“ยิ่งลักษณ์” ชิ่งสภาฯ ไปเปิดงานโอทอป ก่อนร่วมงานเลี้ยงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ

นายกฯ ออกจากรัฐสภาไปเปิดงานโอทอป มิดเยียร์ จากนั้นร่วมงานเลี้ยง ชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ 180 ปี เป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนที่ใกล้ชิด

วันนี้ (29 พ.ค.) ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรมีการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 57 ภายหลังเสร็จสิ้นการชี้แจงต่อสมาชิกสภาฯ แล้ว ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเวลา 16.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน OTOP Midyeay 2013 พลังภูมิปัญญาไทย ก้าวไกลสู่สากล โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ต้อนรับ โดยนายกฯ กล่าวเปิดงานว่า การจัดงานครั้งนี้ตอกย้ำถึงความจริงใจรัฐบาล ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ด้วยการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ตามนโยบายพัฒนาโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้ชุมชนเข้าถึงองค์ความรู้ แหล่งเงินทุน เพิ่มขีดความสามารถการบริหารจัดการ การผลิต การตลาด เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิต และไม่ใช่แค่ขึ้นจำจ่ายห้างสรรพสินค้าภายในประเทศ แต่ต้องขึ้นห้างสรรพสินค้าชั้นนำของโลก เพื่อศักยภาพในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศอย่างมั่นคง

ทั้งนี้ ภายในงานนางอุไร สัจจะไพบูลย์ เจ้าของร้านฝ้ายแกมไหม จ.อุดรธานี มอบชุดราตรีผ้าฝ้ายแกมไหมแบบเบญจวิถี สีคราม แบบเดียวกับ น.ส.เขมนิจ จามิกรณ์ หรือแพนเค้ก ดารานักแสดงชื่อดัง สวมใส่ในการเดินแบบแฟชั่นโชว์ภายในงาน จากนั้น นายกฯได้เดินบูธสินค้าภายในงาน

ต่อมาที่กระทรวงการต่างประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ร่วมงานเลี้ยงรับรอง เพื่อฉลองครบรอบความสัมพันธ์ 180 ปี ไทย-สหรัฐฯ โดยกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯที่ใกล้ชิดและดำเนินมาครบรอบ 180 ปี โดยไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯในเอเชีย ปัจจุบันมิตรภาพยิ่งแน่นแฟ้น ด้วยการยึดมั่นในคประชาธิปไตยและสิทธมนุษยชนร่วมกัน อีกทั้งมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการเป็นหุ้นส่วนที่พัฒนาเติบโต และสร้างประโยชน์ต่อภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯนั้นครอบคลุมหลายมิติ ทั้งด้านความมั่นคง ที่ไทยเป็นพันธมิตรสำคัญใน Non-NATO ของสหรัฐฯ และมีกิจกรรมร่วมกัน เช่น Strategic Dialogue และการฝึกร่วม Cobra Gold ส่วนด้านเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนมีความเข้มแข็ง สหรัฐฯถือเป็นคู่ค้าและนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของไทย และมีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ กว่า 800,000 คน มาท่องเที่ยวไทยในแต่ละปี ขณะที่ด้านการศึกษา ไทยและสหรัฐฯมีความผูกพันธ์อย่างแนบแน่น นักศึกษาไทยจำนวนมากสำเร็จการศึกษาจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ความสำเร็จที่ผ่านมา จะทำให้ไทยและสหรัฐฯ มีความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่พัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้น นอกจากนี้ ไทย สนับสุนการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในภูมิภาค ทั้งกับอาเซียนและหุ้นส่วนอื่นๆ เพื่อสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองยิ่งขึ้นร่วมกัน ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ดังนั้น ไทยจึงยินดีสนับสนุนนักลงทุนสหรัฐฯในสาขา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา และสาขาอื่นๆในไทยและอาเซียน พร้อมทั้ง ยินดีต้อนรับนักลงทุนจากสหรัฐฯในการลงทุนโครงการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมของรัฐบาล และหวังว่าจะได้หารือเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหรัฐฯ และผลประโยชน์ต่อภูมิภาคกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในอนาคตอันใกล้นี้