xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ซัด “แม้ว” โลภทำบ้านเมืองวุ่น - จวกปรองดองเหลิมส่งเสริมเผาเมืองอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“อภิสิทธิ์” ชี้ลางร้าย กม.ปรองดองฉบับ “เหลิม” เปิดทางไม่พอใจเผาได้ ยิงได้ เอี่ยวการเงินส่อเอื้อทักษิณ แนะจับตา “ยิ่งลักษณ์” พิสูจน์ธาตุแท้เซ็นเข้าสภา เล็งทำหนังสือดักคอกัน “ปู” ชิ่งแอ่วนอก อ้างหนูไม่รู้ ฟุ้งโดน “ธาริต” กลั่นแกล้ง แต่ไม่เคยหนีศาล ไม่ส่งลิ่วล้อกดดัน วอน “แม้ว” ใช้บรรทัดฐานเดียวกัน ยันบ้านเมืองวุ่นเพราะคนครอบครัวเดียว คนๆ เดียวไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักยอมรับว่าตัวเองทำผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีประชาชน “เดินหน้าผ่าความจริง หยุดล้มรัฐธรรมนูญ-ออกกฎหมายล้างผิดคนโกง” ที่โรงเรียนวัดพรหมสาคร ถ.ธรรมโชติ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ว่า ผมพยายามติดตามการถ่ายทอดสดก่อนที่จะมาถึง ก็ทราบว่าถ่ายทอดสดไม่ได้ แล้วก็พยายามให้เขาติดต่อสอบถามมาว่าที่เวทีเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างที่คุณสาทิตย์ได้พูดไปเมื่อสักครู่ ว่าพี่น้องที่มีความตั้งใจจะมาแสดงพลังเพื่อความถูกต้องในบ้านในเมือง ต้องเจอกับปัญหาว่าไม่สามารถเดินทางเข้ามาตามปกติได้ เพราะมีกลุ่มคนซึ่งมาปิดถนน แต่ตรงนี้ ค่ำนี้ ตอนนี้ พี่น้องมากันเต็ม เก้าอี้ที่เตรียมไว้ไม่พอ แสดงให้เห็นว่าความถูกต้องมีพลังเหนือสิ่งอื่นใด ใครทำอะไรไม่ถูกไม่ต้อง เดี๋ยวต้องรับกรรมกันไป ใครทำให้สัญญาณ Tnews กลับบ้านไม่ได้ มันจะไม่ได้กลับบ้านเหมือนกัน หรือถ้าไม่ใช่มัน ก็พ่อมันกลับบ้านไม่ได้ รอคอยกลางทะเลก่อน

ส่วนแกนนำเมื่อสักครู่ ผมก็เห็นคุณสาทิตย์ไปอ่าน แล้วบอกจะไปแจ้งความ ผมก็ไม่แน่ใจว่ายุคนี้จะดำเนินคดีสำเร็จหรือไม่ เพราะว่า ที่จริงแล้วเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาหลายเวที มีการไปแจ้งความดำเนินคดีแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นความคืบหน้าในการดำเนินคดีเท่าไหร่ เหตุการณ์ที่แล้วสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็ไปติดตามความคืบหน้าของคดี ผมจะให้สาทิตย์ไปหมดเลย ทั้งขอนแก่น ทั้งเชียงราย ทั้งพะเยา ไปตามคดี ตกลงมั้ย แต่ว่าถ้ารับโทษทางกฎหมายไม่ได้ ก็ลงโทษกันทางสังคมก็แล้วกัน พอดีอ่านชื่อไปแล้วใช่มั้ย มีขายผ้า ขายขนมครก อันนั้นก็ต้องไม่อุดหนุน ส่วนที่ขายตัว ให้มันเก็บไว้ใช้เอง สำหรับที่เหลือตอนนี้ ถึงบอกไม่ใช่คนสิงห์บุรีแล้ว มาจากปทุมธานี เจ้าเก่าครับ ที่ไปป่วนเวทีนั้น เวทีนี้ พวกภาคกลาง .. ไม่ต้องไปเอ่ยชื่อหรอกครับ เป็นที่ทราบกันดี แต่เราอยากจะยืนยันว่า อย่างนี้แหละครับที่มันฟ้อง ฟ้องว่าไอ้คนที่พูดไปทั่วโลก ปากพร่ำบอกว่าเป็นตัวแทนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่จิตใจจริงๆ เป็นเผด็จการ 100%

คุณสาทิตย์ พูดไปแล้ว ขนาดพี่น้องเดือดร้อนจากน้ำท่วม ไปชุมนุมทำผิดกฎหมาย ถูกดำเนินคดีหมด ล่าสุดอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่น้องติดตามข่าวใช่มั้ยครับ มีกลุ่มพี่น้องประชาชนอยากจะไปใช้สิทธิ เสรีภาพ แสดงออกในเรื่องปัญหาน้ำที่จะมีการจัดประชุมนานาชาติ ที่เชียงใหม่ แต่ปลอดประสพบอกว่า คนเหล่านั้นเป็นขยะ ไม่มีที่ให้ชุมนุม มีแต่คุกที่จะยัดเข้าไป ผมขอเชิญคุณปลอดประสพมากวาดขยะแถวนี้ เพราะถ้าหากบอกว่าเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ ดูสิครับ ขนาด อ.แก้วสรร ของผมวันนี้ กว่าจะเดินทางมานี่ เปิดตำรากฎหมาย ดูเอกสารการทำงาน พอต้องปีนรั้วเข้ามา ทั้งๆ ที่ลืมหมดเลยครับ แล้วบ้านเมืองก็จะมีแต่เรื่องวุ่นวาย ทะเลาะ เบาะแว้ง ขัดแย้งกันไม่จบไม่สิ้น

ผมบอกกับพี่น้องครับ ความจริงแล้วสังคมส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหา ผมเดินทางไปที่ไหนเจอหลายคน ทุกคนวิตกกังวล ถามผมอยู่เรื่อยว่า บ้านเมืองเรา การเมืองเรา เมื่อไหร่มันจะสงบเรียบร้อย เมื่อไหร่มันจะจบเสียที ทุกคนที่ถาม ถามด้วยจิตใจที่ห่วงใยอนาคตของบ้านเมือง ผมก็บอกเขาว่าทุกคนที่มาถามผมนั้น เวลาไปคุยกันเอง เวลาไปเจอผู้คนในหน้าที่การงาน อยู่ที่บ้าน ถามว่ามีใครบ้างล่ะครับ ที่ไม่อยากให้บ้านเมืองสงบ ทุกคนก็ยืนยันเหมือนกันหมดว่า อยากให้บ้านเมืองสงบ อยากให้การเมืองเข้าสู่มาตรฐาน อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเดินหน้าไปได้ เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน

ผมก็บอกเขาว่า นั่นไงล่ะครับ คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาจริงๆ แต่มีคนอยู่กลุ่มเดียว ที่สร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองไม่จบไม่สิ้น เพราะความโลภ เพราะความไม่พอ เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา สถาบันพระปกเกล้า จัดเวทีประชาเสวนา สถาบันนี้เขามีความเชี่ยวชาญ เรื่องนี้ครับ รัฐบาลนั้นเวลานี้บอกกำลังจะไปทำประชาเสวนา อยากฟังความคิดเห็น เรื่องการปรองดอง เรื่องอะไรต่อมิอะไร มาขอให้สถาบันพระปกเกล้าส่งคู่มือไปให้ สอนเขาว่าจะต้องทำอย่างไร สถาบันพระปกเกล้า เผอิญผมเป็นกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้าโดยตำแหน่ง ผมก็เลยไปสังเกตการณ์ว่าที่พี่น้องประชาชนมาประชาเสวนานี่ เขาจะทำกันอย่างไร ผมไปใช้เวลาอยู่ค่อนวัน แล้วผมไปสอบถามเขา และผมได้เห็นความจริง สถาบันพระปกเกล้าจะเชิญคนมาประชาเสวนา ไม่ใช่แบบที่กระทรวงมหาดไทย หรือที่รัฐบาลกำลังทำไปเกณฑ์คน ไปหาคนที่จะมามีความเห็นเหมือนกับตัวเองมา มาถึงก็จะถามว่าจะเอากฎหมายปรองดอง กฎหมายล้างผิดมั้ย จะแก้รัฐธรรมนูญมั้ย แล้วก็ให้คนยกมือ ให้คนกรอกฟอร์ม แล้วก็สรุปว่า ประชาชนบอกว่า สนับสนุน

สถาบันพระปกเกล้าเขาทำอย่างนี้พี่น้อง เขาเชิญคนมาประมาณร้อยกว่าคน ในร้อยกว่าคนประมาณ 80% เขาสุ่มเลยครับ เขาสุ่มเอาจากทะเบียนบ้านเลย ชื่อนั้น ชื่อนี้ ใช้หลักวิทยาศาสตร์ เวทีที่ผมไปเป็นเวทีของกรุงเทพฯ ต้องมีคนมาจากเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ต้องมีคนมาจากฝั่งธนฯ ต้องมีคนมาจากกรุงเทพฯ เหนือ กรุงเทพฯ ตะวันออก สุ่มชื่อ เอาชื่อมา แล้วส่งนักวิชาการ ไปตามหาตัวถึงในชุมชน ถึงในบ้าน ถึงในคอนโด เชิญมาร่วมแสดงความคิดเห็น

อีก 20% เลือกผู้นำชุมชน ผู้นำการเมือง วิทยุชุมชน สื่อมวลชน เสื้อเหลือง เสื้อแดง องค์กรต่างๆ มีตัวแทนมา แต่มาถึง เขาไม่ให้มาทะเลาะกันครับ เขาให้มาช่วยกันคิดว่า อยากเห็นอนาคตของประเทศไทยเป็นอย่างไร เขาแบ่งเป็นกลุ่ม ให้พูดคุยกัน แล้วก็มานำเสนอในเวทีกลาง ไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีการมาลงมติ เอาชนะคะคานเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย แล้วเขาก็เอาข้อสรุปนี้มาประมวล และนำเสนอ

ผมอยู่ 1 เวที วันนั้นอยู่ค่อนวัน เพื่อสังเกตการณ์ ข้อสรุปเป็นทางการเดี๋ยวสถาบันพระปกเกล้า เขาจะไปทำ แต่ที่ผมดูชัดเจนครับ ผมไม่เห็นมีใครมานั่งทะเลาะกัน เรื่องนิรโทษกรรม เรื่องกฎหมายปรองดองเลย เขาบอกว่าอนาคตประเทศที่เขาอยากจะเห็นเขาอยากเห็นประเทศสงบสุข มีความเจริญก้าวหน้า พี่น้องประชาชน เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ให้แก่กัน แล้วพอถูกถามว่าจะได้อนาคตแบบนั้นต้องทำอย่างไร เขาตอบว่า ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย กฎกติกา ใครทำผิดรับผิด

ผมใช้เวลาช่วงปิดสมัยประชุม เชิญเด็ก เชิญเยาวชนมาทุกวันศุกร์ นี่ท่านอดีต ส.ส. อ.ผ่องศรี ช่วยผมทำงานนี้ เด็กที่มาก็คิดถึงแต่อนาคตของบ้านของเมือง ล่าสุดวันศุกร์ที่ผ่านมา เด็กมาร้อยกว่าคน แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม ขึ้นมาทุกกลุ่มก็สงสัยว่ารัฐบาลนี้มองอนาคตประเทศอย่างไร มาเที่ยวไล่ยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่มีใครเขาอยากจะมาสนใจเรื่องคดีของทักษิณ คดีของครอบครัวชินวัตร คดีของแกนนำเสื้อแดง หรือแม้แต่คดีของคุณสุเทพ เพราะเขาถือว่าใครทำอะไร ถ้าจะดำเนินคดี ก็ไปต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม อย่างนี้บ้านเมืองอยู่ได้ครับพี่น้องครับ เพราะฉะนั้นแม้แต่การกลั่นแกล้งกัน พวกผมก็บอกว่า รู้ว่าถูกกลั่นแกล้ง แต่ก็ไม่เคยเรียกร้องอย่างอื่น ขอใช้สิทธิ์ของเราตามกระบวนการยุติธรรมในการต่อสู้ ...

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา วันจันทร์วันหยุดราชการ วันอังคารที่ผ่านมาเปิดมาปั๊บ ผมก็ต้องไปเป็นเพื่อนคุณสุเทพ ดีเอสไอเรียกไปแจ้งข้อหา แจ้งข้อหาผม แจ้งข้อหาคุณสุเทพ โดยอ้างคำสั่งศาล ซึ่งมีการไต่สวนการเสียชีวิต ของ ด.ช.คุณาการ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 ความจริงเป็นเหตุการณ์เดียวกับที่เกิดขึ้นกรณีของคุณพัน คำกอง ซึ่งดีเอสไอ เอามาอ้างในการแจ้งข้อหาผม กับคุณสุเทพก่อนหน้านี้

ข้อหาที่ตั้งผมก็เรียนกฎหมายมา แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย โดยเจตนาเล็งเห็นผล .. ที่เขาบอกว่าผมกับคุณสุเทพ ร่วมกันทำให้คนตายโดยเจตนานี่สรุปสั้นๆ ผมอธิบายอีกครั้งว่า เขาเอาอะไรมาพูด เหตุการณ์มีอย่างนี้ครับ เกิดการชุมนุมเมื่อปี 2553 เหตุการณ์การชุมนุมนั้น รัฐบาลในขณะนั้นได้ยื่นเรื่องต่อศาล ศาลวินิจฉัยว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นคือการใช้อาวุธสงคราม ก่อเหตุต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ พี่น้องคงจำได้ ผมต้องเตือนความจำนิดหน่อย เพราะพรุ่งนี้จะมีรายการชุมนุมใหญ่ โกหกใหญ่กัน ... แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ศาลบอกว่าชุมนุมผิดกฎหมาย และมีการกระทำผิดกฎหมาย รวมแล้วเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามไปขอคืนพื้นที่บนถนนราชดำเนิน ปรากฏชายชุดดำใช้อาวุธสงคราม ยิงเข้ามาจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต และต่อมาเมื่อเกิดเหตุชุลมุน ก็มีทั้งเจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนเสียชีวิต ทั้งหมดนี้รู้กันทั่วไปครับ

- สัญญาณขาดหาย -

... มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในบริเวณ .. ก็คือนายพัน คำกอง กับ ด.ช.คุณากร ส่วนคนขับรถไม่ได้เสียชีวิต บาดเจ็บ นี่คือข้อเท็จจริงที่ศาลไต่สวน แล้วก็สรุปออกมาครับ ไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นคนยิง รู้แต่ว่ากระสุนที่ถูกผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ เป็นกระสุนที่มีใช้ในรายการ และเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการยิงของเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามคำสั่งของ ศอฉ.ที่ให้มาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ศาลสั่งเท่านี้ครับ แต่ดีเอสไอบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ถือว่า ผมกับคุณสุเทพ ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล

ผมก็เรียนกับพี่น้องครับ ที่ฟังมาทั้งหมด เริ่มต้นก่อนว่า ผู้ที่เสียชีวิตก็ดี ผู้ที่บาดเจ็บก็ดี ที่ศาลไต่สวน ชี้ข้อเท็จจริงมาทั้งหมด ผมยังไม่เห็นมีใครจงใจ หรือเจตนาไปฆ่าผู้อื่นเลยครับ แล้วยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง เห็นจากเหตุการณ์เหล่านี้กลับบอกว่า ผมกับคุณสุเทพ ต้องรับผิดชอบว่าฆ่าคนอื่นโดยเจตนา ผมก็ยืนยันว่าอย่างนี้กลั่นแกล้ง ที่ไปวันอังคารนี้ เพราะว่าเดิมแจ้งข้อหาผม กับคุณสุเทพไว้ กรณีนายพัน คำกอง เมื่อวันอังคารก็ไปรับแจ้งว่า นอกจากนายพัน คำกอง มี ด.ช.คุณากร เสียชีวิตด้วย และแจ้งข้อหาเพิ่มว่ากรณีคนขับตู้บาดเจ็บ แจ้งข้อหาผมกับคุณสุเทพว่า พยายามฆ่าคนตาย

ผมบอกกับพี่น้องว่า พี่น้องใช้สามัญสำนึกก็คงพอมองออกว่าอะไรเป็นอะไร และเรื่องนี้ผมก็แปลกใจว่าถ้ามันผิดจริง มันก็มีคนอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใน ศอฉ.แล้วก็ร่วมตัดสินใจให้ทหารไปตั้งด่าน เขาชื่อ ธาริต เพ็งดิษฐ์ คุณสุเทพ เป็นพยานได้ว่าระหว่างผมกับคุณธาริต ใครที่ประชุม ศอฉ.ใครที่คอยเสนอว่าต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ ข้อเท็จจริงเป็นที่ทราบโดยทั่วกัน มีพยาน มีหลักฐานเยอะ แต่เอาละ เมื่อคุณจะใช้อำนาจที่คุณมีอยู่ กลั่นแกล้งผม เหมือนอาทิตย์ที่แล้วก็เรียกผมไปแจ้งข้อหาที่หักเงินเดือนผมไปให้พรรคประชาธิปัตย์ แล้วบอกว่าผมทำผิดกฎหมาย ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำผิด เพราะเงินที่หักก็จ่ายเป็นเช็คให้กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทั้งหมด พวกผมก็บอกว่า ผมก็ใช้สิทธิตามกฎหมายต่อสู้

ดังนั้นเมื่อตอนแจ้งผมเรื่องคดีนายพัน คำกอง ผมก็ไปฟ้องนายธาริต กับพวก ว่ากระทำผิดกฎหมาย เป็นเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ และเป็นเจ้าหน้าที่ในการยุติธรรม กลั่นแกล้งผู้อื่นตอนนี้เรื่องก็อยู่ที่ศาล เดิมศาลจะไต่สวนเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่ธาริตไปร้องว่า ยังไม่มีทนาย ศาลก็เลื่อนไปไต่สวนในเดือนกรกฎาคม ก็ไปเจอกันที่ศาลเดือนกรกฎาคม

แล้วที่มาแจ้งข้อหาผมเพิ่ม เรื่องพยายามฆ่า ผมก็กำลังจะให้ทนายความไปยื่นฟ้องอีก 1 คดี เพื่อที่จะให้ศาลชี้ว่านายธาริตกับพวก กลั่นแกล้งผม แล้วก็นายสุเทพอีก เพราะฉะนั้นผมก็บอกว่าถ้าจะมาเถียงกันเรื่องผิดถูก เหตุการณ์ไหนใครก็ตาม สู้กันอย่างนี้สิครับ ตามกระบวนการ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้ศาลท่านชี้ ใครผิดรับผิดไป ไม่เว้นแม้แต่ผม ไม่เว้นแม้แต่คุณสุเทพ ถ้าบอกว่าผิดเราก็ยอมรับตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย 100%

ผ่านวันอังคารมาถึงวันพฤหัสฯ ปรากฏว่า ส.ส.เพื่อไทยไปยื่นให้ผมนั้นพ้นจาก ส.ส.อ้างว่าผมขาดคุณสมบัติ เพราะเคยถูกปลดออกจากราชการ ไอ้ที่ผมเคยถูกปลดออกจากราชการนั้น ก็เพราะรัฐมนตรีกลาโหมรัฐบาลนี้ วันดีคืนดี ออกมาสั่งปลดผมออกจากทหารย้อนหลังไป 20 กว่าปี ผมนี่หาเอกสารยากมาก ตั้งแต่ผมยังเป็นโสดอยู่ ตอนนี้ลูกผมจบปริญญาแล้ว แต่ว่าข้อเท็จจริงก็มั่ว ข้อกฎหมายก็ผิด ผมก็บอกกับพี่น้องว่า ผมก็ไปฟ้องศาลปกครองไว้แล้ว ให้ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายฉบับนี้ และก็ไปดำเนินคดีอาญาเหมือนกัน โดยรัฐมนตรีกลาโหม เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผมก็ต้องไปดำเนินคดีอาญา ด้วยการร้องต่อ ป.ป.ช.

ป.ป.ช.ก็พิจารณาเรื่องนี้อยู่ ศาลปกครอง ก็รับเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่ที่ศาลปกครองยังพิจารณาไม่ได้ พี่น้องทราบมั้ยครับ เพราะรัฐมนตรีกลาโหม ใช้วิธีการเตะถ่วง ไปยื่นคัดค้านเขตอำนาจศาล อ้างว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจวินิจฉัยคดีนี้ ไปยื่นกับศาลแพ่ง ศาลแพ่งก็ต้องไปพิจารณาว่าศาลปกครองมีอำนาจหรือไม่ เรื่องก็เลยยังค้างอยู่ ระหว่างที่เรื่องค้างอยู่ ก็เอาสมัครพรรคพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญว่าคำสั่งปลดผมออกจากราชการมีแล้ว ให้ผมพ้นจาก ส.ส.

ศาลรัฐธรรมนูญท่านมีมติเมื่อวันพฤหัสฯ ว่ารับคดีนี้ไว้พิจารณา ผมก็บอกว่าผมไม่เห็นมีใครที่ไหนที่จะ .. ที่โทรศัพท์มาบอกว่าจะต้องไปล้อมศาล จะต้องไปประกาศจับตุลาการ รัฐธรรมนูญ จะต้องไปข่มขู่ว่าห้ามพิจารณา แล้วเป็นผลเสียกับผม พวกเราไม่ทำไงครับ เพราะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัยบอกให้ผมชี้แจงภายใน 15 วัน ผมก็จะทำหนังสือชี้แจงไปภายใน 15 วัน เท่านั้นเองครับ บ้านเมืองก็อยู่ได้ บ้านเมืองก็สงบ ไม่ต้องมาเรียกร้องให้นิรโทษกรรม ไม่ต้องเรียกร้องให้มาล้มคดี

นี่ถ้าผมกับคุณสุเทพผิด อาจจะโดนประหารชีวิต แต่เราก็ถือว่าเราสู้คดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร นี่คือมาตรฐานที่เราอยากจะเห็น ผมจึงย้ำอีกครั้งครับ พวกผมถือว่าพวกผมถูกกลั่นแกล้ง แต่พวกผมไม่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง ทักษิณ คุณทำแบบเดียวกันสิ จะมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติ บ้านเมืองไม่จบไม่สิ้นทำไม กลับมาติดคุก เรื่องก็จบ เดี๋ยวจัดคนไปรับก็ได้ คุณสุเทพอาจจะส่งอาหารให้ด้วย เพราะเคยบอกผมว่าเป็นเพื่อนกันนานแล้ว

ผมบอกว่านี่แหละครับ ที่เรารอคอยว่าการเมืองมันต้องเข้าสู่มาตรฐานสากล ข่าวใหญ่อเมริกาสัปดาห์นี้คืออะไรพี่น้องรู้มั้ย หน่วยงานเก็บภาษีถูกจับได้ว่าเวลาตรวจภาษีนี่ จงใจไปตรวจภาษีองค์กรต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับฝ่ายค้าน สุดท้ายผู้นำองค์กรนั้นต้องแสดงความรับผิดชอบ ลาออก ประธานาธิบดีบอกว่าทำอย่างนี้ไม่ได้

มันช่างตรงกันข้ามกับประชาธิปไตยของทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ผมเห็นที่นี่ถ้าราชการคนไหนไม่มาไล่บี้ฝ่ายค้านนะถูกย้าย เพราะฉะนั้นเห็นรึยังล่ะครับว่า ถ้าจะพูดประชาธิปไตย ต้องพูดให้ครบ พูดให้หมด ผมก็เสียดายพวกที่กลับไป ถ้า .. จะได้ฉลาดขึ้น จะได้รู้ นี่เดี๋ยวถ้าไปเจอเวทีอื่น เดี๋ยวต้องไปพูดให้ฟังเวทีอื่นอีก ผมอยากจะบอกกับพี่น้องว่า ด้วยเหตุผลนี้มาถามผมทีไร ผมถึงบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ดี ผมก็ดี ไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายในบ้านเมือง ที่เราทำหน้าที่ยืนอยู่บนเวทีนี้ปราศรัย ก็ไม่เคยมีอะไรที่บอกว่าไม่เคารพการเลือกตั้ง ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าไม่เคารพเสียงข้างมาก แต่ต้องรู้ว่าประชาธิปไตยที่ไหนในโลก คุณได้รับเสียงข้างมากให้ไปบริหารประเทศ ให้ไปแก้ปัญหาของประชาชน ให้ไปทำตามคำมั่นสัญญา นโยบายที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน

นักข่าวถามผม ผมก็พูดไว้ .. วันนี้หน้าที่คุณไปแก้ปัญหาของแพงซะ ไม่ใช่เดือนหน้านี่จ้องขึ้นราคาแก๊สอยู่ แต่พี่น้องอาจจะโชคดีนะ บังเอิญมีเลือกตั้งซ่อมดอนเมือง ผมสังหรณ์ใจว่าเดี๋ยวเลื่อนขึ้นราคาแก๊สไปหลังเลือกตั้ง ผมบอกว่าวันนี้คุณมีหน้าที่ไปทำให้ราคายาง ราคาปาล์มมันดี ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวสวนยาง สวนปาล์มจะตายอยู่แล้ว เปิดเทอมก็หนี้ท่วม เพราะยางพาราราคา 70 - 80 ไม่เหมือนสมัยที่คุณสุเทพทำเอาไว้ 170 - 180 ผมบอกว่าคุณมีหน้าที่ไปเร่งทำระบบป้องกันน้ำท่วมให้มันดี เพราะคุณมาขอกู้เงินไปตั้ง 3 แสน 5 หมื่นล้าน แต่จนถึงวันนี้จนกฎหมายบอกว่าต้องกู้ให้เสร็จภายในเดือนหน้า อย่างที่ อ.แก้วสรร บอก TOR มีอยู่ ... แล้วก็ยัง ถึงวันนี้พี่น้องประชาชนคนไทยยังไม่รู้เลยว่า 3 แสน 5 หมื่นล้าน ไปสร้างอะไรที่ไหน ใครจะได้ประโยชน์ ใครจะเดือดร้อน

แล้วก็ไอ้ที่เคยพูดเอาไว้ บอกว่ามาเป็นรัฐบาลจะไม่ทำให้ประเทศเป็นหนี้ ตอนนี้เป็นไงล่ะครับ นี่กำลังจะเร่งกู้ให้ได้ ไอ้ 2 ล้านล้าน บวกดอกเบี้ยเป็น 5 ล้านล้าน เป็นหนี้กัน 50 ปี เอาละของอย่างนี้จะต้องมาว่ากันมาต่อสู้กันในสภา และพวกผมก็ไม่ไปวุ่นวาย หรือบอกว่าใครจะต้องไปวุ่นวาย เราก็ตรวจสอบกันไป ใครจะทำอะไรผิดๆ ถูกๆ บ้าๆ บอๆ ก็เอ้า ยกประโยชน์ให้ นายกฯ อยากจะพูดผิด ... ไม่ว่ากัน

ปลอดประสพอยากจะเล่นละคร ก็เล่นไป พวกผมขอใช้สิทธิ์ไม่ดู ก็เท่านั้นเถอะ แต่คุณไม่มีสิทธิ์อ้างเสียงข้างมาก ไล่ทำในสิ่งที่พยายามทำในขณะนี้คือรื้อระบบกติกาของบ้านเมือง และทำผิดให้เป็นถูก เพราะไม่มีอำนาจไหน ที่จะสร้างความชอบธรรมให้คุณทำอย่างนั้นเด็ดขาด พวกผมก็เต็มที่กันในสภา ที่กรรมาธิการทุกชุดตอนนี้ 2 ล้านล้าน รัฐธรรมนูญ มาตรา 68, 237 มาตรา 190 เรื่องวุฒิสภา ก็ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง

เดิมนั้นเขาก็กะว่า ปลายเดือนนี้จะต้องเปิดสภา เอางบประมาณเข้า เขาหวังจะควบหลายเรื่องเข้าไปด้วย ตอนนี้เห็นบอกว่าอาจจะยอมถอยแล้ว แต่พวกผมก็ยังไม่วางใจครับ ก็ให้กรรมาธิการไปต่อสู้ตรวจสอบเต็มที่ 2 ล้านล้าน ล่าสุดเขาบอกว่าอาจจะไม่ทัน รัฐธรรมนูญบางมาตราเขาบอกว่าอาจจะไม่ทัน แต่ที่ยังไม่ชัดเจน คือเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ล้างผิด ที่ใช้ชื่อว่ากฎหมายปรองดอง

ที่ไม่แน่ใจเพราะอะไร เพราะเฉลิม อยู่บำรุง บอกจะเอาไปยื่นต่อสภา วันที่ 23 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ สภาจะเปิด 29 พี่น้อง ถ้าไม่ตั้งใจเอาเข้าสมัยประชุมนี้ ทำไมไม่รอให้สภาปิดแล้วไปยื่น ทำไมต้องยื่นวันที่ 23 อ้างว่าที่ต้องยื่น 23 เพราะจะไปอุดรฯ วันที่ 24 จะได้มีผลงานไปบอกเสื้อแดง กฎหมายของเฉลิมตอนนี้สั้นมาก ง่ายมาก แล้วก็บอกว่า ล้างผิด ยกเข่งจริงๆ

แกเหมา เหมานะ ไม่ใช่เมา แกเหมาหมดเลย แกเหมาหมดเลยว่า การกระทำใดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง นู้นไล่มาตั้งแต่ก่อนปฏิวัติ ไล่มาจนถึงวันที่กฎหมายผ่าน ถ้าเป็นความผิดเกี่ยวกับการเมือง แกบอกว่า ไม่เป็นความผิดเลย จะเผา จะยิง จะหมิ่น จะฆ่า ถ้าอ้างได้ว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง ถือว่าไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า กฎหมายแบบนี้ไม่ใช่กฎหมายที่ทำให้บ้านเมืองสงบหรอกครับ มีแต่กฎหมายแบบนี้จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ

เพราะอะไรครับ เมื่อสักครู่ ก่อน อ.แก้วสรร ขึ้นมาพูด โชคดีนั่งติดกับผม ผมเลยทำให้แกใจเย็นหน่อย ไม่งั้นเห็นมั้ยแกปราศรัยบอก ... ปืนก็มี เกิดการยิง .. บอกเขาว่าทะเลาะกันการเมือง ไม่เจอความผิดอีก กฎหมายอย่างนี้กำลังจะบอกว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่มีขอบเขต ไม่รู้รัฐธรรมนูญจะไปเขียนทำไมบอกว่า ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง ต้องสงบปราศจากอาวุธ เพราะกฎหมายแบบนี้บอกว่า ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ทำได้หมด

แล้วถ้าทำครั้งนี้สำเร็จ ครั้งหน้ามาใหม่ เผาใหม่ก็ได้ ยิงใหม่ก็ได้ หมิ่นใหม่ก็ได้ ขออย่างเดียว ทำเสร็จแล้วชนะ ก็ไปออกกฎหมายมาล้างผิดกันอีก บ้านเมืองจะอยู่ยังไงครับ แต่หนักกว่านั้น พอล้างความผิดตรงนี้เสร็จ แกเพิ่มไปอีกมาตรา แกบอกว่า ใครก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติ หรือคำสั่งของคณะปฏิวัติ หรือองค์กรที่ตั้งด้วยคณะปฏิวัติ และถูกกล่าวหาโดยคนเหล่านี้ หรือเกี่ยวเนื่องมาจากคำสั่งของคนเหล่านี้ แกบอกให้นับเป็นการกล่าวหาทางการเมืองด้วย แล้วก็ให้ทำเสมือนกับว่าเป็นความผิดทางการเมือง ได้รับการล้างผิดด้วยเหมือนกัน

ไอ้ตรงนี้คนอ่านมาตรานี้ของแกก็อาจจะงงๆ ว่าคืออะไร แต่ไม่ยากหรอกครับ อ่านปั๊บนี่ บอกกับพี่น้องเลย ทั้งหมดพุ่งไปที่ คตส.เพราะ ตอนปฏิวัติมีการตั้ง คตส. มา ทำหน้าที่พูดง่ายๆ เหมือนเป็นพนักงานสอบสวนนั่นแหละครับ เพราะอะไร เพราะก่อนปฏิวัติ ทักษิณกับพวกทำอะไรผิด เรื่องไม่เคยไปไหน เพราะพนักงานสอบสวนตามปกติ ไม่เคยดำเนินคดี .. เขาก็ตั้ง คตส.ขึ้นมา พอ คตส.เอาจริง ส่งเรื่องฟ้อง ผลที่ตามมาคืออะไร ทักษิณถูกลงโทษจำคุก 2 ปี ที่หนีอยู่นี่แหละครับ หนีตั้งแต่ก่อนโอลิมปิคจีน จนโอลิมปิกอังกฤษจบไปแล้ว

แล้วที่สำคัญอีกคดีหนึ่งก็คือถูกยึดทรัพย์ไป 4 หมื่น 6 พันกว่าล้านบาทไงครับ เพราะฉะนั้นพอกฎหมายเฉลิมบอกว่า อะไรที่เกี่ยวข้องกับ คตส. กับคนที่ตั้งโดยคณะปฏิวัติ กล่าวหาใคร เป็นความผิดทางการเมือง ล้างผิดหมด จะตีความยังไงล่ะครับ ก็แปลว่าที่ถูกตัดสินจำคุก ก็คดีนั้นก็ถูกล้างหายไป แล้วแกก็มาพูดฉอดๆๆ บอกแต่ไม่เกี่ยวกับ 4 หมื่น 6 พันล้าน ผมก็บอกว่าขืนกฎหมายออกไปสิครับ ออกไปเสร็จ ทักษิณมันก็บอกว่า ก็ถูกยึด 4 หมื่น 6 พันล้านนี่ ก็เริ่มต้นมาจาก คตส.เหมือนกัน มันก็ไปทำเรื่องขอเงินคืน ขอจากใครล่ะครับ ขอจากน้องสาว แล้วสนุกไปกว่านั้นอีก น้องสาวจะจัดเงินคืนให้พี่ ตัวเองได้ด้วยครับ เพราะไปเบิกความกับศาลเอาไว้ว่า ส่วนหนึ่งเป็นของตัวเอง

โชคดีนะครับ เฉลิมพูดบอกว่า หลุดปากออกมาว่า กฎหมายนี้เป็นกฎหมายการเงิน กฎหมายการเงินเข้าสภาไม่ได้ถ้านายกฯ ไม่เซ็นรับรอง เพราะฉะนั้นผมจึงบอกว่า งานนี้กฎหมายนี้จะเดินได้เป็นการพิสูจน์ธาตุแท้ของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อไปนี้ผมขอทำนายไว้เลย จะเกิดกระบวนการ 1. บิดเบี้ยว ลบล้างคำพูดเฉลิม เดี๋ยวจะมีคนออกมาพยายามบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่กฎหมายการเงิน ทั้งๆ ที่ไอ้คนเขียน คนเสนอยอมรับตัวเองว่าเป็นกฎหมายการเงิน พี่น้องต้องจับตาดู

และ 2.ถ้าสมมติว่า จนมุม ยอมรับแล้วว่าเป็นกฎหมายการเงิน ผมทำนายไว้เลยว่า ยิ่งลักษณ์ จะไม่เซ็น ที่ไม่เซ็น ไม่ใช่ปกป้องผลประโยชน์ เพราะกลัวพี่น้องที่รักความถูกต้อง ผมทำนายไว้เลยว่าที่ไม่เซ็นเพราะจะให้คนอื่นเซ็นแทน ตัวเองจะไม่อยู่ ไปเมืองนอก

ผมเลยถือโอกาสนี้แจ้งไว้ล่วงหน้า แล้วเดี๋ยวจะให้คนในพรรคไปทำหนังสือ เป็นหลักฐานไว้ล่วงหน้าว่านายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ... กำลังจะมีกฎหมายนี้เข้ามา ให้นายกรัฐมนตรีรับรอง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและพี่ชาย หากมีการเซ็นรับรองต้องเป็นความผิด และนายสาธิต ปิตุเตชะ ทำหนังสือไปยื่นที่ทำเนียบไว้ก่อน จะได้ไม่หนีไปเมืองนอก มอบให้คนนั้น คนนี้เซ็นแทน แล้วอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะ “ตี๋” บอกแล้ว ..

นี่แหละครับที่พี่น้องต้องจับตาดู เพราะเห็นได้ชัดเลยครับว่า ที่สุดแล้วเรื่องที่มันวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ก็มาจากเรื่องนี้ เรื่องเดียว ผมปราศรัยเวทีผ่าความจริง วันที่วรชัย ยื่นกฎหมาย เป็นกฎหมายที่บอกจะไม่เอาผิดแกนนำผู้ชุมนุม ผมเห็นแล้ว ไม่ครอบคลุมคดีทักษิณ ผมเคยพูดบนเวทีผ่าความจริงว่า ผมรับรองได้ว่าฉบับของวรชัย ไม่ใช่ของจริง ของจริง ต้องทำให้เนียน เฉลิม เสนอของจริง

แล้วผมก็เลยอยากจะยืนยันว่า ที่มันวุ่นวายมากี่ปีๆ ก็เพราะเรื่องนี้ คนไม่รู้จักพอ คนไม่รู้จักยอมรับว่าตัวเองทำผิด เหตุการณ์ที่วุ่นวายปี 53 พรุ่งนี้ที่เสื้อแดงจะไปรำลึก จะไปเล่านิยายอะไรก็ตามที่ราชประสงค์ ผมก็ยืนยันครับ ผมเขียนหนังสือเป็นภาษาไทยไว้เรียบร้อย “ความจริง ไม่มีสี” พรุ่งนี้จะออกมาเป็นภาษาอังกฤษ คุณกรณ์ จาติกวณิช เป็นคนแปล ใครชอบอ่านภาษาอังกฤษ ซื้อได้ครับ ผมไม่ได้มาโฆษณา

แต่ว่าสำคัญก็คือว่า ผมยืนยัน อ่านหนังสือเล่มนั้นแล้วท่านจะเข้าใจ ถ้าเสื้อแดงอ่าน เสื้อแดงจะเข้าใจว่าไม่ควรจะมีใครมาเสียชีวิตเลย ถ้าวันนั้นไม่มีคนบางคน หรือครอบครัวบางครอบครัว เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวไม่พอ มีจิตใจอำมหิต เอาชีวิตของคน และผู้สนับสนุนของตัวเองมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ไต่เต้าเข้าสู่อำนาจเพื่อล้างผิดให้ตัวเอง

บ้านเมืองที่วุ่นวายทั้งหมด ไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อน มีเรื่องอยู่เท่านี้ ผมถึงบอกว่า วันนี้คนไทย สังคมไทย ประเทศไทย ตัดสินใจอย่างเดียว เราเอาสังคม เราเอาประเทศมาอยู่เหนือคนๆ เดียว เรื่องก็จบ แต่ถ้าเรายอมคนๆ เดียว ทว่ารำคาญ เพราะว่ากลัว เพราะเห็นเขามีอำนาจ เพราะเห็นเขาข่มขู่ ยอมๆ กันไป มันไม่มีวันจบ เพราะคนแบบนี้ไม่รู้จักพอ ไม่สำนึกผิด

เวทีนี้มันยังต้องเกิด พวกผมก็ต้องมา จะเจออะไรก็ต้องมา อาทิตย์หน้าก็ไป จ.เลย อาทิตย์ถัดไปก็ไป จ.สุพรรณ อาทิตย์ถัดไป ไปไหน ไปทุกๆ ที่นั่นแหละ เพราะพวกผมจะไม่ยอมให้บ้านเมืองนี้ ประเทศนี้ อนาคตของลูกหลานเรา เป็นตัวประกันให้กับคนๆ เดียว ครอบครัวๆ เดียว เด็ดขาด


กำลังโหลดความคิดเห็น