“บิ๊กตู่” ยันบึ้มหน้ารามฯ ไม่เกี่ยวใต้ แต่อย่าเรียกแขก หยันพวกกุปฏิวัติเขียนเองกลัวเอง

“ประยุทธ์” ยังไม่ได้คำสั่งช่วยตำรวจดูแลพื้นที่พิเศษ ไม่เพิ่มกำลังดูแลกลาโหม ติงอย่าตระหนกจะยิ่งร้อน ยันบึ้มหน้ารามฯ ไม่เกี่ยวไฟใต้ แต่เตือนอย่าเรียกแขก ไล่พวกพูดมือบอมบ์คนมีสีไปหามา ซัดปฏิวัติไร้สาระ ว้ากสื่อให้ความสำคัญทำไม แขวะเขียนเสือจนกลัวเอง สับพิมพ์ให้คนตีกันแล้วเมื่อไหร่ชาติจะสงบสุข

วันนี้ (28 พ.ค.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ประกาศพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ 9 จุดใน กทม. ภายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่บริเวณหน้าซอยรามคำแหง 43/1 ว่า ในส่วนของทหารยังไม่ได้รับคำสั่ง รวมถึงการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทหารไปเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็น 1 ใน 9 จุดเสี่ยงที่ต้องมีการเฝ้าระวังนั้น พื้นที่ภายในของกระทรวงกลาโหมเป็นหน้าที่ของทหารที่มีเวรยามและกองบัญชาการดูแลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องนำทหารออกไปดูแลภายนอก สำหรับบริเวณพื้นที่รอบนอกก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล

“ทั้งนี้คงไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหารในการดูแลกระทรวงกลาโหม เพราะมีเวรยามปกติทำหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว อย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกกันมากนัก เพราะจะยิ่งร้อนกันไปหมด สิ่งต่างๆ ทุกวันนี้ก็ร้อนมากพอแล้ว อย่าไปเร่ง เราต้องทำให้สงบ อย่าตื่นตระหนกและค่อยๆ ติดตามสถานการณ์ ไม่ใช่ระเบิดครั้งหนึ่งก็ถามกันวุ่นวายจนกระทั่งวุ่นไปหมด ขอให้รอเขาสอบสวนและลงความคิดเห็นก่อน ไม่ใช่ไปตั้งข้อสรุปว่าเป็นเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะการสอบสวนยังไปไม่ถึงไหนต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ อย่าใจร้อน ถ้าทุกคนใจร้อน ต่อไปใครมาแหย่หรือมาจุดอะไรก็ระเบิดได้ทุกวัน ก็ไม่ต้องทำงานกัน ทั้งนี้ในส่วนของทหารก็ทำหน้าที่ของทหารอยู่แล้ว ต้องไปดูกฎหมายเขียนไว้ว่าอย่างไร ถ้า พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังไม่ประกาศ ทหารก็ออกไปไม่ได้ ยกเว้นสารวัตรทหาร นอกนั้นต้องอยู่ในที่ตั้ง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นการก่อการร้ายและภาคใต้ออก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทางการข่าวของทหารยังไม่มีเรื่องภาคใต้เข้ามาเกี่ยวข้อง ขอร้องว่าอย่าไปเรียกแขกเพราะเดี๋ยวมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังวิเคราะห์อยู่ว่าใช่หรือไม่ และจากที่ตนได้ติดตามความคืบหน้าทราบว่าชิ้นส่วนการประกอบและลักษณะวัตถุระเบิดก็เป็นคนละแบบกับภาคใต้ ซึ่งต้องไปหากันต่อว่าใครเป็นคนทำ บางข่าวก็ว่าเป็นคนมีสีอีกแล้ว ตนอยากให้ไปหามาว่าเป็นสีอะไร ถ้าเป็นสีเขียวก็จะจับติดคุกให้หมด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการปฏิวัติก็เช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่านำเรื่องอะไรมาพูด เพราะไร้สาระ ใครจะปฏิวัติ ใครจะรัฐประหาร ใครสัญญาหรือไม่สัญญาจะเขียนและให้ความสำคัญกันทำไม ถ้าไม่ไปให้ความสำคัญทุกเรื่องก็คงจะจบแล้ว เขียนกันไปมาจนกระทั่งเขียนเสือและกลัวเสือที่ตนเองเขียน ทั้งนี้ตนอยากให้สื่อเขียนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ลดความขัดแย้ง และเขียนให้สีเสื้อหายไป หันหน้ามาพูดคุยกัน แต่ไปเขียนให้คนตีกันเมื่อไหร่ประเทศชาติจะสงบสุขเสียที พอตนพูดแบบนี้ก็บอกว่าตนเปลี่ยนไป สรุปว่าจะเอาอย่างไร อยากฝากไปถามคนที่เขียนว่าเขียนอยู่ได้ในเรื่องที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงและยังมีคนบางพวกไปเชื่ออีก และก็มาด่าตน ด่าทหารอย่างโน้นอย่างนี้