โฆษก สตช.แถลงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดที่หน้าราม 43/1 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 รายเมื่อคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นพุ่งประเด็นเบื้องต้นมาเฟียหน้ารามขัดแย้งธุงกิจแผงลอยริมฟุตปาธ แต่ยังไม่ตัดประเด็นโจรใต้ขึ้นมาป่วน ชี้ให้ "ผบช.น."ให้ข่าวความคืบหน้าคนเดียว พร้อมแจกเบอร์ - อีเมล์ให้ ปชช.แจ้งเบาะแส รอสรุปอีกครั้ง เรียก ป.-ชุดสืบสวน บช.น.- บก.น.4-หัวหมาก ถกอีกครั้ง 4 โมงครึ่งวันนี้!!!
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (27 พ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.แถลงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดที่ถังขยะบริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 เมื่อเวลา 20.45 น.วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าหลังเกิดเหตุชุดตรวจสอบเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบเหตุพร้อมเก็บหลักฐาน และช่วงเช้า พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นท์ กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เพื่อรับทราบความคืบหน้าคดี โดยหลังเกิดเหตุชุดสืบสวนสอบสวนได้เรียกพยานมาสอบปากคำหลายปาก โดยตั้งประเด็นในการก่อเหตุไว้ 3- 4 ประเด็น ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ได้ในที่เกิดเหตุทั้งสายไฟ กระป๋องน้ำอัดลมยี่ห้อโค้ก เศษโลหะ พยานบุคคล ตลอดจนภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ พล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตรวจสอบแผนประทุษกรรมครั้งนี้เทียบกับเหตุที่เคยเกิดขึ้น เพื่อหาความเชื่อมโยง โดยมอบหมายให้บช.น.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมาทำคดีนี้ ทั้งคณะกรรมการระดับ บช.น. และระดับกองบังคับการตำรวจนครบาล 4(บก.น.4) สำหรับการสืบสวนนั้นนอกจากชุดของ บช.น.และ บก.น.4 แล้ว ให้ตั้งชุดสืบสวนของสน.หัวหมาก เพื่อทำการสืบสวนในรายละเอียดเพิ่มเติมอีกชุดด้วย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่าระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดแรงดันต่ำ ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนที่มีในขณะนี้ให้น้ำหนักประเด็นความขัดแย้งธุรกิจค้าแผงลอย และความขัดแย้งในพื้นที่มากที่สุด แต่ทั้งนี้ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง ทั้งเรื่องก่อกวน หรือกระทั่งการก่อความไม่สงบจากภาคใต้ โดยต้องสืบสวนทุกประเด็นที่เป็นไปได้ ยืนยันว่ายังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด ซึ่งพล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งการชุดสืบสวนสอบสวน ให้ตรวจสอบกล้องซีซีทีวี ในบริเวณดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง ทั้ง 2ฟากถนน ขาเข้า -ขาออก เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ความคืบหน้าในคดีนี้ ขอให้ฟังข้อมูลจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เพียงคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม 16.30 น.วันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคง พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในบช.น. สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ(สพฐ.ตร.) และกองบังคับการปราบปราม เพื่อติดตาม สั่งการในคดีนี้อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการรายงานรายละเอียดของระเบิด อานุภาพ ความเชื่อมโยงเบื้องต้นในที่ประชุมเย็นนี้ด้วย
“ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดมีเบาะแส เกี่ยวกับการก่อเหตุครั้งนี้ให้แจ้งข้อมูลได้ตามช่องทางเหล่านี้ คือ ฝ่ายสืบสวนบก.น.4 โทร 02-3197780 พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 โทร 087-6810303 หรือ ที่ อีเมล์ sanga.g@hotmail.com “ โฆษกตร.กล่าว
นอกจากนี้ ภายหลังมีความชัดเจนเรื่องวัตถุระเบิด ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน เพื่อนำมาเทียบเคียงหาความเชื่อมโยงของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย