xs
xsm
sm
md
lg

จับแฮกเกอร์หยามรัฐบาล ก็แค่ “แก้ผ้าเอาหน้ารอด”!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สน.พระอาทิตย์ / สามยอด


ดูท่าจะเข้าตำรา “แก้ผ้าเอาหน้ารอด” การจับกุมแฮกเกอร์ที่เข้ามาแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

พร้อมกับขึ้นข้อความ Slutty Moron เป็นคำที่มีความหมายต่ำทราม และดูแคลนอย่างแรง ซึ่งเสมือนเป็นการหยามหน้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์

แต่สุดท้ายอาจจับมือใครดมไม่ได้

ก่อนที่จะมีการจับกุมแฮกเกอร์มือป่วนเว็บรัฐบาล ท่าทีผู้ที่เกี่ยวข้องฟากรัฐบาล ทำท่าขึงขังเป็นมั่นเป็นเหมาะมั่นอกมั่นใจ สงสัญญาณเป็นนัยยะรัฐบาลชุดนี้ไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่ายๆ ถึงขนาดคนระดับ “เชอร์ล็อกเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี อดีตสารวัตรกองปราบ เจ้าของวลีอ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น กระหยิ่มยิ้มย่อง

“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบรายละเอียดของแฮกเกอร์คนดังกล่าวแล้วว่าเป็นคนนครศรีธรรมราช อ.เมือง อายุ 29 ปี และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ยังไม่บอกว่าเป็นใคร แต่คนๆ นี้เคยเข้าไปแฮกเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มาก่อนหน้านี้”

เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชีย อัปเดต ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เปิดเผยภาพผู้ต้องสงสัย ระบุชื่อนายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ วิชาเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ซึ่งเข้าศึกษาเมื่อปี 2546 แต่พ้นสภาพตามระเบียบการเงิน

ตอกย้ำความชัดเจนชนิดรู้ถึงตับถึงไส้ขบวนการนี้จากปาก พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยืนยันหนักแน่นเรื่องนี้มีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังว่าจ้าง เพื่อโจมตีทางการเมืองของรัฐบาล

“กลุ่มการเมืองที่เป็นนักเรียนนอกทำการว่าจ้างผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี หรือเรียกกันนาม “นักรบไซเบอร์” วงเงินหลายล้านบาท กระทำการโจมตีทางการเมือง”

ปะติดปะต่อเรื่องราวกันยิ่งกว่าหนัง CSI หรือหนังแนวสืบสวนดังๆ ของฮอลลีวูด

แต่พอ ณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร หรือฉายา “ตาเล็ก วินโดว์ส 98 เอสอี” วัย 29 ปี นักพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ (โปรแกรมเมอร์) ผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกฯ ปรากฏตัวเข้าพบ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แสดงความบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องกับมือแฮกป่วนรัฐบาลยิ่งลักษณ์

“ผมไม่ได้เป็นผู้ที่เข้าเว็บไซต์ดังกล่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่าผมอาจถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งผมเคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อนกับ Unlimited hack team ทีมแฮกเกอร์ชื่อดัง ซึ่งได้มีการท้ายทายให้ผมเจาะเข้าเว็บไซต์ของกลุ่มนี้ ผมเลยลองทำดูจึงได้เจาะแฮกเกอร์เข้าเว็บเขา คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า”

ตำรวจ ปอท.กลับไม่สามารถแจ้งข้อหาดำเนินคดีได้!!!

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ อ้างเบื้องต้น “ณรงค์ฤทธิ์” ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาและยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัย จึงได้เชิญตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อต้องการให้ช่วยเหลือนำความรู้ด้านแฮกเกอร์มาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาผู้กระทำความผิดตัวจริง

“ยอมรับว่าการสืบสวนหาหลักฐานทางดิจิตอลทำได้ยาก เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มักพรางตัว หากเชื่อตามพยานหลักฐานที่เห็นอาจทำให้หลงทางได้ ซึ่งนอกจากนายณรงค์ฤทธิ์แล้ว ยังมีกลุ่มแฮกเกอร์ต้องสงสัยอยู่ประมาณ 20 คน จึงจะใช้วิธีการให้แฮกเกอร์จับแฮกเกอร์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถหาตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงได้”

นั่นแสดงว่า ตำรวจไม่มีหลักฐานเอาผิด “ณรงค์ฤทธิ์” ในข้อหาแฮกป่วนรัฐบาล

แล้วสิ่งที่เฉลิมออกมาป่าวประกาศขึงขังก่อนหน้านี้ บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบแฮกเกอร์คนที่ป่วนรัฐบาลเป็นชาวนครศรีธรรมราช เรียนอยู่ราชภัฏจันทรเกษมคืออะไร? รวมทั้งการที่โฆษกพรรคเพื่อไทยบอกมีกลุ่มการเมืองนักเรียนนอกว่าจากนักรบไซเบอร์มาทำ หมายถึงอย่างไร?

เพราะถ้าคิดตามผู้ที่ออกมาบอกกล่าว ซึ่งเป็นถึงแกนนำระดับคนสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะ ร.ต.อเฉลิม ซึ่งเป็นรงนายกรัฐมนตรี ดูแลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย่อมคิดตามไปแล้วว่าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน รู้แล้วว่าใครคือคนที่มาหยามหน้ารัฐบาล และกำลังจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามตัวบทกฎหมายให้เกิดความหลาบจำ ไม่ให้มาทำเยี่ยงนี้กับรัฐบาล ไม่ว่าจะลบหลู่นายกรัฐมนตรีไทยหรือเรื่องอื่นๆ ได้อีก

แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องโม้เกินความจริง

ไม่อยากคิดว่าเป็นเรื่องการแก้ผ้าเอาหน้ารอด แต่ก็อดคิดไม่ได้ เพราะปะติดต่อเรื่องที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะบ่งชี้ไปในทำนองเช่นนั้น เนื่องจากพอเกิดเรื่องแฮกแกอร์เว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้น เสมือนเป็นการตบหน้ารัฐบาลอย่างจัง ชนิดเสียเครดิต เสียรางวัดอย่างมาก เพียงแค่วันเดียวก็ปรากฏข่าวออกมาว่าหน่วยงานรัฐบาลรู้ตัวมือแฮกแล้ว

บ่งบอกให้รู้ว่า รัฐบาลก็ไม่ธรรมดา ไม่ปล่อยให้ใครมาลูบคมง่ายๆ แต่มือแฮกเกอร์จะใช่ตัวจริงหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เหมือนกับครั้งนี้ที่สุดท้ายแล้ว “ณรงค์ฤทธิ์”ที่ถูกเพ่งเล็งตอนแรกว่าเป็นมือแฮกป่วนรัฐบาล ก็ยังไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ แต่สิ่งที่รัฐบาลได้ไปแล้วก็คือภาพพจน์ที่ถูกหยามหน้ากลับคืนมา เพราะเมื่อเวลาผ่านไปสังคมก็จะลืมเรื่องแฮกเกอร์ เนื่องจากมีข่าวการรู้ตัวมือแฮกแล้ว แต่จะใช่ตัวจริงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะรัฐบาลแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น