รองประธาน กมธ.ต่างประเทศ สภาฯ เผยเตรียมยื่นศาล รธน.ทบทวนตัดสิทธิ ส.ส. “จตุพร” อ้างรัฐสภาโลกมีมติชี้ชัดศาลไทยไม่ปล่อยตัวไปเลือกตั้งขัด รธน. จวก “มาร์ค” ด่า “ปู” อคติริษยา ด้าน “ลูกชัจจ์” แย้มจ่อจุ้นกรณีศาล รธน.รับคำร้องค้านแก้ ม.68 ด้วย
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่รัฐสภา นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และน.ส.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. ร่วมกันแถลงว่า ในเวลา 13.00 น.จะไปยื่นให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาทบทวนการตัดสิทธิส.ส. ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากกรณีไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เพราะตามมติขององค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ (ไอพียู) ที่ประเทศไทยได้ลงนามในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง ประเทศไทยจึงมีพันธกรณีที่ต้องคุ้มครองสิทธิที่ได้รับรองไว้ตามกติกาดังกล่าว ซึ่งทางไอพียูได้พิจารณาว่าแม้รัฐธรรมนูญไทยจะบัญญัติไว้ โดยเฉพาะการตัดสิทธิทางการเมืองของบุคคลที่ถูกคุมขังโดยคำสั่งตามกฎหมายในวันเลือกตั้ง โดยยับยั้งมิให้บุคคลผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญา ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งขัดกับกติกาดังกล่าวในมาตรา 25 และเมื่อพิจารณาแล้วจึงเห็นว่าการปฏิเสธไม่ให้ ส.ส.ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกจากเรือนจำเพื่อไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จึงเป็นข้อจำกัดอันไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะบทบัญญัติของกฎกติกาที่รับรองว่าบุคคลซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญาเป็นผู้บริสุทธิ์ตามมาตรา 14 และให้ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากบุคคลผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดแล้ว ตามมาตรา 10 (2) โดยมติไอพียูเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ระบุว่าการตัดสิทธินายจตุพรดังกล่าวยังปรากฏว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในมาตรา 102 (4) จากข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาทบทวนมติดังกล่าว
น.ส.จารุพรรณกล่าวว่า ไอพียูมีความห่วงใยในการตัดสิทธิสมาชิกรัฐสภาในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ถึงกับมีคำสั่งให้เลขาธิการไอพียูเลื่อนเวลาการมาลงพื้นที่ที่ในประเทศไทย จากช่วงเดือนมิถุนายน มาเป็นกลางเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะขณะนี้ไอพียูได้ติดตามการรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราอาจเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลต่อสมาชิกภาพของ ส.ส.และ ส.ว.
นางกุสุมาลวตีกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกพรรคฝ่ายค้านโจมตีกรณีไปปาฐกถาพิเศษในเวทีประชุมประชาคมประชาธิปไตย ครั้งที่ 7 ที่ประเทศมองโกเลียว่า คำปาฐกถาของนายกฯ ถือเป็นสิ่งที่ดีในสังคมโลกที่เป็นประชาธิปไตย เพราะทั่วโลกเขารังเกียจการปฏิวัติรัฐประหาร สิ่งที่นายกฯ พูดเป็นการสะท้อนข้อเท็จจริงให้นานาชาติเข้าใจประเทศไทยได้ดีขึ้น และมีความเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าการตัดสินใจของรัฐบาลชุดนี้ยึดเอาแต่ผลประโยชน์ของนายกฯ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นตัวตั้ง จึงเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยความอคติและความริษยา