ประธาน กบอ.เสียงอ่อยรับประชุมน้ำโลกไม่เป๊ะ โบ้ยพีอาร์สุดห่วย โวย ขรก.กรมน้ำไม่เก่งจริงทำเสียโอกาสในวงประชุม ระบุประมูล 3.5 แสนล้านยังอ่านเอกสารไม่จบ ยันโมดูลไหนไม่ผ่านเกณฑ์ล้มโต๊ะทันที แหยง ป.ป.ช.ตั้งท่าเล่นงาน ปัดถก ปธน.เกาหลี ฮั้วประมูลโครงการ อีกด้านตั้งคณะกรรมการดูแล โครงการปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา
วันนี้ (23 พ.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) โดยที่ประชุมเห็นชอบและอนุมัติแผนปฏิบัติการโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูบำบัดป่าต้นน้ำ และโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินีฯ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 12 ส.ค. 55 ตามโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าและดิน ฝายแม้ว ในกิจกรรมการปลูกป่ารายจังหวัด ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ได้มีมติตั้งคณะกรรมการเพื่อมากำกับดูแลโครงการนี้ให้ชัดเจนและโปร่งใสต่อไป และ กบอ. จะนำโครงการดังกล่าวเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการในสัปดาห์ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมให้ความเห็นชอบเรื่องการขยายเวลาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟูและป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ โดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติเห็นชอบในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในโครงการจัดหาภาชนะเก็บกักน้ำ ถังบรรจุน้ำขนาดกลาง วงเงิน 316,400,000 บาท เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ประสบภัยแล้งระดับรุนแรง จำนวน 15 จังหวัด ทั้งนี้งบประมาณได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณแล้ว
รวมถึงที่ประชุมเห็นชอบตามที่การประปาส่วนภูมิภาคเสนอขอเปลี่ยนแปลง โครงการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2556 และที่ประชุมได้รับทราบถึงกรอบวงเงิน โครงการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ปี 2557 ของการประปาส่วนภูมิภาค โดยให้นำเสนอแผนงานและรายละเอียดโครงการฯผ่านคณะอนุกรรมการวิชาการและวิเคราะห์โครงการฯ ซึ่งมี ดร.อภิชาติ อนุกูลอำไพ เป็นประธาน ก่อนนำเสนอที่ประชุม กบอ. เพื่อพิจารณาในคราวต่อไป
นายปลอดประสพให้สัมภาษณ์ถึงการจัดประชุมผู้นำด้านน้ำเอเชียแปซิฟิก ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เราควรจะฉกฉวยผลประโยชน์มากกว่านี้ รู้สึกผิดหวังกับงานประชาสัมพันธ์ที่ยังขาดข้อมูล ส่วนการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนก็ทำไม่เต็มที่ เพราะการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องของเทคนิค และผู้จัดไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ จึงไม่รู้ว่าจะดึงอะไรออกมา ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการจัดประชุมครั้งนี้ยังมีข้อบกพร่องนั้นก็ยอมรับ แต่ที่ระบุว่าไปให้จ้างบริษัทออร์แกไนซ์จัดวิชาการนั้นไม่ใช่ เพราะมีการแบ่งเป็น 43 หัวข้อ แต่ละหัวข้อจะมีเจ้าภาพ ซึ่งไม่มีเอกชนเลย เป็นเรื่ององค์กรระหว่างประเทศทั้งหมด เช่น FAO และ UNESCO เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเทคนิคทั้งหมด ฉะนั้นคนที่มารับผิดชอบแต่ละหัวข้อจะเป็นนักวิชาการระดับโลกทั้งสิ้น
“ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะการเชื่อมต่อด้านข้อมูลข่าวสาร เพราะคนที่มาประชุมเป็นระดับสูง และไม่มีคนประสานงาน ปกติการประชุมระดับโลกที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นฝ่ายประสานและประชาสัมพันธ์ แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องทางด้านเทคนิค จึงอาจจะทำไม่ได้เพราะเข้าไม่ถึงข้อมูล” นายปลอดประสพให้เหตุผล
นายปลอดประสพกล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องที่นักวิชาการของเราที่เข้าไปแต่ละหัวข้อ ยังสู้เขาไม่ได้ และนักวิชาการไทยที่เป็นข้าราชการที่จะมาจากกรมน้ำ ความเชี่ยวชาญยังไม่ถึง ซึ่งก็คงต้องปรับปรุงกัน เพราะความรอบรู้เรื่องน้ำของเรายังด้อยกว่าต่างประเทศ
“เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าเราต้องปรับปรุงตัวเอง ความรู้ทางวิชาการของเรายังห่างไกลกับเขาเหลือเกิน เวลาเข้าที่ประชุม อย่างเรื่องภาษาของเราก็มีปัญหาไม่สามารถไปถกแถลงในที่ประชุมได้ ไม่สามารถที่จะหยิบยกประเด็นในประเทศไปถกเถียงได้ ประเด็นของเราก็เลยไม่ออกมา” นายปลอดประสพกล่าว
ประธาน กบอ.ยังได้กล่าวถึงการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลว่า ยืนยันว่าจะไม่มีการวิ่งเต้นเพื่อให้ชนะการประมูล และการประมูลตนไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ส่วนการดำเนินการขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดูรายละเอียดเนื้อหาของแต่ละบริษัทที่เสนอมา โดยมีเจ้าหน้าที่กว่า 40 คน อ่านรายละเอียด 16 ชั่วโมงต่อวัน และเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะส่งรายละเอียดไปยังนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย เพื่อพิจารณาและให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทไหนได้คะแนนเกิน 80 จะผ่านการประมูลด้านเทคนิค ถ้าไม่เกิน 80 คะแนนจะตก
“ถ้าใครได้เกิน 80 คะแนนและได้ที่หนึ่งก็มาเจรจา เพื่อเปิดซองราคาว่าอันนี้แพงไป เทคนิคอย่างนี้ไม่ได้ ต้องว่าไป ถ้าเจรจากันได้ก็ได้ไป แต่หากไม่ได้ก็เอาบริษัทที่อยู่ในลิสต์ขึ้นมา” นายปลอดประสพอธิบาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากบริษัทที่จะดึงขึ้นมาในลำดับถัดไปในโมดูลเดียวกันได้ไม่ถึง 80 คะแนน จะทำอย่างไร ประธาน กบอ.กล่าวว่า จะตกไปเลย ต้องเริ่มใหม่ ส่วนที่ในโมดูลมีเพียง 2 บริษัทแล้วบริษัทแรกได้เกิน 80 แต่เจรจาเรื่องราคาไม่ได้ และบริษัทรองลงมาได้ไม่เกิน 80 คะแนนอีก ก็จะไม่ดึงใครขึ้นมา จะเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น ทั้งนี้การจะเริ่มต้นใหม่จะใช้แบบไหนนั้นมีหลายอย่าง อาทิ ให้กรมชลประทานไปออกแบบ หรืออาจจะจ้างบริษัทที่ปรึกษาไปออกแบบให้เสร็จ แต่ยืนยันว่าจะไม่ทำด้วยวิธีพิเศษแน่นอน เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรุณาตั้งอนุกรรมการรอไว้แล้ว พวกตนจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด
สำหรับความคืบหน้าการใช้งบประมาณตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าต้องกู้เงินให้ทันกำหนดก่อน 30 มิ.ย.นี้นั้น นายปลอดประสพกล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีอายุอีก 5 ปี ยังไม่หมดอายุตามที่เข้าใจ โดยขณะนี้ได้ใช้ไปแล้ว 5 หมื่นกว่าล้านบาท ในส่วนของกระทรวงคมนาคมใช้เป็นหลัก และในการประชุม กบอ.วันนี้จะมีการอนุมัติให้กับกรมป่าไม้ในการดำเนินโครงการปลูกป่า ดังนั้นเงินส่วนนี้ไม่มีปัญหา เพราะได้ใช้ไปแล้วและมีเวลาใช้อีก 5 ปีนับจากนี้ และไม่มีการกู้ยืมเงินมากองไว้ให้เสียดอกเบี้ย จะอนุมัติเท่าที่ต้องใช้ โดยยืนยันว่าไม่มีการเอาเงินไปกองไว้ที่ไหน
ส่วนการเข้าพบเพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ระหว่างเดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำทางด้านน้ำที่ จ.เชียงใหม่นั้น ประธาน กบอ.กล่าวว่า ไม่ได้มีการหารือในเรื่องการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ แต่เป็นการหารือการบริหารจัดการน้ำในภาคตะวันออก ตนขอให้เกาหลีใต้ส่งทีมมาศึกษา โดยที่ประเทศไทยไม่มีค่าใช้จ่ายให้ ทั้งค่าจ้างและค่าพัฒนา ว่าจะทำอย่างไรให้เขื่อนฝั่ง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่สร้างมากว่า 3,000 ล้านบาทใช้ได้ เป็นการขอให้เขามาศึกษาวิชาการภาคตะวันออกไม่เกี่ยวกับงบ 3.5 แสนล้านบาทอย่างที่เข้าใจกัน