โฆษก ปชป.โต้ “สุรนันทน์” โชว์อีเมลแฉ ชื่อโผล่ขวางสื่อมะกัน พบ หน.ปชป. เตรียมร่อนหนังสือถามข้อเท็จจริงสื่อ ผิดยื่นผู้ตรวจฯ ฟัน ตอกโฆษก พท.ปัญญาอ่อนกุข่าวไร้หลักฐาน ปชป.ทุ่มสิบล้านจ้างนักรับไซเบอร์ป่วน รบ. ย้อน “เฉลิม” จับแพะมั่ว เย้ยอย่าทำเอาหน้า ชี้เห็นผลใช้แรงครึ่งหนึ่งตามคดีด่านายกฯ มาปราบเว็บหมิ่น อัดเล่นลิเกกับดีเอสไอหวังยื้อแถลงการณ์ ปชป. ย้ำไร้ผล ดัก “นพดล” แจงทูต ตปท. อย่าลืมพฤติกรรมนายใหญ่
วันนี้ (10 พ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงกรณีที่ตนเปิดเผยว่ามีการแทรกแซงสื่อต่างชาติไม่ให้สัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน โดยพูดว่ามีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนคือ นสพ.ยูเอสเอทูเดย์ เพื่อทำเอกสารแนบกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง และอ้างว่าไม่ได้มีคนในรัฐบาลแทรกแซงสื่อมวชนนั้น ตนมีหลักฐานเป็นอีเมลติดต่อที่ยืนยันได้ว่ามีคนในรัฐบาลกดดันไม่ให้สัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์จริง
นายชวนนท์ได้นำหลักฐานอีเมลติดต่อของ นสพ.ยูเอสเอ ทูเดย์ ที่ติดต่อผ่านนายสมเกียรติ ครองวัฒนาสุข เลขานุการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งติดต่อมาตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 56 มีเนื้อหาว่า เนื่องจากจะมีคณะเดินทางมาในวันที่ 1-24 พ.ค. 56 ขอสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ วันที่ 6, 7 หรือ 9 พ.ค. 56 หลังจากนั้นนายสมเกียรติได้ตอบกลับไปในวันที่ 2 พ.ค. 56 ว่านายอภิสิทธิ์พร้อมที่จะพบคณะของหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ในวันที่ 7 หรือ 9 พ.ค. 56 เวลา 10 นาฬิกา จากนั้นมีการตอบกลับมาวันที่ 3 พ.ค.เวลา 16.11 น. ว่าขอบคุณสำหรับอีเมลดังกล่าว เขาพร้อมที่จะสัมภาษณ์ในวันที่ 9 พ.ค.เวลา 10 นาฬิกา พร้อมกับแจ้งชื่อบุคคลที่จะมาสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นแค่ชั่วโมงเดียว มีอีเมลที่ตอบกันในกลุ่มผู้สื่อข่าว แต่บังเอิญมาปรากฏที่อีเมลของนายสมเกียรติเวลา 17.17 นาฬิกาด้วย มีข้อความ “ให้ยกเลิกนัดนี้ทันที เพราะเพิ่งคุยกับนายสุรนันทน์ บอกว่าสำนักนายกฯจะไม่สนับสนุนพวกเราถ้าไปพบกับนายอภิสิทธิ์” และหลังจากนั้นเพียงสิบนาทีผู้ที่ติดต่อกับนายสมเกียรติก็ส่งอีเมล์มาขอยกเลิกการสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์
“ผมไม่แน่ใจว่านายสุรนันทน์พูดโกหก หรือผู้สื่อข่าวต่างชาติกุเรื่อง จึงอยากออกมายืนยันว่า สุรนันทน์ ที่สื่อดังกล่าวพูดคุยด้วย ใช่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ หรือไม่ที่ไปยกเลิกไม่ให้สื่อต่างประเทศสัมภาษณ์คนนามสกุลเวชชาชีวะอีกคนหนึ่ง” นายชวนนท์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนจะทำหนังสือไปถามยูเอสเอทูเดย์ เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย โดยหากมีความชัดเจนว่าเป็นการแทรกแซงสื่อจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบการกระทำของสำนักนายกรัฐมนตรีว่ามีพฤติกรรมแทรกแซงสื่อมวลชนซึ่งเป็นการกระทำละเมิดรัฐธรรมนูญ 46 วรรค 3 ที่ระบุว่า การกระทำใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าว หรือการแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะของบุคคลให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เว้นแต่เป็นการกระทำเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่เว็บสำนักนายกรัฐมนตรีถูกแฮกและนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่ามีการจ้างนักรบไซเบอร์เป็นเงินหลายสิบล้านบาท โดยพยายามโยงว่าเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ว่าถือเป็นเรื่องปัญญาอ่อน ไม่มีพื้นฐานข้อเท็จจริง เป็นการพูดเพื่อสร้างประเด็นใหม่กลบเกลื่อนประเด็นเก่า เป็นพฤติกรรมที่น่าละอายที่สุดของนักการเมืองเหล่านี้ จึงต้องเรียกร้องให้มีการประนามพฤติกรรมดังกล่าวโดยเฉพาะคนเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่พูดในเรื่องไม่จริง ไร้หลักฐาน ให้ร้ายคนอื่น และการที่ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาระบุว่า อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่งเป็นผู้กระทำผิดนั้น ขณะนี้คนที่ถูกพาดพิงก็ออกมาปฏิเสธแล้ว
“อยากให้มีการสืบสวนอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่จับแพะหรือเอาผู้บริสุทธิ์มารับบาป เพราะแย่งกันเอาหน้ากับนายกรัฐมตรี เพราะมีความกระตือรือร้นที่จะจับตัวคนที่หมิ่นนายกฯ แต่กรณีหมิ่นสถาบันไม่เคยจับใครได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้เห็นว่าถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมีความกระตือรือร้นแค่ครึ่งเดียวกับกรณีนายกฯ การหมิ่นสถาบันจะลดลงได้มาก แต่ในขณะนี้รัฐบาลปล่อยปละละเลย จึงอยากขอร้องว่าให้ใช้แรงแค่ครึ่งเดียวของกรณีนายกฯ ก็จะช่วยแก้ปัญหาการหมิ่นสถาบันได้” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า จากกรณีที่นายพร้อมพงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยนำแถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตอบโต้ปาถกฐาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มองโกเลียไปส่งต่อให้ดีเอสไอว่า เป็นลิเกทางการเมืองอย่างแท้จริง เพราะเป็นความพยายามที่จะบิดเบือนสาระ ใช้ดีเอสไอที่เป็นเครื่องมือรัฐบาลมาคุกคามประชาธิปัตย์ เราไม่หวั่นไหวพร้อมเดินหน้าทำงานต่อสู้กับรัฐบาลที่ใช้อำนาจอย่างเหิมเกริม และขอเตือนไปยังนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอว่านับวันยิ่งทำให้หมดความน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อยๆ
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า สำหรับสาระที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอกว่าจะมีการออกแถลงการณ์ส่งไปยังสถานทูตประเทศต่างๆ นั้น ก็อยากให้พูดข้อเท็จจริง คือ 1. พ.ต.ท.ทักษิณร่ำรวยจากสัมปทานในรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารจริงหรือไม่ เพื่อพิสูจน์ว่าต่อต้านรัฐประหารความจริงมีวันนี้ได้เพราะการรัฐประหารให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องถือว่าการรัฐประหารให้คุณกับ พ.ต.ท.ทักษิณมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย 2. พ.ต.ท.ทักษิณมีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชัน แก้กฎหมายเพื่อสร้างผลกำไรให้กับบริษัทของตัวเองและญาติพี่น้อง 3. พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศไทยในสมัยสมัคร แต่เมื่อเห็นว่าตัวเองจะไม่ได้รับคำพิพากษาตามที่ต้องการเพราะถุงขนมสองล้านไม่เป็นผลจึงขอเดินทางออกนอกประเทศ หนีคดีมาจนถึงทุกวันนี้จริงหรือไม่ 4. ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันด้วยว่า การชุมนุมปี 2553 มีชายชุดดำ กองกำลังติดอาวุธ ทำร้ายทหาร ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งนางนิชา ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สี่แยกคอกวัว วันที่ 10 เม.ย. 53 ก็ออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่นำศพคนเหล่านี้ไปรวมเพื่อหาประโยชน์ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ