รมต.สำนักนายกฯ เผย ครม.ดูร่าง พ.ร.บ.งบ ปี 57 อีกรอบ 14 พ.ค.ก่อนชงสภา คาดเปิดสมัยวิสามัญ 29-30 เดือนนี้ เล็งชงเสียบ พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน เข้าด้วย
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 อีกครั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ก่อนที่จะส่งให้สภาพิจารณา ซึ่งคาดว่า จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเป็นกรณีเฉพาะในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ในวันที่ 29-30 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ ตนกำลังพิจารณาดูว่าในฐานะที่เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง พ.ศ. … หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะสามารถทำได้แล้วเสร็จทันหรือไม่ในช่วงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญเป็นกรณีเฉพาะนี้หรือไม่ หากทันจะขอส่งให้สภาพิจารณาในช่วงเดียวกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมาธิการว่าจะทำได้ทันหรือไม่ คงจะต้องดูที่บัญชีท้ายเป็นหลัก ซึ่งหากสมมติว่าทันก็อาจจะมีการพิจารณาหลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 เพราะการประชุมสภาสมัยวิสามัญนั้นอาจจะมีเวลาในการเปิดมากขึ้น แทนที่จะเป็น 2-3 วัน อาจจะเป็น 3-4 วัน โดยความชัดเจนต้องรอหลังจากประชุมคณะกรรมาธิการในสัปดาห์หน้าก่อนจึงจะเห็นแนวทางว่าทันหรือไม่
นายวราเทพ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยได้พิจารณาไปแล้วจำนวน 10 มาตรา จากจำนวนทั้งสิ้น 19 มาตรา ทั้งนี้ ในมาตราต่างๆ จะมีมาตราสำคัญคือ มาตรา 5 และ 6 ที่มีรายละเอียดตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นรายละเอียดโครงการ และคณะกรรมาธิการได้มีมติให้รอการพิจารณาไว้ก่อน เพื่อที่จะมีการพิจารณามาตราที่เหลือให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจึงจะนำบัญชีท้ายมาพิจารณาร่วมกับมาตรา 5 และ 6 อย่างไรก็ตาม การพิจารณาของคณะกรรมาธิการที่ผ่านมาได้มีการสอบเรื่องความจำเป็นในการลงทุน โครงการ เม็ดเงิน และวิธีการกู้เงิน โดยได้มีการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่เป็นที่พอใจของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากที่ยังคงยืนยันให้เป็นไปตามร่างเดิม แต่คณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยแค่ฝากไว้ ยังไม่มีการเสนอแปรญัตติ มีเพียง ส.ส.ที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมาธิการได้มีการเสนอคำแปรญัตติมาแล้วตามคำกรอบเวลา 30 วัน โดยมีทั้งสิ้น 145 คน