ปชป.ฟ้องหมิ่น “ปึ้ง” สัปดาห์หน้า เชื่อ “ปู” ปล่อยแดงขู่ศาลหวังสุมไฟรุนแรง

โฆษกประชาธิปัตย์ เผย พรรคฟ้องหมิ่น “สุรพงษ์” สัปดาห์หน้า ซัดบิดเบือนข้อเท็จจริงรัฐบาลมาร์คไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ตำหนิ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ขอโทษครอบครัวทหารตายสู้ม็อบแดง, ชาวสีลม แถมไม่สะทกสะท้านเล่าความเท็จ จวกรัฐสร้างภาพ “นช.แม้ว” วีรบุรุษประชาธิปไตย เชื่อนายกฯ ปล่อยแดงขู่ศาล รธน.หวังยกระดับความรุนแรง จี้รีบแก้ปัญหา 4 เรื่อง



วันนี้ (5 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจที่จะดำเนินคดีกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่นายสุรพงษ์ ได้ให้ความเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยกล่าวคำโกหกว่าเวทีนานาชาติรู้ว่ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งคือ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งนอกจากเป็นการพูดเท็จอย่างน่าละอายแล้ว ยังเป็นการเล่นการเมืองที่เลอะเทอะ โดยพรรคจะดำเนินคดีกับนายสุรพงษ์ ข้อหาหมิ่นประมาทอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง เพราะนายสุรพงษ์ เป็นตัวแทนของประเทศไทยแต่กลับบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างร้ายแรงเพื่อเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น

นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนตำหนิท่าทีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีการกล่าวคำขอโทษนางนิชา ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากการไปปกป้องประชาธิปไตยจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่มีชายชุดดำติดอาวุธแฝงตัวอยู่ ที่แย่ไปกว่านั้นคือนอกจากไม่ขอโทษแล้ว นายกฯ ยังไม่สะทกสะท้านกับการที่ไปพูดความเท็จจนประเทศเสียหาย เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ เคยนั่งอยู่ในการชุมนุมคนเสื้อแดงด้วย นอกจากนี้ยังเห็นว่านายกรัฐมนตรีต้องขอโทษครอบครัวของนางสาวธนัชนันท์ แถบทอง ประชาชนที่เสียชีวิตที่สีลมด้วย เพราะมีการไปกล่าวอ้างว่าการเสียชีวิตของคนเหล่านี้เกิดขึ้นจากการไปเรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งที่เป็นประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมแต่อย่างใด อีกทั้งจนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่กลับชะลอที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายด้วย

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในรัฐบาลชุดนี้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงและกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรง จึงเชื่อประชาชนจะรับไม่ได้กับการทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามนายกฯยังได้สะท้อนตัวตนที่แท้จริงด้วยว่า การที่พยายามสร้างภาพให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย แต่ไม่พูดถึงการทุจริต คอร์รัปชั่น การวีดีโอลิงค์สร้างความปั่นป่วนในประเทศไทย เพราะต้องการเดินหน้าล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไปสร้างความชอบธรรมล่วงหน้าในต่างประเทศ เกี่ยวกับการออกกฎหมายล้างผิดที่อาจจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาในสมัยต่อไป และที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดว่ากฎหมายปรองดองเป็นเรื่องของสภานั้นนายกรัฐมนตรีโกหก เพราะเป็นผู้สนับสนุนให้กฎหมายนี้เดินหน้าต่อไป นอกจากนี้ในเรื่องการแทรกแซงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่ไม่ปฏิบัติตามความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยกล่าวหาว่า องค์กรอิสระใช้อำนาจมากเกินไป ทำให้ประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นความน่าละอายอย่างยิ่ง เพราะนายกฯดูถูกกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นการกระทำที่ผิดมารยาทอย่างแรงเอาเรื่องเท็จไปใส่ร้ายประเทศ จะกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน การท่องเที่ยว ที่จะเข้าใจว่าประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตยตามคำใส่ร้ายของนายกรัฐมนตรี

สำหรับมวลชนเสื้อแดงที่กดดันหน้าศาลรัฐธรรมนูญและจะยกระดับในวันที่ 8 พ.ค.นี้ นายชวนนท์ กล่าวว่า ก็ถือเป็นความต้องการของนายกรัฐมนตรีที่จะให้เกิดเหตุรุนแรง เพราะไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง ไม่มีการปรามแต่กลับให้ท้ายสนับสนุนให้ยกระดับการชุมนุม ซึ่งทำให้ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงไม่กล้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับตุลาการ แตกต่างจากกรณีการชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้าย ที่ไม่มีการประกาศจับกุมหรือล้อมใคร แต่นายกรัฐมนตรีกลับประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ในขณะที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่จะจับตุลาการ กลับไม่มีการสั่งการใดๆ เป็นความอยุติธรรม ปฏิบัติงานสองมาตรฐานที่ชัดเจนรุนแรงที่สุด ตนเสียดายที่นายกฯมีเวลาทำงานมาแล้วสองปี แต่ภารกิจมีแค่ที่มองโกเลีย เพื่อล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และแทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน ดังนั้นพรรคจะเดินหน้าให้ความจริงกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อคัดค้านรัฐบาลลุแก่อำนาจ สองมาตรฐาน ใช้อำนาจเกินหน้าที่ จะสร้างความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ต่อประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ประชานร่วมกันต่อต้านการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องตาม กรอบของกฎหมาย

นอกจากนี้นายชวนนท์ ยังเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาประชาชน 4 เรื่องคือ 1.การขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีที่จะเริ่มเดือนมิถุนายน เดือนละ 50 สตางค์ จนครบ 6 บาท ขอให้ทบทวนและยกเลิกการขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีโดยเด็ดขาดเพราะไม่ใช่แก๊สนำเข้าที่ต้องอิงราคาตลาดโลก 2.ปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตร ประชาชนสอบถามว่าเงินกู้ 3.5 แสนล้านชาวอีสานจะได้อะไร เพราะรายละเอียดโครงการไม่มีว่าพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์อยู่ที่ใด จึงอยากให้เร่งแก้ปัญหาให้ชาวอีสานโดยด่วน 3.ปัญหาของแพงปีที่แล้วแพงทั้งแผ่นดิน แต่ปีนี้แพงกว่าทั้งแผ่นดิน มะนาวลูกละ 10 กว่าบาท พืชผักราคาสูงกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ เกือบสามเท่าตัว 4.ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารา และปาล์ม ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หน้านี้ยางพาราออกสู่ตลาดน้อยราคาต้องสูงขึ้น แต่ราคากลับถูกกดลงเหมือนมีการบิดเบือนกลไกตลาดปกติ อยากให้เร่งดูแลเพราะมีการผลาญงบประมาณไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาทแต่ราคายางพารายังไม่สูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาปาล์มที่ราตกต่ำแต่เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาผลปาล์มอยู่ที่ 4 บาท แต่ราคาน้ำมันปาล์มขวดกลับเท่ากับรัฐบาลประชาธิปัตย์ ทั้งๆ ที่ผลปาล์มถูกกว่าในรัฐบาลประชาธิปัตย์ถึงสองเท่า โดยเชื่อว่ามีการปล่อยให้ลักลอบนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศทำให้ราคาในประเทศตกต่ำลง