“อดีตวอลเปเปอร์มาร์ค” ชี้ ปอท.มีปัญหาคดีแฮกเว็บสำนักนายกฯ หลังบิ๊กตำรวจพูดไม่ตรงกัน หวั่นฝ่ายการเมืองชี้นำ จ่อชง กมธ.ตำรวจ สภาฯ และ กมธ.ไอซีทีสอบสัปดาห์หน้า กลัวถูกยัดข้อหา พร้อมยื่นมือช่วย ขณะที่ “ณรงค์ฤทธิ์” โพสต์เฟซบุ๊กโวยข่าวทำยายทรุด ถามถ้าเป็นอะไรไปใครรับผิดชอบ ลั่นไม่เคยเข้าเว็บ สปน. ท้าขอหมายศาลถ้าไอพีตรง เซ็งช่วยสืบแทบตายยังไม่ยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์ตามที่ตกลง แย้มรู้คนน่าสงสัยแล้ว แต่เตือนถ้าเล่นการเมืองอีกจะยิ่งไร้หลักฐาน
วันนี้ (16 พ.ค.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.)ระบุ นายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร หรือฉายา ตาเล็ก วินโดวส์ 98 เอสอี เคยเจาะเข้าระบบเว็บไซต์ของ สปน.ก่อนเกิดเหตุการณ์แฮกเกอร์ 2-3 วันว่า ตนได้ติดตามข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเป็นห่วงต่อกระบวนการสอบสวน เนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของทางตำรวจค่อนข่างสับสนและขัดแย้งกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ชี้นำว่าไว้ว่าเป็นคนนครศรีธรรมราชและอาจเกี่ยวโยงกับการเมือง ต่อมานายณรงค์ฤทธิ์เข้ามอบตัวเพื่อแสดงความสุจริตใจนั้น
นายศิริโชคกล่าวว่า จากการสอบสวนเชิงลึกของตนเห็นว่าการสอบสวนของ ปอท.ค่อนข้างมีปัญหา เพราะสรุปว่านายณรงค์ฤทธิ์มีความเกี่ยวข้องจากการที่นายณรงค์ฤทธิ์ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กหลังเกิดเหตุการณ์มากล่าวหานายณรงค์ฤทธิ์ และเกลี้ยกล่อมให้นำอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ให้ตรวจสอบ ต่อมาทาง ปอท.ก็ยังให้สัมภาษณ์ขัดแย้งกัน โดยผู้การ ปอท.บอกเปิดเครื่องแล้วและพบหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับการแฮกเว็บไซด์ แต่รองผู้การ ปอท.กลับบอกว่ายังไม่มีการเปิดคอมพิวเตอร์ จึงวิตกว่าจะไม่ยุติธรรมในการสอบสวนเพราะมีฝ่ายการเมืองชี้นำคดีไปแล้ว ตนจึงยื่นเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฏรและจะยื่นต่อคณะกรรมาธิการไอซีทีด้วยให้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงในสัปดาห์หน้า
นายศิริโชคกล่าวว่า ปอท.ควรพิจารณาวิธีการสอบสวนให้เป็นไปตามหลักสากลที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นสังคมจะเกิดความกังวลว่ามีการยัดข้อมูลเพิ่มเติมให้เป็นไปตามการชี้นำของฝ่ายการเมืองเพื่อกล่าวหานายณรงค์ฤทธิ์หรือไม่ เพราะขณะนี้ต้องถือว่านายณรงค์ฤทธิ์ยังบริสุทธิ์อยู่ แต่การให้ข่าวของ ปอท.ได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของผู้ที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือนายณรงค์ฤทธิ์หากมีการร้องขอมา และยืนยันว่าจากข้อมูลที่ตนตรวจสอบพบว่า ในวันที่ ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ว่ามือแฮกคือนายณรงค์ฤทธิ์นั้น ปอท.ยังไม่มีการนำข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ของสำนักนายกฯ เลย สะท้อนให้เห็นว่า ปอท.มีปัญหาจากการชี้นำของฝ่ายการเมืองเพราะต้องการโยงมาที่พรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นขบวนการ โดยหลังจากนั้นนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาให้ข่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง เพียงแค่ว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชที่เป็นฐานเสียงของพรรคเท่านั้น ซึ่งพรรคยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกเว็บสำนักนายกฯหรือการจ้างนักรบไซเบอร์โจมตีรัฐบาลตามที่มีการกล่าวหา
“อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้พัฒนาไปจนกลายเป็นประเด็นการละเมิดสิทธิ มีการกล่าวหาคนบริสุทธิ์โดยไม่มีหลักฐานชัดเจน ใช้หลักฐานจากเฟซบุ๊คเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะทำให้นายณรงค์ฤทธิ์ได้รับผลกระทบไม่มีงานทำ จากเดิมเคยส่งเงินให้มารดาเดือนละ 5 พันบาท จึงเป็นปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมีผลกระทบอย่างกว้างขวางกับครอบครัว โดยผมและพรรคพร้อมที่จะช่วยเหลือหากได้รับคำร้องขอจากนายณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งล่าสุดก็ได้ออกมาเรียกร้องขอความยุติธรรมด้วย โดยถือว่าเป็นเรื่องของมนุษยธรรม แต่ในขณะนี้นายณรงค์ฤทธิ์ ยังไม่ได้ติดต่อมา ทั้งนี้ใครก็ตามที่ถูกละเมิดสิทธิจากรัฐอย่างไม่ถูกต้องก็สามารถร้องเรียนมาที่พรรคได้เช่นเดียวกัน” นายศิริโชคกล่าว
นายศิริโชคกล่าวว่า สิ่งที่จะให้ความช่วยเหลือหากนายณรงค์ฤทธิ์ติดต่อมา คือ ในแง่ของกฎหมายว่าละเมิดสิทธิอย่างไร และจะช่วยอย่างไร ซึ่งต้องดูในข้อกล่าวหาทั้งของ ร.ต.อ.เฉลิม และผู้การ ปอท.เข้าข่ายหมิ่นประมาททำให้ผู้อื่นเสียหายที่นายณรงค์ฤทธิ์สามารถฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทได้ ซึ่งพรรคพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย
ขณะที่นายณรงค์ฤทธิ์ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ตาเล็ก วินโดวส์ 98 เอสอี เมื่อช่วงสายวันนี้ โดยระบุว่า “ข่าวอื่นปรุงแต่ง ใส่สีอย่างไร ผมอยากจะบอกว่า ผม "ทนอ่าน" มาได้มาตลอดนะ แต่ในภาพนี้ผมเห็น "น้ำตา" ของแม่ผมว่ะ แล้วไปอ่านแต่ละคอมเมนต์แล้วผมรู้สึกอยากจะบอกว่า "ถ้าพวกคุณมีความรู้เรื่องคอมพ์มากกว่านี้ และรู้จักผมมากกว่านี้ ... คุณจะไม่พิมพ์คอมเมนต์กันแบบนี้" ผมพยายามจะไม่ดรามากับใครมาตลอดเลยนะ ผมเก็บอาการมาได้เป็นอย่างดีโดยตลอด ผมโพสต์ปกป้องผู้ใหญ่ทุกคน ผมไม่อยากฉีกหน้าใคร แต่ ณ ตอนนี้ "ถ้าคุณเห็นภาพแม่ที่คุณเลี้ยงมาน้ำตาตก และเห็นข่าวยายอาการทรุด คุณจะยังจะนิ่งเฉยอยู่ต่อไปไหวมั้ย? ถ้ายายผมเป็นอะไรไป คุณทั้งหลายจะออกมารับผิดชอบมั้ย?”
นายณรงค์ฤทธิ์ระบุต่อว่า ขอย้ำตรงนี้ให้ชัดอีกทีว่า “ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเข้าเว็บ สปน.ห่าเหวอะไรนั่นเลย ขนาดวันที่โดนแฮก ผมก็ยังไม่เข้าไปเลย แล้วไอ้ข้อความในเฟซบุ๊กผมนั่นน่ะ นั่นผมจำเว็บผิด แต่ถ้าการที่ผมเห็น url นั่นแล้วโพสต์ข้อความแบบนั้นออกมา แล้วทำให้ตำรวจมาสรุปว่าผมเป็นคนร้ายแน่นอน ผมขอให้คุณทำอย่างนี้มาให้ถูกต้องเลยแล้วกัน 1. ประกาศ md5 กับ sha1 ของเครื่อง sv ตั้งแต่ตอนที่เริ่ม clone image มา ขอเป็น vdo ขั้นตอน ตั้งแต่ตอนแกะเครื่อง และ clone เลยนะ ถ้าคุณยังอยากพิสูจน์กับผม ว่าที่คุณพูดมาตั้งแต่วันแรกนั้นคุณจริงใจกับผมจริงๆ (แล้วเราค่อยกลับมาใช้คำว่า พี่-น้อง กันได้เหมือนเดิม)
“ 2. ไปทำการ forensic ตามมาตรฐาน iso มาเลย (ขอซักปี 2009 ก็พอไม่ต้อง 2013 ก็ได้ ผมเข้าใจอยู่ว่ามาตรฐานแต่ละบริษัทเป็นความลับทางการค้า แต่คราวหน้าถ้าว่างก็ร่างหรือออกกฎหมายมากันเลย เรามาร่างมาตรฐานการทำ digital forensic กัน ประเทศไทยจะได้ทันฝรั่งมันซะที แต่ถ้าทำไม่เป็น ไม่เข้าใจก็ไปเกณฑ์พวกจบโท กับอาจารย์ที่เขาสอนด้านนี้มาช่วย แล้วจ่ายค่าจ้างรายวันไปสิ ... ผมว่าเสียงบไม่เยอะหรอก มีใครเห็นด้วยตรงนี้มั้ย?) 3. list เอกสารมา ว่าคุณทำขั้นตอนการ forensic อะไร กับ server ไปบ้าง แล้วให้ “ผู้ต้องหา” ทำการ recheck ตาม ซึ่งถ้าผู้ต้องหาเป็นผม ผม recheck เองได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น ผมขอบอกให้เรียกใช้องค์กรอิสระ (และเปิดเผยหลังจากคดีจบ ให้เป็นกรณีศึกษาไปเลย) 4. ถ้า log ใน server ที่คุณ มั่นใจนัก มั่นใจหนาว่ามี ip ผม แล้วมันเจอหลักฐานบ่งชี้ว่าเจอ ip นี้กำลังทำการแฮก ก็รีบเอาไปแจ้งขอหมายจากศาลมา ข้อข้อมูล ip จาก isp แล้ว ถ้ามันตรงกับของผมก็ไปขอหมายศาลอีกรอบ เพื่อเอาเครื่องผม ไปตรวจ แต่ถ้ามันตรงกับคนอื่น ก็รีบไปขอหมายศาลให้ถูกต้อง เพื่อทำการตรวจค้น เครื่องคนที่ทำจริงๆ
ที่สำคัญ ถึงรองฯ เจี๊ยบ (พ.ต.อ.ศิริพงษ์ ติมุลา รอง ผบก.ปอท.) ตั้งแต่วันที่ 9 รองฯ เจี๊ยบบอกผมว่าไม่ต้องสนใจข่าวมาตลอด ... และตั้งแต่วันที่ 8 ผมแม่งช่วยสืบกันเกือบตายว่าใครทำ (ให้ความร่วมมืออย่างดี ชี้เบาแสและให้ข้อมูลทุกอย่าง) แต่ ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ยอมออกมาแก้ข่าวให้ผม และยังไม่ยอมยืนยันความบริสุทธิ์ให้ผมบ้างเลย (อย่างที่ตกลงกันไว้ ว่าวันอังคารจะแก้ข่าวให้) แต่ก็ยังให้ข่าวว่าพบข้อมูลจากคอมพ์ผมว่าผมแฮกโน่นนั่นนี่ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แกะจากที่ซีลอีก”
นายณรงค์ฤทธิ์ระบุทิ้งท้ายว่า “ผมอยากจะบอกว่า ผมตามจนเจอ ip (thai) และ timestamp ของคนที่ น่าสงสัยว่าทำที่สุดได้แล้ว ผมเก็บ infomation ทั้งหมดที่ต้องการไว้ให้ อย่างที่ตกลงไว้แล้ว (แต่ตอนนี้ time line อาจจะยังละเอียดไม่พอ เพราะต้องรอข้อมูลจาก isp ซึ่งท่านรอง จะต้องไปขอจาก isp เอา) แต่ถ้ายังไม่ออกมาพูดความจริงเรื่องผมผ่านสื่อ อย่างที่คุยไว้วันจันทร์ ... ก็ไม่ต้องเอา ip ผู้ต้องสงสัย จากผม แล้วผมจะรอดู ว่า ตร.ไทยจะหา ip จริงเจอมั้ย เรื่องนี้ หากยังอยากเล่นเกมการเมืองต่อ และยิ่งปล่อยให้มันนาน งานนี้ทีม forensic จะยิ่งตามไม่เจอหลักฐานอะไรเลยของคนที่ทำผิดจริงๆ”