วันนี้ (29 เม.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ที่มีนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้เชิญนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าชี้แจง แต่ปรากฏว่า นายประสาร ติดภารกิจ จึงได้มอบหมายให้ น.ส.พรเพ็ญ สดศรีชัย ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจงแทน โดยนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้แสดงความเป็นห่วงถึงสภาพแวดล้อมทางการเงินของประเทศจากการกู้เงินดังกล่าวว่าต้องกระทบต่อตลาดการเงินอย่างแน่นอน
น.ส.พรเพ็ญ ชี้แจงว่า การกู้เงินดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือตลาดการเงินมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการดำเนินการ 4 ข้อ คือ 1.การกระจายการกู้เงินภายใน 7 ปี ซึ่งธปท. จะมีการกระจายการกู้เงินและหลีกเลี่ยงการกู้เงินล็อตใหญ่ 2.หากรัฐบาลดำเนินการตามงบประมาณสมดุล การกู้เงินในระบบงบประมาณและโยกบางส่วนมาเป็นการกู้นอกงบประมาณแทนวงเงินกู้รวมในแต่ละปี ก็ไม่น่าจะมากจนเกินไป และหากมีการลดการกู้เงินในงบประมาณและการกู้เงินในรัฐวิสาหกิจ น่าจะลดทอนผลกระทบลงได้ 3.ต้องวางแผนแนวทางการกู้เงินอย่างเหมาะสมและเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานกู้เงินชนกัน และ 4. เมื่อกู้เงินแล้วต้องเร่งใช้เงิน เพื่อเงินจะได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว หรือหมายถึงการหลีกเลี่ยงการกู้เงินมากองไว้
น.ส.พรเพ็ญ ชี้แจงว่า การกู้เงินดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือตลาดการเงินมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการดำเนินการ 4 ข้อ คือ 1.การกระจายการกู้เงินภายใน 7 ปี ซึ่งธปท. จะมีการกระจายการกู้เงินและหลีกเลี่ยงการกู้เงินล็อตใหญ่ 2.หากรัฐบาลดำเนินการตามงบประมาณสมดุล การกู้เงินในระบบงบประมาณและโยกบางส่วนมาเป็นการกู้นอกงบประมาณแทนวงเงินกู้รวมในแต่ละปี ก็ไม่น่าจะมากจนเกินไป และหากมีการลดการกู้เงินในงบประมาณและการกู้เงินในรัฐวิสาหกิจ น่าจะลดทอนผลกระทบลงได้ 3.ต้องวางแผนแนวทางการกู้เงินอย่างเหมาะสมและเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานกู้เงินชนกัน และ 4. เมื่อกู้เงินแล้วต้องเร่งใช้เงิน เพื่อเงินจะได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว หรือหมายถึงการหลีกเลี่ยงการกู้เงินมากองไว้