กมธ.เสียงข้างน้อยกู้ 2 ล้านล้าน ติง รบ.แจงขอไปที คนเป็นหนี้ไม่มีสิทธิ์รู้ ชี้โครงการรถไฟรางคู่ข้อมูลไม่ชัด ใช้งบสูงกว่า รฟม.ร้อยละ 81 จนถูกตีกลับปรับราคาใหม่ แถมค่าก่อสร้างสูงกว่ากรมทางหลวง แฉมีเงินซ้ำซ้อน 2.3 พันล้าน ยันที่ปรึกษาโครงการไม่จำเป็น ควรมีแค่ด้านควบคุมงาน เซฟงบร้อยละ 2.7 ย้ำ 57 โครงการงบ 2 ล้านล้าน พร้อมแค่ร้อยละ 80 แนะจับตาสัปดาห์หน้าถกรถไฟฟ้า-ใต้ดิน เชื่อมสายหลัก
วันนี้ (16 พ.ค.) นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิฑูรย์ นามบุตร และนายอนุชา บูรพชัยศรี ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจำนวน 2 ล้านล้านบาท (พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) แถลงถึงกรณีความคืบหน้าการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ว่า ตนและกรรมาธิการเสียงข้างน้อยได้ทวงถามข้อมูล และรายงานจากรัฐบาลทุกครั้ง แต่ก็จะได้รับข้อมูลแบบกะปริดกะปรอย ซึ่งตนขอเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่าคนเป็นหนี้ไม่มีสิทธิ์รู้
นายสามารถกล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ทั้ง 11 โครงการ มีถึง 6 โครงการที่ยังไม่ได้ทำการศึกษา และออกแบบรายละเอียด ในส่วนอีก 5 โครงการที่เหลือมีรายละเอียดบ้าง แต่รัฐบาลกลับนำเอกสารมาแจกในที่ประชุม ซึ่งทำให้ตรวจสอบไม่ทัน ที่สำคัญเป็นที่น่าตกใจเมื่อพิจารณาถึงค่าก่อสร้างในโครงการดังกล่าว เพราะราคาสูงกว่าที่ รฟม.เคยก่อสร้างไว้ โดยค่าเฉลี่ยของ 5 โครงการดังกล่าว อยู่ที่ 125 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ในขณะเดียวกัน ค่าก่อสร้างรถไฟรางคู่สายฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ซึ่ง รฟม.ได้เปิดใช้บริการไปแล้ว มีค่าก่อสร้างเฉลี่ยเพียง 69 ล้านบาทต่อกิโลเมตร หรือหมายความว่า รถไฟรางคู่ใน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท แพงกว่าโครงการ รฟม.ถึงร้อยละ 81
นายสามารถกล่าวต่อว่า ที่สุดที่ประชุมกรรมาธิการก็มีมติให้ รฟม.นำกลับไปหารือกับสำนักงบประมาณและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อพิจารณาปรับราคาแล้วนำกลับมาเสนอให้กรรมาธิการพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องค่าที่ปรึกษาโครงการก็ยังเป็นที่ถกเถียงกัน เพราะทาง รฟม.จ้างที่ปรึกษา 2 ส่วน คือ ด้านบริหารงานโครงการ หรือพีเอ็มซี และด้านควบคุมงาน หรือซีเอสซี ซึ่งกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ยืนยันว่า มีแค่เพียงที่ปรึกษาด้านควบคุมงานก็เพียงพอแล้ว เพราะผู้ควบคุมงานมีความจำเป็นต่อโครงการ ทั้งนี้ หากตัดค่าที่ปรึกษาบริหารงานโครงการออกจะช่วยลดค่าใช้จ่ายประมาณร้อยละ 2.7 ของการก่อสร้าง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะถอยไม่จ้างที่ปรึกษาด้านบริหารงานโครงการ
ด้านนายวิฑูรย์กล่าวว่า โครงการทั้ง 57 โครงการในงบประมาณเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทว่าทั้งหมดมีความพร้อมไม่ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟรางคู่มีราคาก่อสร้างที่แพงกว่าปกติเมื่อเทียบกับราคาของกรมทางหลวง เช่น การถมดิน 311 บาท ต่อคิว แต่กรมทางหลวงตกอยู่ที่ 100 กว่าบาท การถมลูกรัง 932 บาทต่อคิว แต่กรมทางหลวงไม่เกิน 300 บาท เป็นต้น
ขณะที่นายอนุชากล่าวว่า มีการตั้งวงเงินที่สูงเกินจริงและมีความซ้ำซ้อน เช่น แผนงานปรับปรุงอาณัติสัญญาณไฟของการรถไฟฯ มีการตั้งวงเงินซ้ำซ้อนกันถึง 2.3 พ้นล้านบาท ซึ่งวงเงินนี้ก็ไปปรากฏอยู่ในโครงการรถไฟรางคู่อีกเช่นกัน
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ได้กล่าวว่า ให้ติดตามการพิจารณาของกรรมาธิการในสัปดาห์หน้า ที่จะมีการพิจารณารถไฟฟ้าสายสีแดง รถไฟลอยฟ้า และรถไฟใต้ดินด้วย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปเรื่องการก่อสร้างรถไฟสายหลัก