่ได้ตั้งไว้แน่นอน จึงอยากขอทวงสัญญาที่รัฐบาลเคยหาเสียงกับประชาชนไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยกเลิกกองทุนน้ำมัน จะกระชากราคาสินค้าลง ก็ไม่ทำซักอย่าง รัฐบาลเพียงกำลังหลอกประชาชน

ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า รัฐบาลชุดนี้มีการบริหารงานอย่างไม่เท่าเทียมกันในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะงบประมาณซ่อมแซมถนนเพชรเกษมลงพื้นที่ภาคใต้ระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ไม่ได้มีการจัดสรรให้อย่างทั่วถึง เนื่องจากปัจจุบันถนนดังกล่าวมีความเสื่อมโทรมเป็นอย่างมาก ถ้าใครใช้รถยนต์เดินทางสัญจรก็จะทราบดีว่ามีความเสื่อมสภาพแค่ไหน อยากตั้งข้อสังเกตว่าการจัดสรรงบประมาณให้การซ่อมถนนบริเวณภาคใต้น้อยนั้น อาจเป็นเพราะประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทยเป็น ส.ส.แม้แต่คนเดียว แต่นั่นก็เป็นทัศนคติของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลแล้ว ก็ถือเป็นรัฐบาลของประชาชนทุกคนไม่ใช่ของภาคหนึ่งภาคใด ที่สำคัญประชาชนภาคใต้ก็เสียภาษีไม่น้อยกว่าภาคอื่น และเมื่อรัฐบาลก่อหนี้คนภาคใต้ก็ต้องเป็นหนี้ด้วยเหมือนกัน การบริหารของรัฐบาลแบบนี้ไม่ต่างจากสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เคยบอกว่าใครเลือกพรรคไทยรักไทย ก็จะได้รับการพัฒนาต่อ ทำให้คิดว่ารัฐบาลของน้องสาวอาจจะ ออสโมซิส (ซึมซับ) มาจากรัฐบาลพี่ชายในอดีต

ส่วน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวชี้แจงว่า ส่วนตัวได้เคยนั่งรถลงพื้นที่ภาคใต้ ผ่านทางถนนเพชรเกษม มาแล้ว ยอมรับว่าถนนดังกล่าวทรุดโทรมจริง เหมือนกับถนนสายหลักทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ แต่การจะใช้งบประมาณปกติเพื่อมาบำรุงรักษา ไม่อาจสามารถทำได้ทั้งระบบ ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้จึงได้จัดสรรงบประมาณบำรุงรักษาถนนดังกล่าว ผ่านร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะสามารถทำได้เสร็จภายใน 7 ปี






กำลังโหลดความคิดเห็น