อดีต ปธ.ผันน้ำลงทะเล ศปภ. บุกศาลปกครอง ถามคำฟ้องขอถอนทีโออาร์แผนจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน เผยศาลสั่งไม่รับ อ้างเจ้าตัวแค่เดาไปเองว่าโกง แต่ไม่ได้ระบุพฤติการณ์ชี้ กบอ.ทุจริต แถมไม่ใช่คนเดือดร้อน บอกไม่อุทธรณ์ ขอน้อมรับด้วยความขมขื่น โอดเสียภาษีก็ต้องฟ้องได้ จี้สื่อจับตาเปิดซองประมูล ไม่ตอบ “ปลอด” แฉ กบอ.โดนบีบออก แต่เชื่อคงอึดอัดโทรศัพท์ลึกลับเหมือนกัน แย้มจ่อเขียนพ็อกเกตบุ๊กเปิดโปง
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่สำนักงานศาลปกครอง นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้เข้าสอบถามความคืบหน้าต่อศาลปกครองกรณีที่ได้ยื่นคำฟ้องเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ขอให้ศาลปกครองเพิกถอนข้อกำหนดและขอบเขตของงาน หรือทีโออาร์ ในแต่ละโมดูลของแผนบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท แต่ปรากฏว่าได้รับทราบว่าศาลมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าข้ออ้างของนายอุเทน ที่ว่าการออกข้อกำหนดและขอบเขตงานตามโครงการบริหารจัดน้ำในแต่ละโมดูลอาจจะมีการทุจริต อาจทำให้เกิดการสูญเสียงบประมาณ และอาจเกิดการทำสัญญาที่เป็นนิติกรรมอำพราง แต่ทั้งหมด ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ของนายอุเทน ซึ่งนายอุเทน ไม่มีการระบุหรือกล่าวอ้างว่าคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติอย่างไร แม้นายอุเทนจะอ้างว่าโครงการดังกล่าวยังไม่มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ตามที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการขัดต่อสิทธิของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 57 มาตรา 58 และมาตรา 87 แต่ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นว่าการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือเสียหายแก่นายอุเทนอย่างไร ศาลจึงเห็นว่านายอุเทนไม่ใช้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้อันเนื่องมาจากการกระทำหรืองดเว้นการกระทำของหน่วยงานทางปกครองที่จะมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองตามมาตรา 42 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 จึงสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา
ขณะที่นายอุเทนกล่าวว่า เมื่อศาลฯ มีคำสั่งดังกล่าวคงจะไม่ยืนอุทธรณ์ พร้อมน้อมรับด้วยความขมขื่นเพราะส่วนตัวคิดว่าในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เสียภาษีย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องคดีได้ โดยหลังจากนี้อยากให้สื่อและประชาชนติดตามว่าจะมีการเปิดซองเทคนิค ซองราคา ที่มีการยื่นในวันนี้เมื่อใด และช่วยกันตั้งคำถามไปยังผู้เกี่ยวข้องว่า มีหลักเกณฑ์และกรอบแนวคิดในการให้แต่ละบริษัทมีสิทธิได้โครงการในแต่ละโมดูลอย่างไร และร่างทีโออาร์ที่กำหนดนั้นมีความเหมาะสมอย่างไร ซึ่งส่วนตัวในฐานะคนที่ทำงานเรื่องนี้มาเชื่อว่าไม่เหมาะสมเลย อย่างไรก็ตามตนได้ทำจดหมายเปิดผนึกผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงถึงการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองในครั้งนี้ว่า ตนไม่ได้คัดค้านรัฐบาล พรรคเพื่อไทย หรือ กบอ. แต่คัดค้านกระบวนการในการจัดทำทีโออาร์ที่จะเปิดดำเนินการว่ามีช่องว่างช่องโหว่ให้ผู้เกี่ยวข้องนำมาใช้และเกิดทุจริตได้ และสร้างปัญหาความวุ่นวายให้สังคม จะมีการขัดขวางฟ้องร้องจนโครงการต้องล้ม และสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติในอนาคต
เมื่อถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีออกมาระบุกรรมการในกบอ.ถูกบีบให้ลาออก นายอุเทนกล่าวว่า ในฐานะลูกผู้ชายไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่ก็เชื่อว่ากรรมการคนอื่นๆ คงจะได้รับโทรศัพท์เหมือนตนและรู้สึกอึดอัด ซึ่งการไม่เปิดเผยรายละเอียดครั้งนี้ก็เป็นไปได้ว่า หากในอนาคตจะออกพ็อกเก็ตบุ๊กก็จะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการทำงานของ กบอ.
“แม้ตอนนี้จะยังไม่เปิดเผยแต่ถ้ารู้สึกอึดอัดมาก ก็จะเขียนเป็นพ็อกเกตบุ๊กเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังของโครงการนี้ทั้งหมด” นายอุเทนกล่าว