กมธ.กู้เงินพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ด้านคมนาคม มูลค่า 2 ล้านล้าน ติง สนข. แจงตัวเลขค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการเดียวกันแต่ตัวเลขต่างกัน ขณะที่ สนข. ยันไม่ผิดปกติ เหตุแจงตังเลขก่อนมีการปรับงบประมาณ 2 ล้านล้าน
การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... ที่รัฐสภา วันนี้ (14 พ.ค.) มีนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองประธาน กมธ.เป็นประธานการประชุม โดยในวันนี้เป็นการพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการรถไฟรางคู่ในบัญชีแนบท้าย
นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ กรรมาธิการ กล่าวว่า เอกสารประกอบบัญชีแนบท้ายของร่างพ.ร.บ. และตารางที่แสดงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าที่ปรึกษาของโครงการต่างๆ ที่ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)นำเสนอนั้น ตัวเลขไม่ตรงกันทั้งที่เป็นโครงการเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากให้ยึดเอกสารประกอบบัญชีแนบท้ายเป็นตัวหลักก็จะเห็นว่าเอกสารดังกล่าวไม่มีค่าศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบและสิ่งแวดล้อม ซึ่งแตกต่างกับตารางของสนข.ที่มีแสดงอยู่ อีกทั้งต้องการทราบว่าค่าดำเนินการต่างๆ ทั้งก่อนและหลังที่มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.เพราะอาจจะมีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนกับเงิน 2 ล้านล้านบาท
นายสามารถ ระบุว่าดูตัวอย่างโครงการก็เห็นว่ายังมีตัวเลขอีกหลายรายการที่ยังต้องการสอบถาม เช่น ตัวเลขการจ้างที่ปรึกษาของ รฟท. ที่มีมูลค่ากว่า 76 ล้าน แต่การจ้างยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าที่ปรึกษามีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
ด้านตัวแทนจากสนข. ชี้แจงว่า ขอให้ยึดเอกสารประกอบบัญชีแนบท้ายเป็นตัวหลัก เพราะตารางที่แสดงค่าใช้จ่ายฯนั้น เป็นเอกสารที่แสดงความต้องการต่อคณะรัฐมนตรีครั้งที่ยังไม่มีการปรับงบเป็น 2 ล้านล้านบาท
ส่วน นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยใช้งบประมาณแผ่นดินซ้ำซ้อนรวมถึงการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ก็ไม่ซ้ำซ้อนกับงบประมาณเงิน 2 ล้านล้าน เช่นกัน
ด้าน นายเจือ ราชสีห์ กรรมาธิการ กล่าวถึงความพร้ออมของหน่วยงานต่างๆในโครงการ ซึ่งเรื่องความพร้อมนี้อยากให้หน่วยงานแจ้งว่ายังไม่พร้อมในเรื่องใด รวมถึงความล่าช้าของโครงการต่างๆว่าเกิดจากสาเหตุใด
ขณะที่ นายวิฑูรย์ นามบุตร กรรมาธิการ กล่าวถึงค่าจ้างของที่ปรึกษาที่ในที่ประชุมกรรมธิการระบุว่าให้จัดจ้างไปก่อนซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ดังนั้นก่อนมีการตั้งงบประมาณในการจ้างที่ปรึกษาควรมีการประเมินรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้งบประมาณที่จะไม่เกิดประโยชน์ เพราะไม่ทุกโครงการที่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษา ซึ่งหากมีการทบทวนที่ดีค่าจ้างที่ปรึกษาจำนวน 4 หมื่นกว่าล้านก็จะลดลงได้อีก