ปชป.ชิมลางปฏิรูปพรรค ใช้อยุธยานำร่องจัดประชุมไพรมารีและคอคัส เปิดโอกาสผู้สนใจเสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส. ก่อนคัดเลือกให้พรรคพิจารณา “อลงกรณ์” ระบุถึงเวลานำพรรคสู่สายตาประชาชน ไม่ใช่ถูกชี้นิ้วโดยผู้ใหญ่บางคน ต้องสร้างการเมืองแบบมีส่วนร่วม เอางานนำหน้าเงิน ไม่เก่งแต่พูด สร้างประเทศด้วยงาน นำพรรคสู่อ้อมกอดประชาชน ไม่อิงแอบเผด็จการ เชื่อถ้า พท.ยังบริหารด้วยระบบกงสีและหลงจู๊ ที่สุดจะไม่ทัน ปชป.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 พ.ค.) พรรคประชาธิปัตย์จัดการประชุมโครงการนำร่องระบบเปิดกว้างแบบไพรมารีและคอคัส "ร่วมเสนอ ร่วมสรรหา ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ที่โรงแรมวรบุรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อคัดเลือกผู้สมัครส.ส.โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคและผู้สนใจเสนอตัวหรือบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในเลือกตั้ง ซึ่งให้รองหัวหน้าพรรคภาคแต่ละภาคดำเนินการนำร่องในจังหวัดที่ไม่มี ส.ส.และ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดแรก ตามข้อเสนอของคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง กล่าวว่าพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมี ส.ส.เป็นจังหวัดที่เป็นเมืองหลวงเก่า เป็นเมืองเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศ พรรคจึงควรมี ส.ส.ในพื้นที่ เพื่อเป็นตัวแทนดูแลการพัฒนาและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องทำหน้าที่ดูแลประชาชน ขยายสาขาพรรค เอาใจใส่ดูแลพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้สมัคร ส.ส. โดยผู้ที่ได้รับการเสนชื่อในวันนี้จะต้องเสนอวิสัยทัศน์ ประวัติผลงานบนเวทีประชุมสมาชิกพรรค จ.พระนครศรีอยุธยาในอีก 30 วัน เพื่อลงคะแนน ก่อนจะส่งรายชื่อให้คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ก่อนส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาให้ความเห็นชอบ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินไปข้างหน้าไปสู่อนาคตด้วยการปฏิรูปพรรค แต่รัฐบาลกำลังกลับไปหาอดีต วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เปิดกว้างสร้างโอกาส พรรคยอมรับความผิดพลาดที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงพรรคและขอโอกาสประชาชนกลับมาทำงานให้ประเทศ เราจึงต้องปฏิรูปพรรค โดยวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคจะนัดประชุมถึงเรื่องการปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ เพื่อให้ตกผลึก เพื่อเตรียมตัวในการเลือกตั้งที่จะขึ้นวันไหนก็ได้ ใน 1 ปี หรือ 2 ปีเศษข้างหน้า
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราต้องนำพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาอยู่ในสายตาของประชาชนไม่ใช่อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่บางคนบางท่าน วันนี้เรามีการจัดตั้งศูนย์ประชาธิปัตย์ตำบลและหมู่บ้าน มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น ต้องเอางานนำหน้าเงิน สร้างผู้นำประชาธิปไตยรุ่นใหม่ สร้างอุดมการณ์ไม่ใช่อุดมกิน สร้างการเมืองแบบมีส่วนร่วม ประชาชนต้องมาช่วยกันจ่ายเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ เพราะประชาชนเป็นผู้ให้กำเนิดนักการเมือง เพื่อให้ได้นักการเมืองดี มีความสามารถ ทำงานนำหน้าเงิน ไม่ใช่ปล่อยให้คนมีเงินนำเงินเข้าสู่อำนาจ มีเงินก็ได้เป็นนักการเมืองเหมือนในวันนี้ แล้วคนดีจะมาเป็น ส.ส.ได้อย่างไร
“ประชาธิปัตย์ต้องไม่ถูกมองว่าดีแต่ปาก เก่งแต่พูด เราต้องสร้างประเทศด้วยงาน นำพรรคกลับมาสู่อ้อมอกอดของประชาชน ไม่อิงแอบเผด็จการอีกต่อไป เพราะเราเป็นตัวของคนทุกชนชั้น เพราะประชาธิปัตย์หลังพิงฝากับเผด็จการมาโดยตลอด จุดยืนอย่างนี้จึงจะสร้างศรัทธาในใจประชาชน”
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เมื่อเราคิดเก่ง ทำเก่ง บริหารจัดการเก่ง แล้วเราจะชนะพรรคเพื่อไทยเอง ซึ่งจะเป็นแรงกระเพื่อมทำให้พรรคเพื่อไทยต้องปฏิรูปตัวเอง เพราะที่สุดแล้วก็จะไม่ทันพรรคประชาธิปัตย์ เพราะวันนี้คนในพรรคเพื่อไทยเองก็รู้ดีว่าพรรคของเขา ยังไม่ได้เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นเหมือนธุรกิจที่บริหารด้วยระบบกงสีและหลงจู๊ แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครเป็นเจ้าของ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ของนายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือนาอลงกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แต่เป็นของทุกคน
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ระบบการสร้างโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคน เหมือนการสอบจอหงวน ไม่มีการปิดกั้น พรรคประชาธิปัตย์ต้องสร้างการเมืองส่วนร่วมในระดับตำบล ไม่เกิน 2 ปีจะมีตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์เป็นสมัครการเมืองท้องถิ่นในระดับหมู่บ้าและตำบลหมู่ หากเราสร้างการเมืองแบบมีส่วนร่วมและสร้างตัวแทนพรรคให้ได้เกินครึ่งหมู่บ้าน แต่ตัวแทนของพรรคต้องผ่านการประเมินการทำงานใน 6 เดือนแรก หากไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินและผลสำรวจความนิยมในพื้นที่ ก็จะได้เป็นตัวแทนพรรคเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น จากนั้นพรรคจะสรรหาใหม่