xs
xsm
sm
md
lg

“หมอประเวศ” นัดถกสมัชชาปฏิรูปฯ ก่อนส่งไม้ต่อยกเครื่องประเทศไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.ประเวศ วะสี(ภาพจากแฟ้ม)
“หมอประเวศ” เตรียมจัดประชุมสมัชชาปฏิรูปครั้งที่ 3 ปลายเดือนนี้ กำหนด 7 วาระ หายุทธการ “ส่งไม้ต่อ” เสนอรัฐบาลยกเครื่องประเทศร่วมกันไม่แบ่งสี ด้านภาคีเครือข่าย 26 จังหวัดภาคกลาง จัดขบวนแห่ “ผ้าพลังพลเมือง” ผนึกกำลังร่วมปฏิรูปประเทศไทย

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานกรรมการสมัชชาปฏิรูป เปิดเผยว่า จะมีการจัดประชุมสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. ถึง 2 มิ.ย. เพื่อหาข้อสรุปในการเสนอแนวทางรัฐบาลในการปฏิรูปประเทศไทย โดยมี 7 วาระคือ 1.ธรรมนูญเพื่อการจัดการตนเอง 2.เพิ่มพลังพลเมือง ปฏิรูประบบป้องกันและปราบปรามการทุจริต 3.การปฏิรูประบบพลังงานหมุนเวียน : สิทธิ การเข้าถึง และความเป็นธรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 4.พลังพลเมืองปฏิรูปสื่อเพื่อการปฏิรูปสังคม 5.ปฏิรูปกลไกขับเคลื่อนความเสมอภาคระหว่างเพศเสริมพลังพลเมืองสู่การปฏิรูปประเทศไทย 6.การบริหารจัดการน้ำและแก้ไขอุทกภัยอย่างมีส่วนร่วม และบูรณาการ และ 7.กลไก และกระบวนการในการปฏิรูปประเทศไทยระยะยาว

“เวทีสมัชชาครั้งนี้เป็นการขับเคลื่อนเต็มสูบเพื่อปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย โดยดึงทุกภาคส่วนเข้าร่วม มุ่งแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม พร้อมยุทธการส่งไม้ต่อเพื่อการปฏิรูปประเทศระยะยาว หวังเป้าหมายสูงสุดคือ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในอนาคต พร้อมยืนยันว่า การประกาศเจตนารมณ์เป็นการแสดงทิศทาง และอุดมการณ์เป็นการประกาศจุดยืนร่วมกัน ไม่มีการคิดแบ่งแยก หรือเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายไหนทั้งสิ้น การปฏิรูปประเทศไทยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และความไม่เป็นธรรมในสังคม พวกเราต้องมาช่วยกัน ร่วมกันทำงานให้ต่อเนื่อง เมื่อเชื่อมกันแล้วจะได้มีพลังเพิ่มขึ้น เอาพลังต่างๆ เข้ามาเชื่อมต่อกับการเรียนรู้ นำมาขับเคลื่อนทำให้ต่อเนื่อง”

ด้านภาคีเครือข่าย 26 จังหวัดภาคกลาง ได้มีการจัดกิจกรรมแสดงพลังร่วมคิดร่วมปฏิบัติเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยปลุกเสกเจิมผ้าสมัชชาปฏิรูปเอาฤกษ์เอาชัย ขบวนแห่ “ผ้าพลังพลเมือง” จากอนุสาวรีย์วีรชนถึงหอประชุมองค์การบริหารส่วน จ.สิงห์บุรี เพื่อรวมพลังพลเมืองภาคกลาง กำหนดประเด็นร่วม และพร้อมประกาศปฏิญญาบางระจันนำสู่การปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ก่อนเข้าร่วมงานสมัชชาปฏิรูประดับชาติ

ดร.กาสัก เต๊ะขันหมาก ประธานคณะทำงานเครือข่ายสมัชชาปฏิรูปภาคกลาง กล่าวว่า งานปฏิรูปเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องร่วมใจก้าวไปด้วยกันเพื่อให้เกิดพลังทางสังคม สร้างพลังพลเมือง โดยต้องทำให้เป็นรูปธรรม ที่สำคัญที่จะก่อให้เกิดความยั่งยืน เป็นการรวมพลังจากคนทั้งประเทศสามารถสร้างความเชื่อมโยงได้ต่อไปหลังจากนี้ มีการเคลื่อนไหวสานต่อเป็นเนื้อเดียวกัน การทำงานให้สำเร็จนั้นต้องมีคาถาทั้ง 5 ประการ คือ ก.กิจกรรม ต้องมีการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง ข.ข้อมูล ต้องมีความรู้ข้อมูลมาเป็นพื้นฐานในการเคลื่อนไหว ค.เครือข่าย การปฏิรูปต้องทำเป็นกลุ่ม ต้องหาเพื่อน มีเครือข่ายถึงจะสำเร็จ ง.งบประมาณ ต้องมีงบประมาณในการขับเคลื่อน จะได้มีการทำงานที่ต่อเนื่อง จ.หัวใจ การปฏิรูปต้องจริงจังและจริงใจ มีการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องจึงจะสำเร็จ

ด้านนางรัตนา สมบูรณ์วิทย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสมัชชาปฏิรูปภาคกลาง กล่าวว่า เราได้ดำเนินงานกิจกรรม “39 วัน ปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย” พร้อมกันทุกเครือข่ายทั้งในระดับส่วนกลาง และในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อร่วมนับถอยหลังเข้าสู่งานสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 3 มีการเตรียมการรณรงค์เชิงสัญลักษณ์ด้วยขบวน “ผ้าพลังพลเมือง” ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในสังคมได้ร่วมแสดงพลัง และความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยโดยจารึกข้อความลงบน “ผ้าพลังพลเมือง” นี้

“เราจะใช้จังหวัดสิงห์บุรีเป็นหลัก เหมือนเช่นในอดีตที่ค่ายบางระจันไม่เคยยอมแพ้ รวมพลังกันปกป้องบ้านเมือง พวกเราทั้งหลายก็มีหน้าที่ปกป้องประเทศไทยของเราเช่นกัน รวมพลังทุกจังหวัดในภาคกลาง มาหนุนช่วยให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทยให้ได้ ทางเครือข่ายสมัชชาปฏิรูปภาคกลาง 26 จังหวัด ได้ดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างมติขับเคลื่อนขบวนรณรงค์ “ผ้าพลเมือง” และมีมติร่วมกันจัดงาน รวมพลังพลเมืองภาคกลาง “นักรบ นักสู้ วีรชนคนภาคกลาง สู่การปฏิรูปประเทศไทย” นางรัตนากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น