เจ้าหน้าที่อีโอดีพร้อม พฐ.ตรวจที่เกิดเหตุระเบิดหน้ารามฯ

เจ้าหน้าที่อีโอดีพร้อมกองพิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุระเบิดหน้ารามฯ 43/1 แล้วพบเศษตะปู เศษกระป๋องเกลื่อน ทำเอาการจราจรหน้ารามคำแหงเป็นอัมพาต ด้านผู้จัดการร้านเสริมสวยที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุเข้าให้การตำรวจหัวหมาก ยันไม่เคยมีศัตรู อัดเทศกิจเก็บส่วยแผงค้าด้านหน้าร้านเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านตำรวจรอดูกล้องวงจรปิดธนาคารกรุงเทพ เชื่อน่าจะได้เบาะแสคนร้ายมากขึ้น ส่วน ผบก.น.4 ปิดปากเงียบหลังมีคำสั่งให้ ผบช.น.ให้ข่าวเพียงคนเดียว


วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) บก.สปพ.พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณหน้าร้านตัดผมออกัส บริเวณปากซอย 43/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากเกิดเหตุระเบิดบริเวณแผงขายของเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 พ.ค.) จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเศษตะปู เศษกระป๋องเหล็ก ที่คาดว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องแรงดันต่ำ ใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งทำให้การจราจรบริเวณโดยรอบติดขัดเป็นอย่างมากในช่วงเช้า อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก อยู่ระหว่างการประสานกล้องวงจรปิดบริเวณหน้า ธ.คารกรุงเทพ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดที่ทำให้คนร้ายนำระเบิดมาวางไว้ได้ เพื่อเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. โดย พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.สาโรซ ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่กองปราบปรามเดินทางมาที่ สน.หัวหมากเพื่อเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีระเบิดบริเวณดังกล่าว เพื่อเตรียมเข้าร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในช่วงบ่ายวันนี้เวลาประมาณ 16.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด

จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. นายภาณุเมศวร์ ศรแสง ที่อยู่ 59 หมู่ 8 ตำบลคลองทับจันทร์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ตำแหน่งผู้จัดการร้านตัดผมออกัส เป็นตัวแทนเจ้าของร้านได้เดินทางมาที่ สน.หัวหมาก เพื่อลงบันทึกประจำวันแจ้งรายละเอียดทรัพย์สินที่เสียหายภายในร้านต่อพนักงานสอบสวน ภายหลังได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อแจ้งถึงทรัพย์สินที่เสียหายภายในร้านมีเพียงกระจกด้านหน้าร้านจำนวน 10 บาน ที่แตกตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ถึงชั้นที่ 3 เป็นทางยาวลงมา มูลค่าความเสียหายประมาณร่วมแสนบาท ส่วนภายในร้านด้านล่างมีชั้นกั้นโทรศัพท์วางไว้จึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก โดยร้านออกัสนั้นได้เปิดมาเป็นเวลานานร่วม 20 ปี จะเปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น.ของทุกวัน ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนเลยถือว่าเป็นครั้งแรกรู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันดูรุนแรงถึงขั้นชีวิต ทางร้านก็ไม่ทราบสาเหตุถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะส่วนตัวแล้วทางด้านเจ้าของร้านไม่เคยมีเรื่องหรือขัดแย้งผลประโยชน์กับใครทั้งสิ้น มีสัญญาการเช่าร้านที่ถูกต้องมาเป็นระยะยาวนาน ส่วนทางด้านหน้าร้านแผงเช่าริมฟุตปาธก็เป็นของทางเจ้าหน้าที่เทศกิจที่ตกลงเก็บค่าเช่ากันเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับทางร้านของตนแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางร้านได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้เพียง 4 ตัวบริเวณชั้น 1 เท่านั้น แต่กล้องจะหันภาพไปด้านในร้านเท่านั้น ไม่ได้ติดตั้งกล้องหันออกมาทางด้านนอกร้านจึงทำให้ไม่สามารถนำภาพมาตรวจสอบเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ได้ มีเพียงกล้องจากทางธนาคารกรุงเทพฯ เท่านั้นที่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ หลังจากแจ้งความลงบันทึกประจำวันถึงมูลค่าทรัพย์สินที่เสียหายไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวนรับเรื่องดังกล่าวไว้แล้วขอเวลาการตรวจสอบเสียก่อน หากมีความคืบหน้าจะติดต่อทางร้านให้มาพบอีกครั้ง

ทางด้าน พ.ต.ท.ธารา เครือละม้าย สว.สส.สน.หัวหมาก กล่าวว่า ล่าสุดได้มีการสอบสวนพยานไปแล้วจำนวน 8 ราย ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บจากเหตุถูกสะเก็ดระเบิดจำนวน 5 รายที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่สามารถเดินทางมาให้ปากคำที่ สน.ได้แล้ว นอกจากนี้เป็นพนักงานเก็บขยะของสำนักงานเขตบางกะปิ จำนวน 2 คน ซึ่งจะมาเก็บขยะช่วงเวลาประมาณตี 3 หลังจากเกิดเหตุเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาให้การว่าไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด และรายล่าสุดนายภาณุเมศวร์ ศรแสง ผู้จัดการร้านออกัส ที่เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ทางฝ่ายสืบสวนได้เชิญมาสอบปากคำเบื้องต้นเพื่อนำมารวบรวมพยานหลักฐานประกอบในคดี ส่วนภาพวงจรปิดต้องรอประสานจากทางธนาคารเสียก่อน ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่อย่างเต็มกำลังในการหาข้อมูลคนร้ายเพื่อเร่งไล่ล่าผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว