xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” เปิดวันแรงงาน ขอบคุณร่วมสร้างความเจริญ ดันไทยใช้ฝีมือทั้งระบบให้ทัน AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ เปิดวันแรงงานแห่งชาติที่สนามหลวง ขอบคุณแรงงานมีส่วนสร้างความเจริญ ชูค่าแรง 300 จุดเริ่มรายได้เพิ่มพูนขั้นพื้นฐาน ยันรัฐหวังเห็นทำงานปลอดภาวะเสี่ยง ปราศจากการค้ามนุษย์ ไม่ถูกเอาเปรียบ ใช้แรงงานเด็ก ขนต่างด้าวผิดกฎหมาย พล่ามยกอาเซียนพัฒนาทักษะคุณภาพ หวังเป็นประเทศใช้แรงงานฝีมือทั้งระบบ

วันนี้่ (1 พ.ค.) ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2556 พร้อมกล่าวเปิดงานวต่อผู้ใช้แรงงานระบุว่า แรงงานทุกคนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศมายาวนาน ซึ่งในปี 2554-2555 เศรษฐกิจซบเซาจากปัญหาอุทกภัยแต่ขณะนี้เศรษฐกิจดีขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงต้นปียังมีความเสี่ยงเรื่องการเลิกจากซึ่งเป็นผลกระทบจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แต่รัฐบาลได้มีนโยบายบรรเทา เช่นมาตราการด้านภาษี การปรับลดเบี้ยประกันสังคมขณะที่ปัญหาด้านสุขภาพแรงงานรัฐบาลได้บูรณาการ 3 กองทุน เข้ารวมกันเพื่อความสะดวกในการรักษาพยาบาล ส่วนปัญหาแรงงานนอกระบบจะมีการจัดทำข้อมูลเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทั้งนี้แรงงานที่อยู่ต่างประเทศ รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือในการคุ้มครองสิทธิ การทำสินเชื่อ และขอความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย

พร้อมกันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับข้อเสนอของผู้ใช้แรงงานทั้งหมดโดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ก่อนจะกดปุ่มปิดงานวันแรงงานอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้ออกอาการคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ โดยระบุว่าในนามของรัฐบาลขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกสาขาอาชีพและครอบครัว และขอขอบคุณพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความเจริญมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาโดยตลอด มา ณ โอกาสนี้ด้วยรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย โดยรัฐบาลต้องการเห็นผู้ใช้แรงงานทุกประเภทได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า มีการพัฒนาศักยภาพ และทักษะที่หลากหลาย เพื่อให้รายได้นั้นเพิ่มพูน โดยนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาลที่ประกาศใช้ทั้งประเทศมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นขั้นพื้นฐานที่จะต้องเติบโตต่อไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในขณะเดียวกันรัฐบาลต้องการเห็นการทำงานที่ปลอดจากสภาพที่เลวร้ายหรือเสี่ยงอันตราย ประเทศไทยต้องปราศจากการค้ามนุษย์ การเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงาน การใช้แรงงานเด็ก หรือการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมาย ทุกคนต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิแรงงานตามกฎหมาย ได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม และได้ทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัยทั้งนี้ประเทศไทยกำลังเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รัฐบาลจึงต้องยกระดับคุณภาพแรงงานให้มีทักษะสูงขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้แรงงานฝีมือทั้งระบบ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ และเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จึงเชื่อว่า ความสามารถของแรงงานไทยไม่แพ้ชาติอื่น ความอดทน มุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร พัฒนาตนเองจะทำให้เราก้าวไปด้วยกัน เพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้ใหม่สำหรับคนไทยทุกคน

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ตนและรัฐบาลขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ อีกทั้งพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานและพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านจงประสบแต่สิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล เป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองตลอดไป

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้านายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้นำองค์กรแรงงานและตัวแทนแรงงานจากภาคส่วนต่างๆ ร่วมพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์ 9 รูป ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ จากนั้นกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่อยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ได้ตั้งขบวนเดินไปยังท้องสนามหลวง เพื่อร่วมงานวันแรงงานแห่งชาติ

โดยนายชินโชติ แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทยได้เสนอข้อเรียกร้องตามที่ผู้ใช้แรงงานต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดนแร่งด่วนมีจำนวน 11 ข้อต่อนายกรัฐมนตรี ได้แก่1. ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 982. ออกกฎหมายตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้แก่ลูกจ้างที่ตกงานเพราะโรงงานผิดกิจการ โดยไม่จ่ายค่าชดเชย3. ให้รัฐบาลยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้กรณีค่าชดเชยของลูกจ้างเอกชน และเงินตอบแทนของพนักงานรัฐวิสาหกิจฯ4. ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไข พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานกรรมการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2550 ให้มีการมาตรฐาน เดียวกับข้าราชการพลเรือน

5. ผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจและยุติการแปรรูปหรือยุบเลิกรัฐวิสาหกิจ 6. ให้รัฐบาลเร่งตรา พ.ร.ฎ.สถาบันความปลอดภัยฯ7. ปฏิรูประบบประกันสังคมและเพิ่มสิทธิประโยชน์ รวมทั้งยกระดับสำนักงานประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ8. จัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็ก และศูนย์เก็บน้ำนมแม่ในโรงงาน โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้9. แก้ไขพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 59 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงในวันลาเพื่อ ตรวจรักษาสุขภาพก่อนคลอดบุตร และคลอดบุตรเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 90 วัน และให้ ลูกจ้างซึ่งเป็นชายมีสิทธิลาเพื่อดูแลภรรยาในการคลอดบุตรได้ 15 วันโดยได้รับค่าจ้าง และมาตรา 118 ให้นายจ้าง จ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างเป็น 2 เท่าจากเดิมที่บัญญัติไว้10. ออก พ.ร.ฎ. การจัดเก็บเงินสะสม และเงินสมทบ เพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และ11. ตั้งคณะทำงานติดตาม และประสานงานข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติปี พ.ศ. 2556
















กำลังโหลดความคิดเห็น