รองเลขาฯ ภูมิใจไทย เผยที่ประชุมพรรคเชิญสำนักงบฯ แจงเตรียมความพร้อมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบปี 57 พุธนี้ ส่ง 15 ส.ส.จ้อ เน้นที่เกี่ยวกับแก้น้ำและกู้ 2 ล้านล้าน สุดซ้ำซ้อน จ่อซักงบเด็กสตรีคนชราได้น้อยเกิน ยังกั๊กมติรับหลักการหรือไม่ “บุญจง” แฉเพิ่มงบกรมสรรพสามิต 3 หมื่นล้าน ชดเชยรถคันแรก เชื่อยุบโรงเรียนซื้อรถตู้หวังงาบส่วนต่าง 30% เชื่อสุดท้ายภาระอยู่ที่ชาวบ้าน
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่พรรคภูมิใจไทย เมื่อเวลา 13.00 น. นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคที่มีนายชัย ชิดชอบ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุมโดยพรรคได้เชิญเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณมาร่วมชี้แจงด้วย เนื่องจากในวันพุธที่ 29 พ.ค.นี้ จะมีการเปิดประชุมสภาวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ซึ่งพรรคมีมติส่ง ส.ส.ร่วมอภิปราย 15 คน ภายใต้กรอบเวลาที่ได้รับ 2 ชั่วโมง 30 นาที สำหรับประเด็นหลักที่พรรคจะอภิปราย คือ การจัดงบประมาณรายจ่ายในส่วนงบลงทุนที่อาจเกี่ยวข้องกับการกู้เงินมาแก้ปัญหาเรื่องน้ำ และงบเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งพรรคเห็นว่าหลายเรื่องมีความซ้ำซ้อน รวมถึงงบที่ตั้งไว้ปีก่อนไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต นอกจากนี้พรรคจะซักถามถึงงบประมาณของเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ ที่อยู่ในหลายหน่วยงาน แต่กลับได้งบเพียง 2,350 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งงบที่แปลกประหลด โดยเฉพาะในส่วนของผู้สูงอายุซึ่งน้อยเกินไป พร้อมกันนี้พรรคกำลังศึกษาด้วยว่ามีงบไปกระจุกอยู่ในส่วนใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวันนี้พรรคยังไม่มีมติว่าจะรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯหรือไม่ แต่จะเปิดโอกาสให้ ส.ส.ของพรรคอภิปรายอย่างเต็มที่
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พบถึงความล้มเหลวการใช้เงินของรัฐบาล โดยเฉพาะการตั้งงบให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังที่มีจำนวน 4.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 หมื่นกว่าล้านบาท จากงบประมาณปี 2556 ที่ตั้งไว้เพียง 9.8 พันล้านบาท เพื่อนำมาชดเชยโครงการรถคันแรกของรัฐบาล ถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่นำเงินภาษีของคนที่ไม่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ แต่ต้องมาช่วยอุดหนุนโครงการประชานิยมของรัฐบาล อีกทั้งยังพบการจัดซื้อรถตู้ 1,000 คัน ใช้งบกว่าพันล้านบาทของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ปัญหายุบโรงเรียนขนาดเล็ก เพราะนอกจากเสียงบประมาณดังกล่าวแล้ว อนาคตยังต้องเสียค่าน้ำมัน ค่าจ้างคนขับ และค่าบำรุงรักษาอีกจำนวนมาก จึงสันนิษฐานได้ว่า การตั้งโครงการนี้เพื่อหวังค่าส่วนต่าง 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแตกต่างจากบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ยังมากล้าจัดซื้อรถแล้วมาใช้วิธีจ้างแทน เพราะไม่มีภาระผูกพัน
“วันนี้ประเทศชาติอันตรายมาก เมื่อดูหนี้สาธารณะซึ่งขณะนี้มีมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นงบเงินกู้ในประเทศ 3.4 ล้านล้านบาท ต่างประเทศ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งไม่รวมงบเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท และงบน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งต่อไปภาระดังกล่าวจะตกมาที่ประชาชน เพราะรัฐบาลก็จะรีดภาษี ขยายภาษี เพื่อมาใช้เงินต้นเงินดอก และข้าวของต่างๆ ก็จะมีราคาแพง” นายบุญจงกล่าว